ดูท่านชายในสายหมอกย้อนหลัง (ตอนที่ 2) 13 กันยายน 2555

ท่านชายในสายหมอก — 13 กันยายน 2012

เจ้าชาย (หลุยส์ สก๊อต) ผู้ซึ่งเป็นรัชทายาทของประเทศนิวแลนด์ ดินแดนแห่งธรรมชาติอันรื่นรมย์ได้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย และเข้า พักในโรงแรมหรูพร้อมกับผู้ติดตาม(สุพจน์ จันทร์เจริญ)เจ้าชายต้องการแบก เป้และกล้องถ่ายรูปไปเที่ยวอย่างอิสระ โดยไม่ต้องมีพิธีรีตรองต้อนรับที่น่า อึดอัด เจ้าชายจึงให้ผู้ติดตามปลอมตัวเป็นเจ้าชายแทนและให้ปฏิบัติภารกิจ แทนทุกอย่างเจ้าชายหลบมาพักในเกสต์เฮาส์ย่านถนนข้าวสาร เจ้าชาย พยายามหาไกด์เพื่ออำนวยความสะดวกให้ทุกเรื่อง แต่ก็หาไม่ได้ง่ายๆ เพราะข้อเสนอที่ต้องรับใช้ดูแลเจ้าชายทุกอย่างทำให้ไม่มีไกด์ที่ไหนยอมทำ

ดูท่านชายในสายหมอกย้อนหลัง (ตอนที่ 2) 13 กันยายน 2555 ช่วงที่ 1

ดูท่านชายในสายหมอกย้อนหลัง (ตอนที่ 2) 13 กันยายน 2555 ช่วงที่ 2

ดูท่านชายในสายหมอกย้อนหลัง (ตอนที่ 2) 13 กันยายน 2555 ช่วงที่ 3

ดูท่านชายในสายหมอกย้อนหลัง (ตอนที่ 2) 13 กันยายน 2555 ช่วงที่ 4

ดูท่านชายในสายหมอกย้อนหลัง (ตอนที่ 2) 13 กันยายน 2555 ช่วงที่ 5

ดูท่านชายในสายหมอกย้อนหลัง (ตอนที่ 2) 13 กันยายน 2555 ช่วงที่ 6

ดูท่านชายในสายหมอกย้อนหลัง (ตอนที่ 2) 13 กันยายน 2555 ช่วงที่ 7

ดูท่านชายในสายหมอกย้อนหลัง (ตอนที่ 2) 13 กันยายน 2555 ช่วงที่ 8

ดูท่านชายในสายหมอกย้อนหลัง (ตอนที่ 2) 13 กันยายน 2555 ช่วงที่ 9



ท่านชายในสายหมอก ละครท่านชายในสายหมอก ละครแนวโรแมนติกคอม เมดี้ น่ารักๆ ท่านชายในสายหมอก ออนแอร์ต่อจากละคร รักคุณเท่า ฟ้า ทางช่อง 3 วันพุธ-พฤหัสบด

เรื่องย่อประจำตอน ละครท่านชายในสายหมอก

ตอนที่ 2

เช้าวันรุ่งขึ้น โซว์ออกมามองบรรยากาศยามเช้า และบันทึกภาพพระบิณฑบาต เด็กตัวเล็กๆที่คอยหิ้วของตามพระ ภาพพ่อค้าแม่ค้าที่ลุกมาขายของแต่เช้า…กลับเข้ามาในห้อง เห็นขิงยังนอนอีเหละเขละขละ อยู่ ก็ส่ายหน้าเอือมๆ ปลุกเธอให้ตื่นไปเตรียมอาหาร ขิงงัวเงียตื่นมาลืมตัวส่งเสียง ตกใจคิดว่าเขาทำอะไรตัวเอง“ทำไมนายเสียงเหมือนผู้หญิงจัง” โซว์ผงะ

อ่านต่อ

ขิง นึกได้รีบกลบเกลื่อน อ้างว่าตอนเช้าเสียงจะเปลี่ยน สักพักก็จะเข้าที่ โซว์กำชับอย่าทำเสียงแบบนั้นอีก ตนตกใจ ขิงรับปากแล้วถามจะอาบน้ำหรือทานอาหารเช้าก่อน ตนจะได้เตรียมถูก เขากลับบอกว่า ให้เธอไปเตรียมอาหาร นอกนั้นเขาจะทำเอง ขิงแปลกใจเกิดเฮี้ยนอะไรขึ้นมา

“ก็ที่นายพูดเมื่อคืนน่ะ ฉันลองคิดๆดู มันก็จริงอย่างที่นายพูดนะ กะอีแค่เรื่องเล็กๆน้อยๆสำหรับตัวฉัน ฉันยังทำไม่ได้ แล้วจะกลับไปปกครองประเทศได้ไง”

ขิงทวนคำปกครองประเทศ โซว์รีบปัดช่างเถอะ ให้เธอไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วเตรียมอาหารเช้าไว้ เขาคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำ ขิงมองตามงงๆสงสัยจะเพี้ยนคิดปกครองประเทศ…

หน้าเกสต์เฮาส์ ตุ๊กจอดรถรอ พอเห็นขิงเดินออกมาก็ปรี่เข้าไปถามว่าบุบสลายตรงไหนบ้าง ขิงส่ายหน้า ไม่มีใครทำอะไรตนได้ ตุ๊กจึงถามว่าตอนนี้โซว์ทำอะไรอยู่ ขิงบอกอย่างหมั่นไส้

“ก็ นั่งละเลียดอาหารเช้าน่ะสิ เอาอเมริกันเบรกฟาสต์ไปให้ ก็บอกว่าเบื่อ ทำออมเล็ตก็ว่าเหม็น สุดท้ายไปซื้อโจ๊กกับปาท่องโก๋ ปรากฏว่าชอบ”

ตุ๊ก ว่ากินง่ายดี ขิงบ่น กินน่ะง่ายแต่อยู่ยาก ที่นอนต้องตึง แอร์ต้องไม่เย็นจัด เสื้อยับสักนิดก็ไม่ได้ อยากรู้ว่าไอ้คนประเทศนี้มันจุกจิกทุกคนไหม นี่ถ้าไม่ใช่เพราะเงิน ตนไม่ทำหรอก ตุ๊กจึงบอกให้ท่องไว้ เพื่อเงินๆ ขิงบอก แผนการที่จะพาโซว์ออนทัวร์ในวันนี้ พร้อมแผนเด็ดที่จะฟันเงินให้คุ้ม ฐานใช้ตนทำงานสารพัด ตุ๊กสะกิดใจไม่อยากทำ แต่พอขิงเอาเงินล่อ ความดีก็หายหมด

สถานที่แรกที่ขิงพาโซว์มาคือวัด ขิงบอกต้องไหว้พระเก้าวัด เขาข้องใจทำไม ขิงอธิบาย

“วัด เก้าวัดที่จะพาไปไหว้ มีความศักดิ์สิทธิ์ในแต่ละอย่างไม่เหมือนกัน บางวัดก็ไหว้เพื่อเสริมงาน บางวัดก็เรื่องอำนาจบารมี บางวัดก็เพื่อความอยู่เย็นเป็นสุข”

“แล้วทำไมต้องเก้าด้วย” โซว์ยังสงสัย

“เลข 9 เป็นเลขมงคลของไทย หมายถึงก้าวที่เคลื่อนไปข้างหน้า แสดงว่าชีวิตเราจะดีขึ้นเรื่อยๆ”

“อ๋อ เข้าใจแล้ว คนไทยนี่ลึกซึ้งจริงๆ น่าชื่นชม”

ขิง แอบทำหน้าเบ้ บ่นว่าอย่างเขาไหว้ทั่วกรุงเทพฯ ก็ไม่ดีขึ้น…พอโซว์เห็นความงามของโบสถ์ และการ ปฏิบัติตนของคนที่มาไหว้พระ มีทั้งนั่งสมาธิ นั่งสวดมนต์ เขาตื่นเต้นและสำรวมมากๆ พยายามจะกราบพระแต่ก้มไม่ลง ขิงมองอย่างระอา สอนว่านั่งแบบนั้นจะกราบได้อย่างไร แล้วนั่งกราบแบบเบญจางคประดิษฐ์ให้ดู พร้อมอธิบาย

