หงส์สะบัดลาย (ตอนที่ 13) 25 กันยายน 2555

อ่านละครออนไลน์ — 25 กันยายน 2012

เรื่องย่อประจำตอน ละครหงส์สะบัดลาย

ตอนที่ 13

ในตลาดคลองถม ดลเดินเข้าเดินออกร้านขายเครื่องเสียงหลายแห่ง แต่ยังหาเครื่องเล่นเทปตามต้องการไม่ได้ จู่ๆ คำเที่ยงโทร.เข้ามาบอกเรื่องโทร.ติดต่ออ้อไม่ได้ หนุ่มน้อยจำใจโกหกว่าอ้ออาจทำกิจกรรมอยู่ และรับปากจะโทร.หาน้องเอง แต่เมื่อวางสายแล้ว เขาก็ลืมเรื่องอ้อเสียสนิทดลพบเจ้าของร้านใจดีคนหนึ่ง แนะนำให้ลองไปหาเครื่องเล่นเทปในร้านสุดซอย พร้อมการันตีว่าน่าจะมีเครื่องเล่นแบบที่ดลต้องการ

อ่านต่อ

เวลา เดียวกัน อิทธิหาญให้ชูศักดิ์กับโปรยพาอ้อขึ้นไปส่งในห้องนอนบนโกดังหวังจะย่ำยี แต่พงษ์เลิศเข้ามาปราม เพราะอยากให้งานเรียบร้อยก่อน อ้อหันมาถามจอมมาเฟียว่าจับตัวเธอมาทำไม

“อยากรู้ก็จะบอก ว่าเธอคือพาสปอร์ตออกนอกประเทศของพวกฉัน” อิทธิหาญตอบแทน เพราะเชื่อว่า ศิวัชคงไม่ยอมให้คนรักของน้องชายแฟน ตายไปต่อหน้าต่อตาแน่

พงษ์เลิศสะใจบอกต่อ “แล้วถ้ามันเซ็นให้เราเมื่อไหร่ ก็ถึงเวลาที่เราจะส่งไอ้สองพี่น้องนั่น ลงไปพบกับพ่อแม่มันในนรกซักที”

“ผม คันไม้คันมืออยากฆ่าพวกมันเต็มทีแล้ว เห็นที ต้องส่งตัวเร่งให้พวกมันมาที่นี่ไวๆซะแล้ว” อิทธิหาญหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา ก่อนจะเขยิบเข้าไปใกล้ๆ อ้อ แต่เธอดิ้นหนี เขาหันมาสั่งโปรยกับชูศักดิ์ให้ช่วยกันจับตัวอ้อไว้ แล้วฉีกเสื้อออก เผยให้เห็นหัวไหล่ขาวเพื่อสร้างสถานการณ์ให้ดูเหมือนอ้อถูกข่มขืน แล้วกดบันทึกภาพส่งไปให้เนติมา

เวลาเดียวกัน ระบิลนั่งทานอาหารฝีมือเนติมาอยู่หน้าบ้าน เขาได้รับโทรศัพท์จากจิ๊ก เธอโทร.มาร้องไห้ร้องห่มบอกกับน้องสามีว่า ปานเป็นคนฆ่าก้อง เพราะว่าก้องแอบได้ยินปานคุยกับพงษ์เลิศถึงเรื่องราวในอดีตเมื่อครั้งปานให้ ก้องมาช่วยงานฆ่าวิเชียรกับครอบครัว แต่ก้องปฏิเสธจึงถูกปานฆ่าปิดปาก ระบิลยืนกำโทรศัพท์แน่น ไหล่สั่นเทิ้มด้วยความโกรธ เนติมาเดินออกมาเห็น ปราดเข้ามาถามสาเหตุของอาการ

“มันฆ่าพี่ชายผม ผมจะฆ่ามัน” ระบิลวิ่งไปเปิดลิ้นชักจะหยิบปืน แต่เนติมาขวางพลางเตือนสติ

“ผมไม่สนอะไรทั้งนั้น ผมจะฆ่ามัน ผมจะแก้แค้นให้พี่ชายผม มันทำกับพี่ชายผมยังไง มันต้องเจ็บกลับกว่าสิบเท่า มันฆ่าคนที่รักผม ตอนนี้ผมไม่เหลือความหวังอะไรอีกแล้ว ผมไม่เหลือใครอีกแล้ว…”

“นายยัง เหลือฉันไง ฉันอยู่ตรงนี้นายไม่เห็นเหรอ ตอนนี้ฉันเหลือแค่นายจริงๆ นายอย่าไปนะ…อย่าทิ้งฉันไป ถ้านายเป็นอะไรไปฉันจะอยู่ยังไง” เนติมากอดระบิลร้องไห้

ระบิลได้คิด เขารับปากจะไม่ทิ้งเธอไปไหน และขอโทษที่วู่วาม

“ฉันเข้าใจนายทุกอย่าง เพราะฉันก็รู้สึกไม่ต่างจากนาย ฉันสัญญานะว่าจะช่วยนายจับพวกนั้นเข้าคุกให้ได้ แต่นายต้องสัญญาว่าจะไม่วู่วามแบบนั้นอีก ฉันกลัว ฉันไม่อยากเสียนายไป”

“คุณจะไม่มีวันเสียผมไป ผมจะอยู่กับคุณเท่าที่คุณต้องการ ผมสัญญา อย่าร้องไห้เพราะผมเลยนะ” ระบิลค่อยๆเช็ดน้ำตาให้เนติมาอย่างแผ่วเบา

หนุ่มสาวประสานตากันนิ่งนาน ก่อนระบิลจะค่อยๆ ก้มหน้าลงไปจูบเนติมา แต่ไม่ทันที่ริมฝีปากของทั้งคู่จะสัมผัสกัน ศิวัชก็เปิดประตูเข้ามา เขาช็อกกับภาพที่เห็นตรงหน้า

เนติมามองออกไป เห็นศิวัชยืนกำมือแน่นท่าทางโกรธจัด เธอรีบผละออกจากระบิล ขยับจะอธิบาย แต่ศิวัชหันหลังเดินหนีออกไปเสียแล้ว