“เบญจางคประดิษฐ์ คือการกราบโดยอวัยวะทั้งห้า แตะลงที่พื้น คือ เข่าทั้งสอง ฝ่ามือทั้งสอง และหน้าผาก ผู้ชายกับผู้หญิงจะนั่งต่างกันแบบนี้” ขิงนั่งให้ดูทั้งสองแบบ

โซว์ พยายามทำตาม แต่นิ้วมือที่พนมยังกาง ขิงบีบให้หุบเข้ามา ตีขาให้เข้าที่เข้าทาง เขาจึงกราบลงไปได้ ขิงรู้สึกตัวว่าใกล้ชิดเขามากไป จึงถอยออก แล้วบอกให้กราบๆไป ส่วนตัวเองลืมตัวนั่งกราบแบบผู้หญิง โซว์ท้วง

“อ้าว แล้วทำไมนายนั่งท่าผู้หญิงล่ะ ก็นายบอกเองว่าผู้ชายนั่งแบบนี้”

ขิงสะดุ้ง ขยับท่าใหม่แล้วบ่น “ผมก็ลืมมั่งสิ ถาม มากจริง”

“ฉันจ้างนายมาตอบ ถ้าไม่อยากตอบเดี๋ยวฉันจ้างคนอื่นก็ได้”

ขิง งอนลุกเดินออกจากโบสถ์ โซว์แปลกใจเดินตาม เห็นเธอเดินเร็วจึงถามจะรีบไปไหน ขิงหันมาวีน ใส่ “ตามมาทำไม จะไปจ้างคนอื่นไม่ใช่เหรอ ก็ไป จ้างสิ คิดว่าง้อเหรอ”

“นี่ เรื่องงอนน่ะ ให้พวกผู้หญิงเขาทำเถอะ ผู้ชายทำแล้วมันน่าขนลุก อึ๊ย…”

ขิง ยิ่งโมโห “ถ้าว่าผมอีกคำเดียว ผมจะไม่ทำงานให้แล้วนะ คนอะไรก็ไม่รู้จู้จี้จุกจิกขี้บ่น แถมยังใช้  งานยังกับทาส คิดว่าเงินที่นายให้ มันมากตายล่ะ”

โซว์ย้อนถามจะโก่งค่าตัวอีกหรือ เธอสวน ไม่คิดจะทำให้เขามาดูถูกอีก โซว์ถอนใจ

“นายนี่นิสัยเหมือนผู้หญิงจริงๆ อะไรนิดอะไรหน่อยก็งอนก็โกรธ เรามาเที่ยวมาทำบุญจะมาทะเลาะกันทำไม เอาเถอะฉันก็ไม่รู้ว่านายโกรธอะไรนะ  เอาเป็นว่าฉันขอโทษละกันนะ”

ขิงไม่ตอบ แต่ยืนบิดไปมา โซว์ถามเป็นอะไรเธอตอบว่าข้าศึกบุก เขาแปลกใจมองไปรอบๆ ไม่เห็นมีใคร ขิงโวยไม่ใช่ข้าศึกแบบนั้น แล้วชี้ไปที่บั้นท้ายตัวเอง โซว์พยักหน้าเข้าใจ ขิงขอตัวไปเข้าห้องน้ำ โซว์รู้สึกปวดท้องวิ่งตามไปด้วย ถึงหน้าห้องน้ำ ขิงชะงักจะเข้าห้องน้ำชายหรือหญิงดี โซว์มาถึงถาม

“จะยืนรออะไรอยู่ล่ะ เดี๋ยวค่ายทหารก็แตกหรอก” โซว์โอบคอขิงเดินเข้าห้องน้ำชาย

แล้วเขาก็ตรงเข้าไปที่โถปัสสาวะ ขิงหน้าซีดทนไม่ไหว “ใครบอกว่าอยากอย่างนั้นเล่า” ว่าแล้วก็วิ่งเข้าห้องส้วมปิดประตูโครม

“อ๋อ ข้าศึกโจมตี หมายถึงอย่างนี้นี่เอง” โซว์มองตามเพิ่งเข้าใจ

กลับออกมา ขิงล้างหน้าลบภาพที่เห็นในห้องน้ำ บ่นกับตุ๊กให้ช่วยดึงโซว์ไปจากตนบ้าง ไม่อย่างงั้นเขาจะจับได้ว่าตนเป็นหญิง ตุ๊กทำวางท่าไม่ช่วย ขิงค้อนขวับๆ

ooooooo

เมื่อปรีชาได้เห็นคลิปที่พัชรีแอบถ่ายมาได้ เป็นภาพปีเตอร์ปล้ำเธอ และเธอเตะผ่าหมากจนเขาสลบ ก็ชอบใจ แต่จะเอาภาพนี้ลงข่าวไม่ได้ เพราะจะทำให้สั่นคลอนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่อย่างน้อยก็เป็นประเด็นให้เขียนข่าวเปิดโปงว่า เจ้าชายแห่งนิวแลนด์ ฝักใฝ่เรื่องพรรค์อย่างว่า แม้แต่แม่บ้านโรงแรมยังไม่เว้น จึงสั่งให้เธอไปทำเป็นสกู๊ปออกมา

วันต่อมา ลัดลดาและติ๊งโหน่งใจตรงกัน ยกขบวนแต่งตัวและนำอาหารประจำภาคมาที่โรงแรม โดยลัดลดามาในภาคอีสาน ติ๊งโหน่งภาคเหนือ ต่างแห่ร้องรำตามแบบภาคของตน ลัดลดาไม่พอใจ ใช้ความเป็นลูกเจ้าของโรงแรมสกัดกั้นไม่ให้พวกติ๊งโหน่งขึ้นไปบนห้องพักเจ้าชาย จึงเกิดการตบตีขว้างปาข้าวของใส่กัน

พัชรีมาด้อมๆมองๆเห็นเหตุการณ์จึงรีบขึ้นไป รายงานปีเตอร์บนห้อง และเสนอตัวพาออกไปเที่ยวข้างนอก หลบความวุ่นวาย ปีเตอร์ไม่อยากเจอทั้งลัดลดาและติ๊งโหน่งอยู่แล้ว จึงยอมให้เธอพาออกจากโรงแรม พัชรีใช้ความเป็นผู้สื่อข่าว เข้าไปถ่ายภาพสองสาวที่กำลังจะบู๊กัน

“ตายแล้ว ไม่คิดเลยนะคะว่าจะได้มาเจอคุณติ๊งโหน่ง ลูกสาวคนเดียวของคุณหญิงฉาดประภากับท่าน ชรินทร์ และคุณลัดลดา เจริญวัฒน์ ทายาทเพียงคนเดียวของเจ้าสัววิชัย ตัวจริงทั้งสวยทั้งสง่า สมคำร่ำลือทั้งคู่จริงๆ”

สองสาวชะงักเปลี่ยนท่าทีมากอดคอโพสท่าให้ถ่ายรูปกันใหญ่ พัชรีแนะนำตัวว่าเป็นนักข่าวจากสตาร์นิวส์ อยากจะเชิญทั้งสองไปสัมภาษณ์ออกทีวี เพราะทราบมาว่าทั้งสองเป็นเพื่อนเรียนกันมาตั้งแต่อนุบาลจนจบมหาวิทยาลัย สองสาวรีบบอกว่า พวกเธอชอบกินอะไรเหมือนกัน แถมมีแฟนคนเดียวกันตลอด ระหว่างที่สองสาวหันมาปรองดองกัน พัชรีแอบโบกมือให้ปีเตอร์เดินออกจากโรงแรม พอเห็นว่าพ้นประตูไปแล้ว พัชรีก็ทำเป็นมองนาฬิกาแล้วร้องว่า

“ต๊ายตาย ลืมไปว่าต้องไปสัมภาษณ์นักร้องเกาหลี ที่จะมาเปิดคอนเสิร์ตที่นี่พอดี๊พอดี ขอตัวก่อนนะคะ”

สองสาวงงร้องถามเรื่องสัมภาษณ์ว่าอย่างไร สองสาวหันมามองกันแล้วสะบัดหน้าพรืด ต่างคนต่างเดินไป

พัชรีแยกตัวมาได้ก็ขับรถไปดักหน้าปีเตอร์ “เชิญเพคะเจ้าชาย อยากเสด็จไหนดี”

“ที่ไหนก็ได้ ถ้ามีพัชรีไปด้วย ฉันก็โอเคแล้วหละ” ปีเตอร์ทำตาเจ้าชู้ หารู้ไม่ว่าเธอมีแผน

ooooooo

หลังจากไหว้พระครบ ขิงพาโซว์มานวดแผนโบราณ แนะนำว่าเป็นวิธีผ่อนคลายแบบไทยๆ โซว์ตื่นเต้นเพราะได้ยินคำร่ำลือมาพอสมควร ว่าเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยอีกอย่างหนึ่ง ตุ๊กเดินไปซื้อคอร์สให้โซว์ แล้วบอกว่าตนกับบอยจะนั่งรอข้างนอก โซว์จึงฝากเป้ไว้กับขิง

พอตุ๊กเห็นโซว์เดินเข้าไปข้างในแล้ว ก็ดึงเป้จากขิงมาหยิบกระเป๋าสตางค์ขึ้นเปิดดู เห็นเงินเป็นฟ่อน ก็ตาโต ดึงออกมาสองสามใบ ขิงตีมือเพียะ

“เก็บที่เดิมเลยนะ จะตกปลาใหญ่ ทำไมต้องสนใจปลาซิวปลาสร้อยด้วย”

ตุ๊กขอเอาไว้กันเหนียวสักหน่อย ขิงไม่ยอม ดึงเงินกลับมาเก็บเข้ากระเป๋า โซว์เดินออกมาถามเสียงเข้มว่าทำอะไร ขิงตกใจเลิ่กลั่ก รีบแก้ตัวไปว่าเห็นกระเป๋าเลอะจึงปัดให้ ตุ๊กถาม ออกมาทำไม อย่าบอกนะว่านวดเสร็จแล้วน่ะ

“ยังไม่เสร็จหรอก แต่ฉันเห็นห้องมันมืดๆ ไม่กล้านวดคนเดียว บอย นายไปนวดเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ”

“อึ๊ย…นวดกับนายเนี่ยนะ ไม่เอาอะ” ขิงสะดุ้งส่ายหัวดิก

“ทำไมล่ะ ไปนวดด้วยกันไม่เป็นไรหรอก”

ตุ๊กเสนอตัวไปแทน โซว์ปฏิเสธจะเอาขิง เขาล็อกคอเธอพาเข้าห้อง ตุ๊กมองตาม ได้แต่ปลงช่วยอะไรไม่ได้ ไม่ทันไร มีสาวเข้ามาถามตุ๊กว่าจะนวดเท้าไหม ตุ๊กเห็นสาวสวยจึงรับว่านวด สาวพาเขาเข้าไปนอนรอ แล้วส่งกระเทยควายมานวด แถมปล้ำจูบจนรอยลิปสติกเต็มหน้าตุ๊ก เขาได้แต่ร้อง…ช่วยด้วย

ด้านขิง เห็นโซว์ถอดเสื้อล้มตัวลงนอนคว่ำหน้า ขิงอิดออดไม่อาจจะถอดได้ จึงแอบดึงสองสาวหมอนวดมากระซิบ จะจ่ายค่าแรงให้แต่ไม่ต้องทำงาน เธอลงมือนวดให้โซว์เอง พอเขาชวนคุยก็ตอบไปด้วย เวลาเขาเงยหน้า ขึ้นมองก็รีบโดดไปนอนเตียงข้างๆ เอาผ้าคลุมตัว เธอแกล้งนวดอย่างแรงจนเขาระบมไปทั้งตัว ร้องโอดโอย ขิงทำเป็นบอกว่าครั้งแรกก็แบบนี้ เดี๋ยวก็สบาย

ให้เผอิญ พัชรีพาปีเตอร์มานวดร้านเดียวกัน เอาแค่นวดเท้าเบาๆ ปีเตอร์อดแทะโลมไม่ได้ว่านวดแบบไหนก็ได้ถ้าเป็นเธอนวด พัชรีทำหน้าเบ้

“แหม…เจ้าชาย หม่อมฉันนวดไม่เป็นหรอกเพคะ เชิญเจ้าชายตามสบาย”

“นี่ อย่าเรียกเจ้าชายเลยได้มั้ย มันเขิน เรียกปีเตอร์แทนแล้วกัน”

พัชรีชมว่าชื่อเล่นหรือ ฟังดูเท่ไม่เบา…เธอพาเขาเข้าไป โซว์กับขิงเดินสวนออกมา ไม่ทันมองกัน สักพัก เสียงปีเตอร์ร้องลั่นดังมา ขิงมองหน้าโซว์แล้วบอกว่า ครั้งแรกเหมือนเขา…ขิงแปลกใจว่าตุ๊กหายไปไหน ไม่ทันไร ตุ๊กคลานมากอดขาโซว์ เขาตกใจเตะเสยคางตุ๊กกระเด็นไปแปะกำแพง พอเห็นว่าเป็นตุ๊กก็ตกใจ ขิงแกะตุ๊กออกจากกำแพง เห็นหน้าเต็มไปด้วยรอยปากแดงๆ จึงถามว่าโดนใครปล้ำมา ตุ๊กคร่ำครวญ

“หมดแล้ว ความเป็นหนุ่มของข้า ข้าถูกกระเทย มันปล้ำ แงๆๆๆ”

ทำเอาทั้งขิงและโซว์สยอง รีบพาตุ๊กซึ่งร้องไห้ไม่หยุด กลับ

ooooooo

ถึงที่พัก ขิงต้องเอาพลาสเตอร์แปะเต็มหลังให้โซว์แก้ปวด ตุ๊กนั่งสะอึกสะอื้นไม่เลิก ขิงถามอยากไปเที่ยวไหนอีก โซว์ขอพักสักหน่อย กลางคืนค่อยออกไปท่องราตรี ขิงหน้าเสียเข้าใจว่าเขาจะเที่ยวผู้หญิง ขอบาย แต่โซว์สั่งเสียงเฉียบว่าต้องไปด้วยกัน ขิงมาบ่นกับตุ๊กว่าโซว์ชอบบังคับ ตุ๊กให้ท่องไว้ว่า ทนๆ เพื่อเงินๆ

เสร็จจากนวด พัชรีพาปีเตอร์มาสูดอากาศในสวนสาธารณะ ซึ่งมีสนามเด็กเล่นอยู่ไม่ห่าง ปีเตอร์รู้สึกผ่อนคลาย พัชรีถามว่าปกติทรงงานหนักหรือ เขาตอบว่าหนัก ตั้งแต่เช้ายันเย็น

“ไหนจะต้องปลุก ถอดเสื้อผ้า อาบน้ำ แต่งตัว ทำอาหาร” เขาเห็นพัชรีมองงงๆ จึงรู้สึกตัว แก้ใหม่ว่า “ที่พูดนี่เป็นงานที่ผู้ติดตามส่วนตัวต้องทำให้เรา ส่วนเราก็ต้องไปออกงาน ทำงานช่วยเหลือประชาชน”

“แต่จะว่าไปไม่เห็นผู้ติดตามส่วนตัวของพระองค์เลยนะเพคะ”

“โอ๊ย หล่อ นิสัยก็ดี แถมยังทำงานเก่งไม่มีที่ติ ที่สำคัญยังโสดด้วยนะ ถ้าสนใจเราจะแนะนำให้เอาไหม”

“อย่าดีกว่าเพคะ คนต้อยต่ำอย่างพัชรีไม่คู่ควรหรอก”

“คู่ควรสิ ฉันมั่นใจว่า ถ้าพวกเธอสองคนเจอกัน จะต้องเป็นคู่ที่เหมาะสมแน่ๆ”