ระบิลรีบดึงเนติมาตามไป ศิวัชหันมาตัดพ้อคนรัก เนติมายืนอึ้งพูดไม่ออก ระบิลว่าเป็นการเข้าใจผิด

“เข้าใจผิดงั้นเหรอ…” ศิวัชหันมาจะเอาเรื่อง

เสียงสัญญาณข้อความของโทรศัพท์เนติมาดังขึ้น เธอกดดูแล้วต้องช็อกสุดขีด รีบบอกระบิลกับศิวัช

“แย่แล้ว เกิดเรื่องแล้วค่ะ พวกนายพงษ์เลิศ มันจับตัวอ้อไปแล้ว” สองหนุ่มชะงักหันมา เนติมายื่นมือถือให้ดูภาพ

ooooooo

ดลหิ้วถุงเครื่องเล่นเทปออกจากร้านอย่างอารมณ์ดี เขาจะโทร.บอกพี่สาว แต่เนติมาโทร.เข้ามา เธอบอกดลว่า อ้อถูกอิทธิหาญจับตัวไปและส่งภาพอ้อในสภาพเกือบเปลือยมาให้ดูด้วย ดลโกรธมากจะบุกไปช่วยอ้อ แต่เนติมาปรามไว้ เร่งให้ดลกลับไปแจ้งข่าวกับคำเที่ยง แล้วติดต่อขอกำลังผู้กำกับวิเชษฐ์ให้มาช่วย แล้วเธอจะรีบตามไปสมทบ

“ครับ ผมเข้าใจ” ดลกดวางสายโทรศัพท์ ก่อนจะตัดสินใจวิ่งฝ่าฝูงคนมากมายบนถนนนั้นออกไป

ส่วนเนติมา เธอหันมาบอกระบิลและศิวัชที่ยังมองหน้ากันอย่างอึดอัดใจว่า จะไปช่วยอ้อ ระบิลขอตามไปด้วย เขาวิ่งเข้าไปในบ้านเพื่อหยิบอาวุธและกุญแจรถ

จากนั้นก็ชวนเนติมาไปขึ้นรถและไม่ลืมหันมาบอกศิวัชที่ยืนตีหน้าขรึม ว่าเรื่องอื่นค่อยมาจัดการทีหลัง ตอนนี้ชีวิตคนสำคัญกว่า

ระบิลกับเนติมาเดินออกไป ศิวัชมองตามอย่างครุ่นคิด ก่อนตัดสินใจวิ่งตามไป เขาบอกทั้งสอง “พวกคุณไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะคนที่พวกมันต้องการเจอก็คือผม”

นายกฯหนุ่มฯเดินไปไขกุญแจรถที่จอดอยู่ข้างๆรถระบิล ก่อนจะหยิบปืนออกมาเหน็บที่เอวอย่างเตรียมพร้อมแล้วเดินไปเปิดประตูรถระบิลขึ้นไปนั่ง เนติมากับระบิลรีบเข้าประจำที่
รถแล่นออกไป ท่ามกลางบรรยากาศอึมครึมของคนในรถ

ooooooo

ที่บ้านกันต์ ทุกคนพากันขวัญเสียเมื่อรู้ข่าวอ้อ กันต์กับเจือจันทร์หันมาถามขวัญชนกว่าโทร.บอก ผู้กำกับวิเชษฐ์แล้วใช่ไหม หล่อนพยักหน้ารับ และบอกว่าวิเชษฐ์กำลังจะตามไปช่วย เจือจันทร์ชวนทุกคนไปสมทบกับเนติมา แต่ดลว่างานนี้เขาขอไปคนเดียวดีกว่า ถึงเวลาต้องปิดบัญชีแค้นแล้ว

คำเที่ยงขอตามไปช่วยอ้อด้วย เขาลุกเดินนำดลออกไป ทิ้งให้ครอบครัวกันต์มองตามด้วยความเป็นห่วง

ด้านวิเชษฐ์เมื่อทราบเรื่องอ้อถูกจับตัว ก็รีบเช็กข้อมูลก่อนโทร.ไปบอกระบิล ว่าโกดังแห่งนั้นเป็นโกดังร้างที่พงษ์เลิศใช้เก็บอาวุธเถื่อน เขากับลูกน้องเข้าไปตรวจค้นหลายครั้งแต่ก็ไม่เจออะไร เพราะสายภายในคอยแจ้งข่าวให้รู้ตัวก่อน และผู้กำกับก็ย้ำก่อนวางสายว่า ให้ทุกคนระวังตัวให้มาก ห้ามทำอะไรบุ่มบ่ามก่อนที่เขาจะไปถึง เพราะภายในโกดังมีการป้องกันอย่างดี

ระบิลรับคำแล้วหันมาแจ้งกับเนติมาและศิวัช นายกฯหนุ่มพึมพำว่า เรื่องนั้นเขาทราบดีอยู่แล้ว ระบิลพยักหน้าหันไปหยิบปืนกระบอกหนึ่งส่งให้เนติมาไว้ป้องกันตัวพลางกำชับ

“ปืนมีไว้ป้องกันตัว ไม่ได้มีไว้ตัดสินชีวิตใคร ไม่ว่าคนๆ นั้นจะเลวร้ายกับเรามากแค่ไหน ต้องรู้จักอดทน ข่มใจ อภัย”

“รู้แล้วน่า” เนติมามองหน้า สายตาดื้อรั้นเหมือนไม่เชื่อ ทำให้ระบิลเริ่มลังเลจะเก็บปืนเข้าที่ แต่เนติมา กลับคว้ามันไปถือไว้อย่างคล่องแคล่ว

ไม่นานนัก ทั้งสามก็มาถึงหน้าโกดัง พวกเขาไปสมทบกับดลและคำเที่ยงที่ซุ่มดูอยู่ ส่วนในโกดังอิทธิหาญเดินวนไปมาด้วยความหงุดหงิดก่อนหันมาบ่นกับพ่อ

“ที่จริงเราไม่น่าให้พวกมันมาที่โกดังนี่เลย ถ้าไอ้ศิวัชมันรู้เรื่องค้าอาวุธเถื่อนของเรา มันจะไม่แย่เหรอ”