พัชรีจึงบอกว่าแล้วแต่จะเห็นสมควร ปีเตอร์มองไปเห็นเครื่องเล่น คิดถึงสมัยเด็ก ชวนพัชรีไปเล่นด้วยกัน เขาเข้าไปไล่เด็กคนหนึ่งให้ลุกจากม้ากระดก เด็กไม่ยอมไป เขาจึงอุ้มเด็กไปวางที่ไม้ลื่น แล้วกลับมาไล่เด็กอีกคน เด็กคนนี้ลุกพรวด ม้ากระดกจึงตีเป้าเขาเต็มแรง พัชรีตกใจรีบถามว่าเป็นอะไรมากไหน เขาทำเก๊กไม่เจ็บทั้งที่หน้าเขียว เพื่อที่จะได้เล่นกับเธอ

แต่พอได้เล่นม้ากระดก เขามีความสุขมาก เด้งไปเด้งมาแรงไปหน่อยทำพัชรีกระเด็นหายไป จากนั้น ทั้งสองมาเล่นชิงช้า ปีเตอร์ไกวให้พัชรีแรงขึ้นเรื่อยๆจนเหวี่ยงเธอลอยไปอยู่บนต้นไม้ พอมาเล่นม้าหมุน พัชรี จึงเอาคืนบ้าง หมุนให้เขาจนเวียนหัว เดินเซลงมาชนต้นไม้โครม

สองคนเดินเล่นอยู่ในสวนสาธารณะ ปีเตอร์มีพลาสเตอร์ปิดที่ดั้งจมูก ใบหน้ายังยิ้มกริ่มที่ได้เล่นสนุกกับพัชรี พัชรีถือโอกาสทวงบุญคุณบ้าง

“หม่อมฉันเล่นเป็นเพื่อนเจ้าชายแล้ว เพราะฉะนั้นถึงคราวที่เจ้าชายต้องช่วยเหลือหม่อมฉันบ้าง…หม่อมฉันขอประทานสัมภาษณ์พระองค์จะได้ไหมเพคะ”

“เรื่องอะไรล่ะ ถ้าเรื่องเศรษฐกิจการเมือง ต้องขอตัวนะ เรื่องพวกนั้นเราไม่ถนัด”

พัชรีสงสัยถ้าเช่นนั้นพระองค์ถนัดเรื่องอะไร ปีเตอร์ยิ้มกริ่ม…เวลาผ่านไป พัชรีเดินยิ้มที่ได้บทสัมภาษณ์จากเจ้าชาย แม้จะแปลกใจอยู่บ้าง ที่ท่านเชี่ยวชาญเรื่องงานบ้านเป็นอย่างมาก

ไม่เพียงแค่นี้ กลางคืน พัชรียังพาปีเตอร์ไปเที่ยวผับ เขาดื่มเหล้าจนเมาเต้นรำดี๊ด๊าแจกเงินแก่สาวๆ ที่มารายล้อม กระโดดโลดเต้นอย่างที่ไม่เคยได้ทำมาก่อน พัชรีมองด้วยความงง แต่ก็แอบเอากล้องมาอัดวีดิโอไว้

อีกมุมหนึ่ง ขิงพาโซว์เข้ามา เธอเดินเต้นตามจังหวะเพลงอย่างสนุก แต่ท่าทางโซว์ไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้เลย ขิงบ่นไหนบอกอยากมาเที่ยวกลางคืน

“กลางคืนของฉันหมายถึง ละครหรือการแสดงอะไรแบบนั้น”

“นายก็ถือว่านี่คือการแสดงอย่างนึงสิ นั่นไส้เดือนแดนซ์ นั่นแดนซ์ชักกระตุกปลุกโลก”

โซว์มองไปตามที่ขิงชี้ ขำกับคำที่เธอช่างเปรียบเทียบ ขิงเรียกบริกรมาสั่งเครื่องดื่ม

“น้อง เดี๋ยวเปิดมาขวดนึงเลยนะ”

“ไม่…เอาแค่น้ำส้มกับน้ำอัดลม นายยังเด็กยังกินของพวกนี้ไม่ได้” โซว์เอ็ดขิง

ขิงหน้าเบ้ บอกโซว์ให้ทำตัวสนุกเหมือนคนอื่นเขาบ้าง ไม่ทันไร สาวๆเข้ามารุมล้อมชวนโซว์ไปเต้น เขาถูกลากออกไปที่ฟลอร์แต่ยืนเฉยๆ ไม่ทันเห็นปีเตอร์ซึ่งเต้นอย่างเมามันอยู่ ขิงแอบยิ้มเยาะว่าเขาจะทนความยั่วเย้าของสาวพวกนั้นได้สักกี่น้ำ

โซว์กับปีเตอร์เฉียดกันไปมา ปีเตอร์แจกเงินสาวๆกลางฟลอร์ โซว์อึดอัดจนไม่ไหวกลับเข้ามาบอกขิง อย่าพาตนมาที่แบบนี้อีก พลัน เสียงสาวๆกรี๊ดกร๊าดว่าเจ้าชายแห่งนิวแลนด์มาโซว์ตกใจคิดว่าความลับแตก สาวๆวิ่งเข้ามาหา แต่แล้วก็วิ่งเลยไปกลางฟลอร์

ขิงชี้ “นั่นน่ะเหรอ เจ้าชายแห่งนิวแลนด์ ทำไมถึงมาเที่ยวที่แบบนี้ล่ะ แปลกพิลึกเลยนะ”

โซว์หันไปมอง เห็นปีเตอร์กับกลุ่มสาวๆ เขาโกรธมากจะไปเอาเรื่อง ปีเตอร์มองมาเห็นเจ้าชายก็ตกใจรีบหาที่หลบ คลานหนีไปตามใต้โต๊ะ ขิงแปลกใจ ไหนโซว์ว่าจะกลับไหงเดินไปกลางฟลอร์ พัชรีเดินหน้าตื่นมาชนขิง แต่จำกันไม่ได้  เดินบ่นว่าเจ้าชายอยู่ไหน

ปีเตอร์คลานหนีมาถึงหน้าห้องน้ำหญิง ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงหลบเข้าไปก่อน มีคนเข้ามาเขารีบเข้าไปในห้องส้วม นั่งรอจนกว่าคนจะออกไปหมด พลัน พระราชินีโทร.เข้ามาถามข่าวคราวเจ้าชาย ปีเตอร์สุดจะลำบากใจ ต้องพยายามดัดเสียงเป็นผู้หญิงคุยด้วย โดยอ้างว่าป่วยเจ็บคอ เขารายงานว่าเจ้าชายสบายดี ตอนนี้ทรงงานอยู่ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง

วางสายแล้ว ปีเตอร์หาทางปีนหนีออกจากห้องน้ำอย่างทุลักทุเล ลงมายืนโล่งอก จัดเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทาง แต่พอจะเก๊กท่าเดิน โซว์มาขวางหน้าถามจะรีบไปไหน เขาตกใจยิ่งกว่าเจอผี โซว์ต่อว่าปีเตอร์ยกใหญ่ ยิ่งรู้ว่ามากับแม่บ้านของโรงแรม ยิ่งโมโห ปีเตอร์หน้าซีดทรุดลงกอดขาขอประทานอภัย โซว์กำชับอย่าทำให้ชื่อเสียงตนเสียหายอีก ตนเอาเรื่องแน่ เสียงพัชรีร้องเรียก โซว์ผละออกไป พัชรีเข้ามาเห็นปีเตอร์กองอยู่กับพื้นหน้าซีด ก็เข้าประคองด้วยความตกใจ

ทางขิงยืนรอโซว์ด้วยความกระวนกระวายห่วงว่าหายไปไหน เดินตามหาจนทั่วถนนข้าวสาร ตัดสินใจกลับมาที่พัก พบเขานั่งเก๊กอยู่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเธอโมโหสุดขีดต่อว่า

“นายหายไปไหนมา นายรู้ไหมว่าฉันต้องไปเดินหานายจนขาขวิด ถ้ารู้ว่านายกลับมานั่งยิ้มทำเป็นทอง ไม่รู้ร้อนแบบนี้ ฉันไม่ตามหานายให้เหนื่อยฟรีหรอก”

“อะไรกัน เรื่องแค่นี้ก็ต้องโกรธด้วย”

“ก็โกรธสิ ก็ถ้านายเป็นอะไรไป ฉันจะทำยังไง”

โซว์ดีใจเข้าไปตบไหล่ขอบใจ ทันใด เสียงท้องเขาร้องออกมา ขิงเปรย มัวแต่ตามหาเขาเลยไม่ได้ซื้ออะไรเข้ามา ไม่ทันไร ท้องขิงร้องดังไม่แพ้กัน ทั้งสองยิ้มขำๆ โซว์จึงบอกให้ออกไปหาอะไรกินกัน ตนจะเลี้ยงขอโทษ โซว์กอดคอขิงเดิน เธอแกะมือเขาออก รีบจ้ำนำหน้าไป

ooooooo

คืนนั้น ที่ใต้สะพานเปลี่ยว ชรินทร์ยืนมองอำนาจ ลูกน้องคนสนิทสั่งสมุนซ้อมชายคนหนึ่งปางตาย เพราะรู้ว่าเป็นสายให้ตำรวจ ชรินทร์ให้เค้นข้อมูลที่ขโมยไปให้ได้

“ฉันไม่บอก แกมันไอ้คนเลว หลอกผู้หญิงมาขาย แล้วยังคิดจะขายยาอีก”

“นี่แกรู้เรื่องฉันมากไปแล้วนะ…อำนาจ จัดการ” ชรินทร์สั่ง

อำนาจชักปืนออกมา ชรินทร์โวยจะยิงให้เสียงมันดังเรียกคนมาหรือ ชายคนนั้นฉวยโอกาสวิ่งหนี ชรินทร์โมโหสุดขีดสั่งสมุนตาม

ระหว่างนั้นขิงพาโซว์เดินหาร้านข้าวมันไก่อยู่นาน โซว์บ่นที่พาหลงจนเหนื่อย ถ้าไม่ได้กินของอร่อยจะเอาตาย เดินมาจนถึงใต้สะพาน ได้ยินเสียงเอะอะของพวกชรินทร์ที่กำลังจะยิงชายคนหนึ่ง ขิงตกใจดึงโซว์ให้หนี แต่เขากลับขยับเข้าไปถ่ายภาพเก็บไว้เป็นหลักฐาน ขิงโวย

“นายนี่มันหาเรื่องดีนัก นายอยากถ่ายก็ถ่ายไป แต่ฉันไม่เอาด้วยแล้ว” ขิงจะเดินไป

“นี่ ถ้าผู้ชายคนนั้นเป็นพี่ชาย น้องชาย หรือว่าญาตินาย นายจะนิ่งดูดายอยู่งั้นเหรอ”

ขิงชะงักอยากจะบีบหัวโซว์ที่ชอบหาเรื่องใส่ตัว จะทิ้งไปก็ห่วง…ชรินทร์กับพวกกำลังตะคอกยิงชายที่เป็นสายตำรวจ พลันรู้สึกว่ามีแสงแฟลชเข้าตาจึงโวยวาย อำนาจรายงานว่ามีคนแอบถ่ายภาพ ชรินทร์ตกใจสั่งเก็บพวกมันให้หมด

“ซวยแล้วไหมล่ะ พวกมันเห็นเราแล้ว รีบเผ่นเถอะ” ขิงลากโซว์วิ่งหนีทันที

สมุนชรินทร์ไล่ยิงใส่ขิงกับโซว์ ขิงเผลอร้องว้ายออกมา โซว์แปลกใจถามทำไมร้องเสียงเป็นผู้หญิง ขิงเอ็ด หน้าสิ่วหน้าขวานยังจะมาจับผิดกันอีก ขิงจับมือโซว์วิ่งลัดเลาะไปตามซอยเล็กซอยน้อย โซว์ชักเอะใจว่าเธอรู้จักทางแน่หรือ ขิงไม่ตอบพาวิ่งลุยไป จนมาถึงทางตัน จะวิ่งกลับ พวกอำนาจตามมา โซว์ดึงขิงหลบข้างถังขยะใบใหญ่ ได้ยินเสียงอำนาจตะโกนบอกลูกน้องว่า ให้ไปทางอื่น ทั้งสองจึงคลานออกมา เจออำนาจกับพวกยืนยิ้มร้ายอยู่ อำนาจสั่งลูกน้องเอากล้องจากโซว์มา เขาขัดขืน อำนาจจึงจ่อปืนจะยิงขิง โซว์จำต้องยอมให้กล้องไป

“เขาไม่ใช่คนไทย อีกไม่กี่วันเขาก็จะกลับแล้ว แล้วผมก็ไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น” ขิงแก้ตัว

“มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอกไอ้น้อง” อำนาจหัวเราะยกปืนจะยิง

โซว์ฉวยโอกาสต่อยอำนาจและถีบพวกลูกน้อง ก่อนจะดึงขิงวิ่งหนี อำนาจโกรธวิ่งตามทั้งที่ทางมันมืดมาก ได้ยินเสียงโดดนํ้าตูม จึงคิดว่าเป็นโซว์กับขิง ลูกน้องรายงาน โดดไปแบบนี้มีหวังรอดยาก อำนาจจึงสั่งให้กลับ

ในมุมหนึ่ง โซว์เอามือปิดปากขิงหลบอยู่ เขามองจนเห็นพวกอำนาจกลับไป จึงพาขิงออกมาจากที่ซ่อน… อำนาจมารายงานชรินทร์ซึ่งรออยู่ในรถ ว่าสองคนโดดนํ้าหนี ท่าทางไม่รอด ชรินทร์ให้้เปิดกล้องดูว่าโซว์ถ่ายอะไรไว้ได้บ้าง แต่หน้าจอขึ้นคำว่า ให้ใส่เอสดีการ์ด ชรินทร์เปิดดูช่องใส่เอสดี มันว่างเปล่าเขายั้วมาก

“นี่มันหมายความว่ายังไง เอสดีการ์ดไปไหน”

“เอสดีการ์ด อะไรเหรอครับ…” อำนาจทำหน้างง

“ไอ้โง่ การ์ดที่ใช้แทนฟิล์มในกล้องดิจิตอล ที่มีรูปฉันยิงหัวไอ้หน้าโง่นั่นไง” ชรินทร์โวย

อำนาจรีบบอกว่าไม่มีใครแตะต้องกล้องนั้นเลยชรินทร์โมโห  แสดงว่าเอสดีการ์ดยังอยู่ที่โซว์ จึงสั่งอำนาจไปงมหาศพเอามาให้ได้

ooooooo

พอพากันหนีกระเซอะกระเซิงมาถึงถนนใหญ่ ขิงเหนื่อยหอบสุดๆ มองหน้าโซว์ด้วยความโมโห ผลักอกเขาโวยใส่ เพราะเขาทำให้ตนเกือบเอาชีวิตไม่รอด

“เอาเถอะน่า ยังไงเราก็รอดมาแล้ว นายอย่าบ่นนักเลย”

“ต้องบ่นสิ นายไม่รู้รึว่าฉันเป็นคนสำคัญของครอบครัวฉันขนาดไหน ถ้าฉันเป็นอะไรคนที่บ้านฉันจะเป็นยังไง”

โซว์ล้วงเอสดีการ์ดในกระเป๋าออกมาบอกเธอว่า ต้องเอาไปให้ตำรวจ ขิงโวยที่ไม่ได้ฟังตนพูดเลย ยังไม่เข็ดอีกหรือโซว์โต้

“แล้วนายล่ะ เห็นคนถูกฆ่าตายไปต่อหน้าต่อตาทั้งคน ไม่คิดจะทำอะไรรึไง”

ขิงเสียงอ่อนลงว่า คนอย่างเราจะไปทำอะไรได้ แต่โซว์มั่นใจว่าหลักฐานต้องอยู่ในเอสดีการ์ด ขิงขยาด โซว์สัญญาว่าจะไม่ทำให้เธอเดือดร้อน พลันมีรถแท็กซี่ผ่านมา เขาโบกรถให้ไปส่งที่สถานีตำรวจที่ใกล้ที่สุด ขิงยังลังเล แต่พอโซว์บอกว่า