“รู้แล้วจะทำอะไรเราได้ แผนนี้เราเป็นคนคุมเกม มันเป็นแค่ตัวเบี้ยที่ต้องเล่นไปตามคำสั่งเราเท่านั้น แล้วถ้าเราออกไปนอกประเทศได้ อย่าหวังเลยว่าพวกมันจะทำอะไรเราได้อีก” จอมมาเฟียหัวเราะชอบใจ

โปรย ทนง ชูศักดิ์ที่ฟังอยู่ก็พลอยยิ้มไปด้วย แต่เมื่อหันมาเห็นปานยืนหน้าเครียดจึงแกล้งล้อเรื่องจิ๊ก ปานฟังแล้วปวดใจรีบเดินหนี

ooooooo

ดลซุ่มดูลาดเลาอยู่หน้าโกดัง เขาเห็นข้างในเงียบผิดปกติจึงหันมาปรึกษาระบิลว่าจะบุกไปช่วยอ้อเอง แต่ระบิลไม่เห็นด้วย เขาว่าให้รอกำลังเสริมจากวิเชษฐ์ก่อน ศิวัชเสริมว่าพวกพงษ์เลิศจะยังไม่ทำอะไรอ้อ จนกว่าจะได้สิ่งที่ต้องการ แต่เขายังเดาไม่ถูกว่า พวกมันต้องการอะไร

ดลทำท่าจะค้าน แต่คำเที่ยงรีบตัดบท “ทำตามอย่างที่ทุกคนพูดน่ะถูกต้องแล้ว พ่อรู้ว่าดลเป็นห่วงน้อง แต่ดลก็ต้องห่วงความปลอดภัยของคนอื่นๆด้วย เราจะยังไม่ทำอะไรทั้งนั้นจนกว่าผู้กำกับวิเชษฐ์จะมา”

ดลหน้าเครียดมองทุกคนอย่างขัดใจ ก่อนหันไปมองที่โกดังร้างเหมือนมีแผนการอะไรบางอย่าง

ส่วนอ้อที่ถูกจับมัดมือมัดเท้าอยู่ในห้อง เธอพยายามแกะเชือกที่มัดมือออกอย่างทุลักทุเล จนในที่สุดมันก็ขาดออกจากกัน สาวน้อยไม่รอช้ารีบแก้เชือกที่เท้าต่อ แล้วลุกวิ่งออกไปจากห้องขัง ตรงไปที่ประตูใหญ่และพยายามเปิดมันออก แต่ทำไม่ได้

“คิดจริงๆเหรอว่าฉันจะปล่อยให้เธอหนีออกมาง่ายๆ โลกสวยเกินไปรึเปล่าน้อง” อิทธิหาญกับลูกน้องย่างสามขุมเข้ามาหา

“นี่แกแกล้งฉันเหรอ”

“ฉันกับเธอก็ไม่มีอะไรทำทั้งคู่ เล่นเกมวิ่งไล่จับแบบนี้ระหว่างรอแฟนเธอมาช่วยมันก็สนุกเร้าใจดี

ไม่ใช่เหรอจ๊ะ ฉันมีอะไรทำให้เธอสนุกได้มากกว่านี้อีก” อิทธิหาญทำหน้าหื่น ก่อนจะวิ่งเข้าไปจับตัวอ้ออุ้มพาดไว้บนบ่า แล้วแบกกลับเข้าห้องขัง ในขณะที่อ้อทั้งร้อง ทั้งดิ้นด้วยความกลัวสุดขีด

“ปล่อยฉันนะ…อย่ามายุ่งกับฉัน ปล่อย ช่วยด้วย… ใครก็ได้ช่วยด้วย”

ระบิล เนติมา ศิวัช และคำเที่ยงที่อยู่ด้านนอกชะงักมองหน้ากัน เพราะจำเสียงอ้อได้ ระบิลร้อนใจบ่นว่าคงรอผู้กำกับวิเชษฐ์ไม่ได้แล้ว ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย แล้วลุกจะไปช่วยอ้อ แต่ต้องชะงัก เมื่อศิวัชร้องถามว่า ดลหายไปไหน

ระบิลหันมามองไม่เห็นดลก็หัวเสีย กลัวจะถูกจับตัวไปอีกคน เขาให้ศิวัชกับเนติมารอกำลังเสริมจากวิเชษฐ์ก่อน ส่วนตัวเองกับคำเที่ยงจะตามดลไป

เนติมาไม่ยอม จะไปด้วย ระบิลทำเสียงเข้มใส่ “ไม่มีแต่ ถ้าคุณไปกับผมอีกคน ผมจะห่วงหน้าพะวงหลัง ตอนนี้คุณต้องเชื่อใจผมว่า ผมจะช่วยอ้อและดลกลับมาให้ได้ ฝากด้วยนะครับ”

“ผมจะไม่ยอมให้เนติมาหายไปไหนอีกคนแน่” ศิวัชรับปาก

ระบิลเดินนำคำเที่ยงออกไป เนติมามองตามด้วยความเป็นห่วง แต่ทำอะไรไม่ได้ ขณะที่ศิวัชเองก็กังวลกับสถานการณ์ตรงหน้าไม่น้อยไปกว่าเนติมา

เวลาเดียวกัน ดลเดินด้อมๆมองๆอยู่แถวๆหน้าประตูทางเข้าโกดัง เขาได้ยินเสียงร้องโวยวายของอ้อดังออกมา จึงวิ่งเข้าไปลุยกับยามที่ยืนเฝ้าหน้าประตู แต่สุดท้ายก็พลาด เพราะมีสมุนอิทธิหาญอีกสี่คนเข้ามาสมทบ

จังหวะที่ดลเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ ระบิลกับคำเที่ยงตามมาทันพอดี ทั้งสองเข้าไปช่วยดล

ครั้นล้มเหล่าสมุนได้แล้ว ระบิลไล่ให้ดลกลับออกไปพร้อมคำเที่ยง เพราะเขาจะบุกเข้าไปช่วยอ้อเอง แต่ดลไม่ยอมจะขอเข้าไปด้วย ระบิลหันมาดุแล้วพลันชะงัก เมื่อคำเที่ยงสะกิดให้ดูปานที่เดินเข้ามาพร้อมกับลูกน้องกลุ่มใหญ่