“ถ้าคนทุกคนปล่อยให้คนทำผิดอยู่เหนือกฎหมาย เพราะแค่เรากลัวจะเดือดร้อน แล้วประเทศชาติจะอยู่รอดเหรอ”

ขิงถึงกับอึ้งพูดไม่ออก ตามเขาขึ้นรถไป แต่พอถึงหน้าโรงพัก เธอหวั่นใจดึงรั้งโซว์เอาไว้

“ผมว่าเรากลับดีกว่านะครับ อย่าไปยุ่งเรื่องนี้เลย”

“เอ๊ะ นายนี่ยังไง มาถึงขนาดนี้แล้ว เดี๋ยวเราแค่แจ้งตำรวจแล้วก็ให้หลักฐาน เป็นพยานนิดหน่อยก็จบเรื่องแล้ว รับรองไม่มีใครเดือดร้อนแน่”

ขิงยังลังเล โซว์จึงบอกให้เธอกลับไปก่อน ตนจะเข้าไปคนเดียว ขิงทวงเงินค่าจ้าง โซว์ไม่จ่ายถือว่าทำงานไม่สำเร็จ ขิงโกรธผลักเขาให้รีบๆเข้าไป พลันเห็นชรินทร์เดินคุยกับนายตำรวจยศใหญ่ออกมาท่าทางสนิทสนม โซว์รีบดึงขิงหลบ ได้ยินพวกนั้นคุยกันว่า พวกตนกลายเป็นฆาตกรฆ่าคนตายไปเสียแล้ว นายตำรวจให้อำนาจกับลูกน้องไปบอกรูปพรรณสัณฐานให้เขาสเกตช์ภาพไว้ และรับปากจะจับคนร้ายให้เร็วที่สุด

ขิงกลัวลานถามโซว์จะทำอย่างไรดี โซว์เจ็บใจที่พวกชรินทร์ชิงมาแจ้งความก่อน แสดงว่าเป็นพวกมีอิทธิพล ขิงรำพันไม่อยากเป็นคนร้าย ไม่อยากติดคุก โซว์มองอย่างเห็นใจ ปลอบ

“ฉันสัญญาว่านายจะต้องไม่เป็นอะไร ยังไงเราก็ยังมีหลักฐาน ถ้าเราเอารูปออกมาพิสูจน์ได้ แค่นั้นพวกเราก็พ้นข้อกล่าวหาแล้ว”

ขิงมองโซว์อย่างชั่งใจ “ผมจะลองเชื่ออีกสักครั้ง แต่ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วนะ”

โซว์พยักหน้าตกลง

ooooooo

กลับมาถึงที่พัก โซว์เอาเอสดีการ์ดเสียบเข้าโน้ตบุ๊ก ปรากฏว่าเสีย ขิงโวยวาย หวาดกลัวจะต้องกลายเป็นฆาตกร ต้องติดคุก เธอเข้าทุบตีโซว์ยกใหญ่ เขารวบมือเธอ

“หยุดเถอะ มันต้องแก้ไขได้ ต่อให้ต้องหาช่างทั่วโลกมาซ่อมไอ้การ์ดนี่ ฉันก็จะทำ”

“นายมันดีแต่พูด ผมไม่เชื่ออีกแล้ว”

“ด้วยเกียรติและศักดิ์ศรีทั้งหมดที่ฉันมี ฉันขอให้นายเชื่อฉันอีกครั้ง ฉันพอจะมีเพื่อนที่ช่วยพวกเราเรื่องนี้ได้” โซว์หยิบมือถือมากดหาปีเตอร์

แต่เพราะปีเตอร์เมาหลับยังไม่ตื่น จึงไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ โซว์ตัดสินใจกลับไปที่โรงแรม ขิงพาเขาเดินหลบไปตามถนนข้าวสาร พลันเห็นสมุนอำนาจเดินสวนมาก็ตกใจคิดว่าไม่รอดแล้ว แต่ปรากฏว่าพวกนั้นไม่ได้มองพวกเธอ กลับมองไปที่ร้านหนึ่ง ขิงรีบดึงโซว์หลบมาได้

ปีเตอร์งัวเงียตื่นขึ้นมา  เข้าห้องนํ้า บีบโฟมล้างหน้าใส่แปรงสีฟัน แล้วบีบยาสีฟันมาล้างหน้า รู้สึกแปลกใจทำไมกลิ่นมิ้นต์ พอรู้ว่าหยิบผิดก็รีบล้างออก รู้ว่าตัวเองเมามาก จึงไปนอนต่อ

ชรินทร์กำลังปรึกษากับอำนาจเรื่องควานหาตัวพวกขิง ติ๊งโหน่งเข้ามาขัดจังหวะ อ้อนให้ไปเชิญเจ้าชายมาเลี้ยงฉลองที่บ้าน ด้วยความรักลูกมาก ชรินทร์จึงไป
ที่โรงแรมกับอำนาจ…

มาถึงโรงแรม โซว์ให้ขิงนั่งรอที่ล็อบบี้ ขิงมองความโอ่อ่าของโรงแรมแล้วข้องใจ เขามีเพื่อนระดับนี้ ทำไมไปพักเกสต์เฮาส์กระจอกๆ ขิงหยิบหนังสือมาอ่านฆ่าเวลา…จึงไม่เห็นชรินทร์เดินเข้ามา อำนาจไปแจ้งความจำนงว่าต้องการพบเจ้าชาย พนักงานขอโทร.ขึ้นไปถามก่อน

เสียงกริ่งดังไม่หยุด ปีเตอร์หงุดหงิดลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูจะโวย พอเห็นเป็นโซว์ก็จ๋อย โซว์โวยว่า โทร.หาเป็นร้อยครั้งทำไมไม่รับสาย ปีเตอร์แก้ตัวพัลวัน โซว์ให้หยุดคร่ำครวญแล้วฟัง

“ฉันมีเรื่องสำคัญที่อยากให้เจ้าทำ ช่วยไปซ่อมเอสดีการ์ดนี้ให้ได้ ต่อให้ยากลำบากแค่ไหนก็ต้องกู้ข้อมูลมาให้ได้”

ปีเตอร์รับมาอย่างงงๆ กำลังจะถามว่ามีอะไรสำคัญ โอปะเรเตอร์โทร.ขึ้นมาแจ้งว่า ชรินทร์ ไขแสงสุรศรี ขอเข้าพบ เขาจึงตอบกลับไปว่า ให้รอก่อน ยังติดธุระสำคัญอยู่

ชรินทร์รับทราบจากโอปะเรเตอร์แล้วบ่นอุบ ถือว่าเป็นเจ้าชายมาปล่อยให้ตนรอ ว่าแล้วก็มานั่งที่โซฟาตรงข้ามกับขิง ซึ่งอ่านหนังสือพิมพ์ปิดหน้าอยู่ อำนาจลงนั่งข้างขิง ยื่นหนังสือให้ชรินทร์อ่านไปพลางๆ จังหวะที่ชรินทร์ยกหนังสือพิมพ์ขึ้นอ่าน ขิงพับหนังสือพิมพ์ของตนวาง มองนาฬิกาข้อมืออย่างกังวลทำไมช้านัก อำนาจเอ่ยปากถาม

“น้อง หนังสือพิมพ์นี้อ่านจบแล้วใช่ไหม”

ขิงตอบว่าครับ พอเห็นหน้าอำนาจก็ตกใจหันหน้าหนี อำนาจไม่ทันมองเต็มตา ยกหนังสือพิมพ์ขึ้นอ่านเสียก่อน ขิงหน้าเจื่อนพยายามหาทางลุกหนี

บนห้อง ปีเตอร์ซักถามเรื่องราวที่เจ้าชายไปพบเจอมา เกิดความกังวลอย่างมาก จะพาเจ้าชายกลับประเทศ

“ฉันยังกลับไม่ได้ ฉันต้องรับผิดชอบชีวิตเด็กผู้ชายคนนึง ที่ฉันดึงเขามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย เพราะฉัน เขาเลยต้องเดือดร้อน”

ปีเตอร์เสนอให้ให้เงินสักก้อน เพื่อไปหลบซ่อนสักพัก แต่โซว์ไม่เห็นด้วย ทำไมจะต้องมีชีวิตแบบนั้นเพราะไม่ได้ทำผิดอะไร ตนจะจัดการเรื่องนี้ให้จบ ปีเตอร์เกรงว่าเรื่องนี้จะนำความเสื่อมเสียมาให้ราชวงศ์ โซว์ยืนยัน ต่อให้ต้องขายหน้าคนทั้งโลก แต่ช่วยชีวิตคนๆหนึ่งไว้ได้ ตนก็ยอม โซว์กำชับปีเตอร์ต้องกู้ข้อมูลในการ์ดนี้ให้ได้ ไม่อย่างนั้นตนจะเอาผิดเขาเพิ่มเป็นสองเท่า ปีเตอร์ทำหน้าจ๋อย ขณะที่โซว์มั่นใจว่าเรื่องนี้ต้องผ่านพ้นได้แน่

ooooooo

ขิงยังนั่งอึดอัดอยู่ที่โซฟาเพราะอำนาจนั่งขวางทางออก พอดีมองไปทางโทรทัศน์ที่เปิดอยู่ใกล้ๆ เห็นภาพสเกตช์หน้าเหมือนตนและโซว์ เสียงอ่านข่าวว่าสองคนเป็นผู้ต้องสงสัยฆ่านายสุเมธ ผู้จัดการใหญ่สถานบันเทิงชื่อดัง หากใครพบเห็นหรือให้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ต้องสงสัย ท่านชรินทร์จะมีเงินรางวัลให้
1 ล้านบาท

ภาพชรินทร์กำลังให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว “เพราะผมกับคุณสุเมธทำงานกันมานาน ไม่ใช่ญาติก็เหมือนญาติ ถ้าคนร้ายทำอุกอาจอย่างนี้ ผมยอมไม่ได้ ผมจะเอาเรื่องถึงที่สุด”

ขิงสะดุ้งค่อยๆหันไปมองชรินทร์และอำนาจ ชรินทร์ กำลังมองตัวเองในทีวี หัวเราะชอบใจ เปรยกับอำนาจว่า ตนใส่เสื้อตัวนี้ออกทีวีแล้วดูดี อำนาจว่าดูอืดไปหน่อย ชรินทร์หันมาเอาเรื่อง ขิงรีบหลบหน้ากลืนน้ำลายเอื๊อก เอาหนังสือปิดหน้า ขอทางเดินออกไปอย่างรีบด่วน อำนาจเรียก “เดี๋ยวก่อนไอ้น้อง”

ขิงสะดุ้งเฮือก ค่อยๆหันมาแต่ก้มหน้าก้มตา อำนาจบอกว่าเธอลืมกระเป๋าไว้ ขิงรีบคว้าเดินไป โซว์กลับลงมาพอดี ขิงดึงลากเขาออกจากโรงแรม อำนาจมองตามอย่างสงสัย หน้าคุ้นๆ พอดีพนักงานมารายงานว่า เจ้าชายให้ขึ้นไปพบได้ ชรินทร์จึงลุกเดิน อำนาจต้องตามไป

โซว์แปลกใจว่าขิงลากตนออกมาทำไม ขิงรีบบอกว่าพวกนั้นอยู่ในโรงแรม และมีข่าวว่าพวกเราเป็นผู้ต้องสงสัย โซว์ปลอบขิงอย่าตื่นตระหนก ตนจะให้เพื่อนช่วย ขิงลากโซว์ให้กลับก่อน รปภ.เข้ามาถามว่ามีอะไรกันหรือเปล่า พอเห็นหน้าทั้งสองคนก็จำได้ว่าเหมือนภาพในข่าว

“นายสองคนที่ออกทีวีเมื่อกี้นี่”

ขิงตกใจดึงโซว์ให้วิ่งหนี โบกแท็กซี่ออกไปทันที

ด้านชรินทร์มาเชิญปีเตอร์ไปทานเลี้ยงที่บ้าน ปีเตอร์ขอทำธุระให้เสร็จก่อน ชรินทร์เสนอจะช่วยจัดการให้ พอรู้ว่าปีเตอร์ต้องการหาคนซ่อมเอสดีการ์ด ก็จัดแจงรับมา ปีเตอร์ฉุกคิด เจ้าชายบอกว่าเป็นเรื่องสำคัญ จึงคว้ากลับคืนมา

“เราว่าเราเปลี่ยนใจแล้ว เอากลับไปซ่อมที่ประเทศเราก็ได้”

ชรินทร์ไม่ติดใจ แล้วนัดเวลาจะส่งรถมารับ

ooooooo

บนถนนข้าวสาร สมุนของอำนาจเอารูปโซว์กับขิงมาเดินถามบรรดาพ่อค้าแม่ค้า จนมาถึงตุ๊กซึ่งยืนร้องเรียกผู้โดยสารอยู่ ตุ๊กตกใจแต่กลบเกลื่อนไม่ให้เกิดพิรุธ บอกไปว่าไม่รู้จัก แต่หลังจากนั้น เขาก็รี่มาบอกขิงกับโซว์ ซักไซ้ไปก่อเรื่องอะไรกันมา ขิงเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง ตุ๊กตกใจเสนอให้หนีออกนอกประเทศ โซว์ไม่เห็นด้วย และว่าเพื่อนตนช่วยได้

“เพื่อนนายใหญ่โตมาจากไหนเชียว ถึงจะช่วยได้ ข้อหาเราสองคน ฆ่าคนตายนะ” ขิงโวย

“ไม่ต้องห่วงหรอก เพราะเพื่อนฉันเขาเป็น…” โซว์นึกได้ชะงัก

ขิงซักไซ้ โซว์อึกอัก ตุ๊กมองไปนอกหน้าต่างเห็นสมุนอำนาจเดินมา ก็รีบบอกให้สองคนเผ่นก่อน ขาดคำ มีเสียงเคาะประตูปังๆ ทั้งสามหน้าซีด พากันปีนออกทางหน้าต่าง ตุ๊กลังเลไม่กล้าโดด ขิงเห็นข้างล่างมีลังกระดาษกองอยู่จึงผลักตุ๊กลงไป แต่ความที่ตุ๊กกลัวหลับหูหลับตาจึงตกไปนอกลังร้องโอยๆ ขิงกับโซว์โดดตามลงไปอย่างฉิวเฉียด เพราะพวกสมุนพังประตูเข้ามา
โซว์เห็นว่ามือถือตนหล่นออกมาแตกกระจายจะเก็บ แต่ขิงลากเขาวิ่งออกไปเสียก่อน เพราะพวกนั้นทำท่าโดดตาม…ทั้งสามวิ่งมาถึงรถสามล้อของตุ๊ก ตุ๊กลนลานเสียบกุญแจไม่ถูก พวกสมุนตามใกล้เข้ามา โซว์คว้ากุญแจมาขับให้เอง ตุ๊กขยับที่ให้ โซว์ร้องถามคันเร่งอยู่ไหน ตุ๊กชี้ปั๊บ โซว์เหยียบมิด รถกระชากออกตัวจนตุ๊กเกือบตก เกาะขอบรถไว้ได้ทัน โซว์ขับเหวี่ยงไปมา ขิงช่วยกำขอบกางเกงตุ๊กไว้ไม่ให้ตก แต่แรงเหวี่ยงทำให้กางเกงหลุดออกมา ตุ๊กร้องลั่น