พวกมันใช้ปืนจี้บังคับพาระบิล ดล และคำเที่ยงเข้าไปให้พงษ์เลิศ จอมมาเฟียออกอาการไม่พอใจที่ลูกชายหละหลวม ปล่อยให้ศัตรูเข้ามาเหยียบถึงหน้าประตู จึงพาทั้งหมดเข้าไปหาอิทธิหาญในห้องขัง พบมาเฟียน้อยกำลังเอามีดปลายแหลมกรีดไปบนเสื้อของอ้ออย่างคนโรคจิต

พงษ์เลิศต่อว่าลูกชายก่อนหันมาสั่งให้พวกปานผลักระบิล ดล และคำเที่ยงเข้ามากองรวมอยู่กับอ้อ อิทธิหาญเสียหน้าขอโอกาสแก้ตัว อาสาไปตามล่าเนติมากับศิวัชมาให้พ่อเอง เพราะมั่นใจว่าทั้งสองต้องมากับระบิลแน่

มาเฟียน้อยกับลูกน้องกลุ่มหนึ่งเดินออกไป พงษ์เลิศ มองตามก่อนหันมาสั่งปานว่าให้จัดการทุกคนเพราะไม่ใช่ คนที่เขาต้องการ

ปานถ่ายทอดคำสั่งไปยังทนงและขอจัดการกับระบิลเอง ทนงส่งยิ้มร้ายทำท่าจะชักปืนมายิงดล อ้อ และคำเที่ยง แต่แล้วก็เปลี่ยนใจบอกว่า จะให้ทุกคนตายอย่างช้าๆ และทรมาน ด้วยการค่อยๆเฉือนด้วยมีดทีละชิ้น แล้วหันกลับไปยืนลับมีดอย่างใจเย็น

ระบิลมองมีดในมือทนงพลางครุ่นคิดหาทางออก ขณะที่ปานเริ่มอึดอัดใจเร่งให้ทนงจัดการฆ่าทุกคนให้สิ้นเรื่องสิ้นราว แต่ทนงยังท่ามากคุยโวไปเรื่อย เท่ากับเปิดโอกาสให้ระบิลได้แกะเชือกที่มือตัวเอง ขณะที่ปากก็ต่อว่าดลเรื่องไม่ยอมเชื่อฟังตน เพื่อเบี่ยงประเด็น

ครู่ต่อมาเชือกก็หลุด ระบิลแอบโชว์ให้ดลดู แล้วช่วยแกะเชือกให้ดลพลางบอกแผนการว่า เมื่อเชือกหลุด แล้วให้ดลหยิบเก้าอี้ฟาดไปที่ทนง แล้วพาทุกคนหนีไปโดยเร็วที่สุด

“แล้วพี่ล่ะ”

“แผนมีแค่นั้น เรื่องอื่นนายไม่ต้องถาม ฉันเอาตัวรอดได้” สั่งการเสร็จเชือกที่มือดลก็หลุดพอดี หนุ่มน้อยทำเนียนช่วยแกะเชือกให้อ้อกับคำเที่ยงต่อ ขณะที่ระบิลหันไปพาลหาเรื่องปาน

ปานของขึ้นสวนกลับเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเขากับจิ๊กทำให้ระบิลลืมตัวพุ่งเข้าเล่นงานปานลงไปกองกับพื้น ทนงจะลุกมาช่วย แต่เจอดลที่รอจังหวะอยู่ฟาดด้วยเก้าอี้ล้มคว่ำหมดสติ ระบิลตะโกนสั่งให้ดลพาทุกคนหนีไป ปานลุกขึ้นได้หันมาเตะระบิลไปกระแทกกับมุมโต๊ะจนมึน ก่อนวิ่งตามไปยิงใส่พวกดลออกไป

เสียงปืนทำให้เนติมากับศิวัชไม่อาจทนรอต่อไปได้ ทั้งสองวิ่งมาที่หน้าโกดัง พบดล อ้อและคำเที่ยงวิ่งออกมา แล้วจู่ๆคำเที่ยงก็ทรุดลงเพราะถูกคมกระสุนของปาน

คำเที่ยงรู้ตัวว่าไม่รอดแน่ จึงฝากฝังให้ดลช่วยดูแลอ้อด้วย ก่อนจะหมดลมหายใจ

“พ่อ ไม่นะ พ่อ ไม่” ดลเงยหน้าขึ้น เห็นปานเดินถือปืนเข้ามาทำท่าจะเหนี่ยวไกยิงตนกับอ้อ แต่ศิวัชเข้ามาเตะสกัด ปืนในมือปานตกลงพื้น

ส่วนเนติมาวิ่งเข้าไปประคองระบิลที่เดินมึนๆ ตามมา ทั้งหมดชวนกันหนีก่อนพวกเหล่าร้ายจะออกมา เสียงปืนดังขึ้น กระสุนพุ่งถากแขนของศิวัชที่ถือปืนยืนคุมเชิงอยู่

อิทธิหาญ พงษ์เลิศ พร้อมเหล่าสมุนเดินเข้ามา สองวายร้ายบังคับให้ศิวัชกับเนติมาเข้าไปคุยกันในห้องแลกกับความปลอดภัยของทุกคน ส่วนปาน ทนง ชูศักดิ์ คุมตัวคนที่เหลือไว้ เนติมาหันมาสบตากับระบิลก่อนจำใจเดินตามสองพ่อลูกไป บอดี้การ์ดหนุ่มวิเคราะห์สถานการณ์หาทางช่วยทุกคนให้กลับออกไปอย่างปลอดภัย

อิทธิหาญกับพงษ์เลิศพาเนติมาและศิวัชเข้ามาในห้องกระจก พวกเขาบังคับให้ศิวัชเซ็นเอกสารยกเลิกคำสั่งการออกนอกประเทศ แต่เนติมาร้องห้ามจึงโดนวายร้ายใช้ปืนจี้หัวก่อนหันไปบังคับศิวัช

“แล้วถ้าเพิ่มเงื่อนไขนี้ด้วยล่ะ ท่านจะยอมเซ็นไหม” อิทธิหาญขึ้นนก

ขณะที่พงษ์เลิศหยิบปากกายื่นให้ศิวัช “อย่าทำให้อะไรๆมันยุ่งยากไปกว่านี้เลย”

ศิวัชจำนนรับปากกามาถือไว้ เขามองเอกสารที่อยู่ตรงหน้า สลับกับมองเนติมาที่ถูกปืนจ่อหัวไว้

ด้านระบิล เขามองเข้าไปในห้อง เห็นเนติมาถูกปืนจ่อหัว ส่วนศิวัชก้มหน้าเครียด ก็เริ่มคิดหนัก ปานที่ยืนคุมเชิงอยู่จ่อปืนมาที่รุ่นน้องพลางเอ่ยอย่างรู้ทัน

“สถานการณ์อย่างนี้ แกยังจะคิดช่วยคนอื่นอีกเหรอ เอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะ ระยะเผาขนแบบนี้ ฉันยิงไม่พลาดอยู่แล้ว

“แล้วแกคิดว่าฉันจะยอมให้แกยิงง่ายๆงั้นเหรอ ถึงฉันจะเป็นคนดี แต่ก็ไม่จำเป็นต้องดีกับคนที่ฆ่าพี่ชายของฉันหรอกเว้ย” ระบิลพูดเสร็จก็ใช้เชือกที่แกะออกมาเรียบร้อยแล้ว คล้องรัดคอปานก่อนจะบิด จนปานหายใจไม่ออก ชูศักดิ์กับโปรยที่มัดดลกับอ้ออยู่จะหันมาช่วยแต่ถูกระบิลใช้เท้าทั้งสองจัดการจนสลบเหมือด

ระบิลเร่งให้ดลกับอ้อหนีไป แต่ทั้งสองยังละล้าละลังทำให้ระบิลเสียจังหวะถูกปานที่ตั้งตัวได้เล็งปืนใส่ แต่ระบิลก็เล็งสวนทันควัน ปานส่งยิ้มร้ายบอกว่า ระบิลไม่กล้ายิงตนแน่

“ระบิลไม่กล้ายิง แต่ฉันกล้ายิง” จิ๊กยืนถือปืนเล็งมาทางปาน “พี่โง่ ยกโทษให้พี่ด้วยนะระบิล ไม่มีผู้หญิงคนไหนจะเลวไปกว่าพี่แล้ว ถ้าพี่ไม่ได้ฆ่ามันตายไปพี่คงไม่กล้าสู้หน้าพี่ก้อง” จิ๊กลั่นไกจะฆ่าปาน แต่ปืนขัดลำกล้องยิงไม่ได้

ปานได้โอกาส ยิงสวนจิ๊กไปเข้าจุดสำคัญ ร่างของเธอทรุดฮวบลงตายจมกองเลือด ทั้งแววตาฉายแววคั่งแค้น

ระบิลเดือดดาลยกปืนขึ้นเล็ง ปานร้องท้า เพราะเชื่อว่าระบิลเป็นคนดีเกินกว่าจะฆ่าตนได้ แต่ต้องชะงักเมื่อระบิลตัดสินใจยิงไปที่ขาและแขนทั้งสองข้างของปานอย่างละนัด ก่อนเดินเข้ามาบอก

“ใช่ ฉันยอมรับว่าฆ่าแกให้ตายไม่ได้ แต่ฉันฆ่าแกให้เป็นคนพิการ ตายทั้งเป็นได้”

เสียงรถตำรวจดังเข้ามา ระบิลสั่งอ้อกับดลให้รีบไปตามวิเชษฐ์ ส่วนตนจะเข้าไปช่วยเนติมากับศิวัชเอง

ด้านศิวัช เขาตัดสินใจไม่เซ็นเอกสารให้สองพ่อลูก เพราะจะไม่ยอมทรยศประชาชน อิทธิหาญฉุนจัดหันปืนไปจะยิงศิวัช แต่เนติมาหยิบปืนที่ระบิลให้ออกมาเล็งไปที่อิทธิหาญแทน

“วางปืนของแกซะ ฉันจะไม่ยอมให้แกใช้ปืนของแกทำเรื่องชั่วๆอีกแล้ว ถ้าพวกแกชอบเล่นนอกกรอบ ได้ !! ฉันก็จะเล่นวิธีนอกกรอบแบบของพวกแก ตาต่อตา ฟันต่อฟัน แกเคยทำให้ครอบครัวฉันเจ็บช้ำมากแค่ไหน ฉันก็ทำกับพวกแกแบบนั้น ฉันเคยเห็นแกฆ่าพ่อแม่ฉันต่อหน้าต่อตา ฉันจะให้แกได้รู้สึกถึงความรู้สึกนั้นบ้าง” สาวแกร่งขึ้นนกเตรียมยิง

อิทธิหาญ และพงษ์เลิศถึงกับสะดุ้ง เริ่มกลัว แต่ยัง ปากดีท้าว่า เนติมาไม่กล้ายิง

“ทำไมฉันจะไม่กล้า ถ้าคนที่เห็นพ่อแม่ถูกฆ่าตายต่อหน้าต่อตา แล้วโตขึ้นมาได้โดยไม่บ้า แล้วมายืนอยู่ต่อหน้าพวกแกได้อย่างนี้ ต่อให้ต้องทำยิ่งกว่าฆ่าพวกแกฉันก็ทำได้”

“ใจเย็นๆเนติ์ มันไม่คุ้มหรอก ยังไงเราก็เอาผิดพวกนั้นในศาลได้อยู่แล้ว” ศิวัชเตือนสติ

เนติมานิ่งคิด อิทธิหาญได้โอกาสยกปืนขึ้นมาเหนี่ยวไกใส่เนติมา แต่ระบิลวิ่งมารับกระสุนแทน

“คุณเนติ์ระวัง” กระสุนพุ่งเข้าร่างระบิล ชายหนุ่มทรุดลงในอ้อมแขนของเนติมา

“ระบิลนายทำบ้าแบบนี้ทำไม นายจะตายไม่ได้นะ นายจะตายไม่ได้” เนติมาฟูมฟายเมื่อเห็นระบิลแน่นิ่ง