“ข้าจะอ้วกแล้ว คุณพระคุณเจ้าช่วยลูกด้วย” ตุ๊กห้อยตัวออกไปนอกรถ

พวกสมุนเจ็บใจที่ตามไม่ทัน แต่จดเลขทะเบียนรถไว้ได้…พอพวกขิงหนีรอด ตุ๊กอ้วกแตกอ้วกแตน ขิงต่อว่าโซว์ขับรถได้ห่วยมาก โซว์สุดเซ็งที่ถูกขิงลากตัวมา ไม่ทันเก็บซิมโทรศัพท์ ไม่รู้จะติดต่อปีเตอร์อย่างไร เพราะจำเบอร์ไม่ได้ จึงคิดจะกลับไปหาที่โรงแรม ขิงไม่ยอมพาไปตุ๊กดึงขิงมาคุยว่า น่าจะส่งตัวโซว์ให้ตำรวจ พวกเราจะได้เงินหนึ่งล้านด้วย ส่วนตัวขิงก็กลับมาเป็นผู้หญิงตามเดิม ไม่มีใครจำได้ แต่ขิงทำไม่ได้ ตุ๊กหาว่าอยากไปตายกับโซว์หรือ

“ไม่ใช่ยังงั้น แต่เราจะทิ้งเขาได้อย่างไร เรื่องที่เกิดก็เพราะเขาไม่อยากให้คนที่ถูกฆ่าตายฟรีๆ ฉันสิเป็นคนไทยแท้ๆ ยังไม่สนใจเท่าเขา เขาเป็นคนอื่น แต่ต้องมาเดือดร้อนเพราะเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับตัวเองแท้ๆ”

“แกชอบมันเหรอ ถึงอยากช่วยมัน”

“จะบ้าเหรอน้า ชอบเชิบอะไรกัน หน้ามันฉันยังไม่อยากมอง แต่ยังไงฉันก็นับถือน้ำใจของเขา ฉันเชื่อนะว่าเรื่องนี้จะต้องผ่านพ้นไปได้”

ตุ๊กจึงถามว่ามีแผนแล้วหรือ ขิงตอบว่าคงต้องหนีไปไหนสักพัก ทั้งสองกลับมาบอกโซว์ว่าจะหนีไปอยู่บ้านยายของขิงที่ต่างจังหวัด ให้เรื่องมันเงียบก่อนค่อย กลับมาหาเพื่อนเขา ทั้งสามขึ้นรถสามล้อไปยังสถานีรถไฟ สายของอำนาจเห็น รีบแจ้งไปว่าพวกขิงมาที่สถานีรถไฟ

ตุ๊กซื้อตั๋วรถไฟมายื่นให้ และขอเงินโซว์ไปซื้อของกินอีก ทั้งเนื้อทั้งตัวเขาเหลือเพียงหนึ่งร้อยบาท เพราะไม่ได้เอากระเป๋าเงินจากห้องพักมาด้วย พอตุ๊กเดินไป ขิงเห็นอำนาจและสมุนเดินมา จึงฉุดโซว์วิ่งหนี หลบขึ้นรถไฟที่เทียบชานชาลาเข้ามาพอดี ตุ๊กกลับมาไม่เห็นขิงกับโซว์ ก็เข้าใจว่าถูกทิ้ง ไม่วายพวกอำนาจตามขิงกับโซว์ขึ้นไปบนรถไฟอีก ทั้งสองต้องวิ่งหนีไปแต่ละโบกี้ จนสุดโบกี้สุดท้าย โซว์ตัดสินใจดึงขิงโดดลงแม่น้ำข้างทาง

ooooooo

ภายในบ้านชรินทร์ จัดงานเลี้ยงให้เจ้าชายแห่งนิวแลนด์ ติ๊งโหน่งแต่งตัวที่คิดว่าตัวเองสวยสุดระดับนางงามมาต้อนรับ แต่เดินไม่ระวัง สะดุดหน้า คะมำจากบันได โชคดีที่ชรินทร์รับลูกสาวไว้ได้ พอตั้งตัวติด เธอก็รี่เข้าหาปีเตอร์ เขาผงะจะหาทางหนี คุณหญิงฉาดประภาดักคอ

“ได้ข่าวว่าเจ้าชายทรงเล่นเปียโนได้เก่งมาก ทรงเล่นแล้วให้ลูกสาวหม่อมฉันร้องเพลงคลอตามได้ไหมเพคะ”

ปีเตอร์หน้าเสียเพราะเล่นไม่เป็น แขกในงานปรบมือกันเกรียว ติ๊งโหน่งรีบบอกว่า เขาเล่นเพลงอะไร ตนร้องได้หมด เขาย้อนถามได้ทุกเพลงแน่หรือ เธอพยักหน้า ปีเตอร์เลี่ยงไม่ได้จำต้องเล่น เขากดตัวโน้ตลงไปเสียงดังกระหึ่ม ทุกคนปรบมือตื่นเต้น จากนั้นก็กดรัวมั่วๆไป ติ๊งโหน่งพยายามร้องตามเสียงหลงไปหลงมา แขกในงานอ้าปากค้าง สีหน้าปวดหูแทบทนไม่ไหว ทั้งเสียงร้องและเสียงดนตรี จบลงด้วยแจกันที่ตั้งบนเปียโนแตกเพล้ง น้ำกระจายใส่ปีเตอร์และติ๊งโหน่ง ชรินทร์นำทุกคนปรบมือ แขกปรบมือตามด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ

“นี่แหละครับ เจ้าชายแห่งนิวแลนด์สุดยอดนักดนตรีของโลก”

จากที่เสื้อผ้าเปียกน้ำ ติ๊งโหน่งจึงพาปีเตอร์ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่เธอพยายามจะปลุกปล้ำ เขาหนีเข้าห้องน้ำเธอยังตามเข้าไป จึงใช้ฝักบัวฉีดใส่จนเธอเปียกปอน

แล้ววิ่งหนีออกมา…เขาพยายามจะขอตัวกลับ แต่คุณหญิงฉาดประภากับชรินทร์ช่วยกันรั้งไว้ให้อยู่ดูการแสดงโชว์ของลูกสาวอีก ปีเตอร์บ่นกับตัวเองเท่าที่ดูก็เก็บไปฝันร้ายหลายคืนแล้ว ติ๊งโหน่งแต่งตัวเสร็จตามออกมารบเร้าให้อยู่สานสัมพันธ์กับตนอีกสักนิด

“ไม่ต้องหรอก แค่นี้เราก็สุขสำราญบานฤทัยแล้ว”

“งั้นหม่อมฉันจะให้น้องติ๊งไปเฝ้าพระองค์บ่อยๆ”

ปีเตอร์รีบบอกว่านานๆมาทีหรือไม่ต้องมาเลยก็ได้ เกรงจะเหนื่อย ติ๊งโหน่งเข้าใจว่าเขาจะเป็นฝ่าย

มาหาตนเอง ปีเตอร์หน้าเสียที่เธอตีความไปแบบนั้น เขารีบลากลับก่อนที่เรื่องจะมากกว่านี้ ปีเตอร์รีบออกไปขึ้นรถกลับ ติ๊งโหน่งมองตามอย่างมีความสุขถามชรินทร์ว่าเจ้าชายจะรักตนมากขึ้นไหม ชรินทร์ตอบอย่างเอาใจลูกว่าแน่นอน ติ๊งโหน่งยิ้มสะใจได้เย้ยลัดลดา

พอแขกกลับไปหมด สาวใช้ถือสูทของปีเตอร์ที่เจอในห้องน้ำ เข้ามาบอกว่าไม่ทราบของใคร ติ๊งโหน่งจำได้ดึงมากอดและหอม บอกว่าเจ้าชายทิ้งไว้ให้ตนดูต่างหน้า

ด้านปีเตอร์กลับถึงห้องพัก ก็โล่งอกที่หนีรอดมาได้ จึงคิดจะเอาเอสดีการ์ดของเจ้าชายไปซ่อม แต่ค้นในตัวไม่เจอ นึกได้ว่าอยู่ในเสื้อสูท ก็เครียดทันทีเพราะสูทอยู่กับติ๊งโหน่ง

ooooooo




ชอบเว็บนี้ กด Like เลย

Tags:
ขอขอบคุณ Youtube Channel: TV3 Official, gmmchannel, GTHchannel, MCOT Official และ ช่อง one

ความคิดเห็น


เพื่อนๆที่ดูไม่ได้แนะนำให้ลองใช้โปรแกรม Chrome ในการดูนะครับ