“ไม่ต้องโวยวาย เดี๋ยวเธอก็จะได้ตามมันไปอยู่กับพ่อแม่เธอแล้ว” อิทธิหาญยกปืนจะยิงเนติมาอีกครั้ง แต่ไม่ทันได้เหนี่ยวไกก็ถูกกระสุนจากวิเชษฐ์และกำลังตำรวจที่เข้ามาในห้องนั้นระดมยิงจนร่างพรุนขาดใจตาย

พงษ์เลิศยืนตะลึงเมื่อเห็นลูกชายตายต่อหน้า และตำรวจมากมายเข้ามา เขารีบตั้งสติและอาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีไป

ศิวัชเข้าไปหาเนติมาที่นั่งกอดระบิลร้องไห้ ได้ยินเธออ้อนวอนให้ช่วยชีวิตระบิลด้วย นายกฯหนุ่มยืนอึ้งด้วยความเจ็บปวดที่เห็นคนรักเป็นห่วงระบิลเหลือเกิน และนึกชมใจระบิลที่ยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเนติมา

ooooooo

ระบิลถูกนำส่งโรงพยาบาล ทีมแพทย์ช่วยชีวิตเขาไว้ได้ เพราะกระสุนไม่ถูกจุดสำคัญ เนติมาโล่งใจตามเฝ้าไข้อย่างใกล้ชิด ขณะที่ธำรงตามมาต่อว่าศิวัชที่นั่งทำแผลอยู่ในห้อง

“แกคิดยังไงของแกถึงเอาตัวไปเสี่ยงกับเรื่องแบบนี้ ถ้าแกเป็นอะไรไปจะทำยังไง อย่าลืมซิว่าตอนนี้แกไม่ใช่คนธรรมดา แต่เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศนี้”

“ผมแค่ทำตามสัญญาที่พวกเราเคยให้ไว้กับเนติ์ ว่าจะช่วยจัดการกับคนที่ฆ่าพ่อแม่ของเขา คุณพ่อคงไม่ได้ลืมสัญญานั้นไปใช่ไหมครับ”

“ก็แค่จัดการปลดพวกมันออกจากอำนาจ แล้วเอาขึ้นศาลยังไม่พอรึไง”

“นั่นคุณพ่อแน่ใจเหรอครับว่าทำเพื่อเนติ์ ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง”

ธำรงสะอึกมองหน้าศิวัช ขณะจะอ้าปากด่าปฏิพรก็เข้ามาในห้องพอดี เขาเปลี่ยนสีหน้าหันไปทักทาย แล้วพูดเป็นนัยๆว่า จะไปคุยกับนายพลทวีเรื่องให้ปฏิพรมาช่วยดูแลศิวัชเป็นการถาวร

แม่ร้อยเล่ห์แสร้งหัวเราะเปรยว่า ศิวัชอาจไม่ต้องการแบบนั้นก็ได้

“ไม่ใช่แบบนั้นหรอกหนูตี้ ใช่ไหมศิวัช” ธำรงหันมามองลูกชาย เห็นเจ้าตัวตีหน้าขรึมใส่เหมือนไม่ยอมรับก็ไม่พอใจ แต่ต้องเก็บอาการไว้

สองวันต่อมา พงษ์เลิศเข้ามอบตัวสู้คดีในชั้นศาล โดยขอยื่นประกันตัวด้วยวงเงินสิบล้านบาท เขาให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเกมการเมือง ที่ฝ่ายตรงข้ามต้องการดิสเครดิต และพูดสาดโคลนใส่ศิวัชจนประชาชนเริ่มสับสน

ด้านเนติมา เธอนั่งเฝ้าระบิลอยู่ในห้องพักคนไข้ เมื่อเห็นข่าวก็ทำใจไม่ได้ จนระบิลต้องช่วยปลอบใจว่า ถึงวันนี้กฎหมายจะยังเอาผิดกับพงษ์เลิศไม่ได้ แต่เขาไม่มีวันหนีเวรกรรมจากสิ่งที่ตัวเองก่อไว้ได้แน่ เนติมาเชื่อตามนั้น เธอเข้ามาดูแลระบิลพร้อมทวงสัญญาว่ายังติดหนี้ ทำอาหารให้เขาทานหนึ่งมื้อ

“อันนั้นผมยกหนี้ให้เลย กลัวอาหารของคุณจะทำให้ผมเจ็บหนักกว่านี้”

“งั้นฉันไม่ทำให้กินก็ได้ เชอะ นายดูแลตัวเองก็แล้วกัน” เนติมาทำงอนจะลุกหนี ระบิลรีบอ้อน

ยามหนุ่มสาวทำหวานใส่กัน ขวัญชนก วิเชษฐ์ อ้อ และดลเดินเข้ามาขัดจังหวะ เพราะเพิ่งจัดการเรื่อง งานศพคำเที่ยงเสร็จ ทั้งสี่โห่แซวระบิลกับเนติมา ก่อนจะจับแยกตัวมาสัมภาษณ์เดี่ยว เพราะอยากให้เรื่องราวความรักของระบิล เนติมา และศิวัชลงเอยด้วยดี

แต่เนติมายังให้คำตอบไม่ได้ เธอว่าตอนนี้เรื่องสำคัญที่สุดคือต้องให้พงษ์เลิศเข้าคุกให้ได้

“จะกลัวอะไร หลักฐานสำคัญเธอก็ได้แล้ว เธอชนะเห็นๆ” ขวัญชนกมั่นใจ

“ไม่แน่หรอกนะ ลองถ้าคนอย่างนายพงษ์เลิศกล้าเดินกลับมามอบตัว ยอมสู้คดีแล้วละก็ เขาคงต้องมีอะไรดีๆแน่ เพราะฉะนั้นฉันต้องไม่ประมาท แล้วก็ไม่วอกแวกกับอะไรทั้งนั้น”

“แล้วเธอจะปล่อยให้เรื่องของเธอ คุณระบิล แล้วก็ คุณศิวัช ไว้แบบนี้น่ะเหรอ”

เนติมาถอนหายใจหน้าเศร้า ขวัญชนกมองเพื่อนอย่างเห็นใจ

ooooooo

แล้ววันที่เนติมากับดลรอคอยก็มาถึง คดีของครอบครัวอิสราวัชถูกรื้อขึ้นมาใหม่

พงษ์เลิศในฐานะผู้ถูกกล่าวหาขึ้นให้ปากคำในศาล เนติมานำเทปลับของพ่อมาเปิดให้ทุกคนฟังหวังใช้เป็นหลักฐานเอาผิด แต่ทนายของวายร้ายอ้างว่า เสียงที่ได้ยิน อาจไม่ใช่เสียงวิเชียรก็ได้  เพราะในปัจจุบันมีการใช้โปรแกรม ปรับแต่งเสียง ตัดต่อได้อย่างแนบเนียน อีกทั้งทางเนติมาก็ไม่มีหลักฐานยืนยันที่แน่ชัด ที่จะระบุว่าเสียงที่ได้ยินเป็นเสียงของพงษ์เลิศคุยกับวิเชียรจริง ทำให้ศาลต้องเลื่อนการพิจารณาออกไปก่อน

สองพี่น้องเดินหน้าเครียดออกมาที่ลานจอดรถ หมดหวังจะเอาผิดพงษ์เลิศ ขณะที่พงษ์เลิศส่งยิ้มเย้ยเดินเข้ามาคุยข่ม “ระดับฉัน ถ้าไม่แน่จริงไม่อยู่มาจนวันนี้หรอก บอกไว้เลยนะว่าพวกแกไม่มีทางหาหลักฐานมาเอาผิดฉันได้หรอก”

“มันไม่มีหรอกนะคะ อาชญากรรมที่ไม่มีร่องรอย”

“มันก็ขึ้นอยู่กับว่าร่องรอยนั้นเป็นของใคร ไปเถอะคุณทนาย ไปฉลองล่วงหน้า ยังไงคดีนี้พวกเราชนะแน่ๆ” พงษ์เลิศเดินหัวเราะอย่างสะใจกลับไปที่รถพร้อมทีมทนาย

เนติมาและดลมองตามด้วยความเจ็บใจสุดๆ แล้วต้องชะงัก เมื่อเห็นชลกรเดินตามพงษ์เลิศไป เธอเรียกให้จอมมาเฟียหันมา

พงษ์เลิศแปลกใจเอ่ยทักชลกร “ออกมาได้ยังไงเนี่ย เธอโดนจับไปแล้วไม่ใช่เหรอ นี่คงจะใช้วิธีเก่าๆที่เธอถนัดอีกล่ะซิ ไหนบอกหน่อยซิ ว่าเธอต้องนอนกับผู้ชายมากี่คน ถึงออกมาได้”

“ฉันยอมนอนกับผู้ชายทั้งเรือนจำก็ได้ ถ้ามันจะทำให้ฉันออกมาแก้แค้นผู้ชายชั่วๆ อย่างแก ถึงใครจะเอาผิด แกไม่ได้ แต่ฉันที่แหละที่จะเอาแกไปลงนรกเอง” ชลกรยกปืนที่ซ่อนไว้ เล็งไปที่พงษ์เลิศ

พงษ์เลิศรีบต่อรอง แต่ชลกรไม่หลงกล “คิดว่าฉันจะเชื่อคำโกหกหลอกลวงของผู้ชายอย่างพวกแกงั้นเหรอ พวกแกใช้ประโยชน์จากฉันมากพอแล้ว ถึงเวลาที่ผู้หญิงอย่างฉันจะขอเอาคืนบ้าง” ขาดคำชลกรก็สาดกระสุนใส่พงษ์เลิศ ทีมทนายความตกใจรีบวิ่งหนีหายไปอย่างรวดเร็ว

ชลกรเดินถือปืนเข้าไปยืนคร่อมร่างของพงษ์เลิศไว้ แล้วยิงซ้ำจนหมดแม็ก ตำรวจ เนติมา และดลวิ่งเข้ามาดู ภาพที่เห็นคือพงษ์เลิศนอนขาดใจตายอยู่ใต้ขาชลกรที่ยืนคร่อมร่างไว้
ชลกรหัวเราะสะใจ พลางตะโกนลั่น “ฉันแก้แค้นมันได้แล้ว…ฉันแก้แค้นมันได้แล้ว…”

เนติมากับดลมองภาพเหตุการณ์ตรงหน้า พลางเอ่ยอย่างสังเวช “ในที่สุดก็จบเรื่องซักที…เขาถูกเวรกรรมตามมาลงโทษ ก่อนที่ศาลจะตัดสินเสียอีก”

ooooooo

คดีของพงษ์เลิศปิดฉากลง สองพี่น้องกลับคืนสู่บ้านอิสราวัชรที่เคยเป็นของตัวเองด้วยความคิดถึง ดลบอกกับพี่สาวว่า เขาจะได้กลับมาเป็น ยศวีร์  อิสรา-วัชร เสียที เนติมารู้ทันล้อว่า ที่ไม่อยากเป็นดล เพราะไม่อยากรับบทเป็นพี่ชายแท้ๆ ของใครบางคนรึเปล่า

“พี่เนติ์พูดอะไรน่ะ ผมกับอ้อ เรายังเด็กมาก ยังไม่คิดเรื่องอะไรแบบนั้นหรอก”

“ความรักไม่ใช่เรื่องผิด แต่ต้องอยู่ในช่วงเวลาที่เหมาะสม พี่ดีใจที่น้องชายของพี่รู้จักให้เกียรติคนที่รัก ไม่เร่งร้อน ความรักที่เริ่มด้วยความมั่นใจ จะเป็นความรัก ที่ยั่งยืนต่อไป”

“เรื่องของผมน่ะ พี่ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ยังอีกนาน แต่เรื่องของพี่นี่ซิ พี่จะปล่อยให้มันคาราคาซังแบบนี้อีกนานเท่าไหร่ ใจคอพี่จะไม่สงสารคุณศิวัช กับพี่ระบิลบ้างเหรอ ถ้าพี่ไม่สงสารสองคนนั่น ก็น่าจะสงสารตัวเองบ้าง ก่อนหน้านี้ที่พี่ยังไม่เคลียร์ ผมก็เข้าใจว่ามันยังมีเรื่องยุ่งๆ แต่ตอนนี้ทุกอย่างลงตัวแล้ว ถึงเวลาที่พี่จะจัดการปัญหาหัวใจของตัวเองได้แล้ว ผมก็อยากเห็นพี่สาวของผมมีความสุขเหมือนกัน” ดลพูดเสร็จก็มองหน้าเนติมายิ้มๆ แล้วเดินออกไป ทิ้งให้เนติมายืนคิดหนัก

เวลาเดียวกัน ศิวัชนั่งลังเลอยู่ในห้องรับแขก เพราะตัดสินใจไม่ถูกว่าควรจะโทร.หาเนติมาหรือไม่ ธำรงเดินถือแก้วไวน์เข้ามาคุยกับลูกชายเรื่องการตายของพงษ์เลิศ เพราะทำให้ประชาชนตาสว่าง  รู้ว่าควรเข้าข้างใคร และคะแนนนิยมของศิวัชก็มากขึ้นกว่าเดิม

“ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่พวกเราจะทำอะไรก็ได้ ทางสะดวก” ธำรงยิ้มอย่างมีแผน

“สิ่งที่เราต้องทำตอนนี้คือ ทำให้ความแตกแยกหมดไปครับ เกมการเมืองกับผลประโยชน์ของคนไม่กี่คน ทำให้บ้านเมืองของเราแตกแยก เสียหายมาเยอะแล้วครับ”

“ที่แกพูดน่ะหมายถึงใคร”

“ก็หมายถึงพวกเราทุกคนน่ะแหละครับ ผมว่าถึงเวลาที่เราต้องคิดถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลักแล้วครับ”

“นี่แกกำลังว่าฉันอยู่ใช่ไหม”

“ถ้าคุณพ่อคิดอย่างนั้น ผมก็ต้องขอโทษครับ” ศิวัชยกมือไหว้พ่อแล้วลุกขึ้นจะเดินเลี่ยงออก

ธำรงไม่พอใจตะโกนตามไล่หลัง “เดี๋ยวนี้แกเปลี่ยนไป ไม่เหมือนลูกชายคนเดิมของพ่อ”

“แต่เหมือนนายกฯ ที่ควรจะเป็นใช่ไหมครับ ผมขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ” ศิวัชคนใหม่หันมา

ธำรงทวงถามลูกชายเรื่องแต่งงานกับปฏิพร แต่ศิวัชยืนกรานหนักแน่นว่าคนที่เขารักและอยากแต่งงานด้วย คือ เนติมาคนเดียวเท่านั้น ธำรงอึ้งมองลูกชายด้วยความโมโหและเจ็บใจ

ศิวัชออกมานั่งทบทวนเรื่องราวระหว่างตัวเองกับเนติมา ก่อนตัดสินใจวัดดวง ไปหาเนติมาที่เฝ้าระบิลอยู่ที่โรงพยาบาล เขาเห็นเธอหยอกล้ออยู่กับบอดี้การ์ดอย่างมีความสุขก็ยิ่งเจ็บ แต่จำต้องเข้าไปขัดจังหวะด้วยการขอคุยด้วยเป็นการส่วนตัว

สาวแกร่งเดินนำศิวัชออกมาคุยข้างนอก ระบิลตามมาแอบมอง และรู้ตัวว่าไม่คู่ควรกับนายสาวเลยสักนิด จึงตัดสินใจจะเป็นฝ่ายไปเอง เป็นเวลาเดียวกับที่ศิวัชยื่นตั๋วเครื่องบินให้เนติมาพลางเอ่ยว่า พรุ่งนี้เขาจะไปประชุมที่ต่างประเทศหนึ่งอาทิตย์ และอยากจะให้เธอไปด้วย แต่เนติมายังอึกอัก ศิวัชรีบบอกต่อ

“พี่ยังไม่อยากได้คำตอบจากเนติ์ตอนนี้ พี่อยากให้เนติ์ตัดสินใจอย่างรอบคอบ สำหรับพี่ไม่ว่าเนติ์จะตัดสินใจยังไง พี่ก็ยังจะรักเนติ์เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง”

“พี่ศิวัช” เนติมามองหน้าชายหนุ่ม เห็นเขาส่งยิ้มเศร้าๆ ก่อนเดินจากไป

สาวแกร่งหน้าเครียดมองตั๋วเครื่องบินในมือพลางคิดหนัก ไม่ต่างไปจากระบิลที่แอบฟังอยู่

กลางดึกคืนนั้น ระบิลตัดสินใจออกไปจากชีวิตของเนติมาเพราะอยากให้เธอเลือกในสิ่งที่คู่ควร แต่เขาตัดสินใจผิด เพราะเมื่อถึงเช้าวันใหม่ เนติมาเลือกที่จะมาหาระบิลที่โรงพยาบาลแทนที่จะเดินทางไปต่างประเทศกับศิวัช แต่ต้องผิดหวังเพราะระบิลหายตัวไป

ขณะที่ศิวัชเองก็ตัดสินใจคุยกับธำรงให้เด็ดขาดเรื่องการบริหารประเทศและเรื่องปฏิพร ธำรงไม่พอใจลุกขึ้นชี้หน้าลูกชายที่กล้าขัดคำสั่ง

“ผมต้องขอโทษคุณพ่อด้วยครับ เพราะต่อไปผมอาจต้องขัดคำสั่งคุณพ่อในทุกๆเรื่อง ถ้าผมเห็นไม่สมควร ผมไม่สามารถมีชีวิตอยู่โดยให้ใครมาขีดเส้นให้ผมต่อไปได้อีกแล้วครับ ผมเป็นนายกฯในแบบที่คุณพ่อต้องการมานานแล้ว ผมอยากเป็นนายกฯในแบบที่ประชาชนต้องการบ้าง”

“นี่แกหาว่าฉันทำให้แกเป็นนายกฯที่ไม่ดีงั้นเหรอ”

“ผมไม่กล้าว่าคุณพ่อแบบนั้นหรอกครับ แต่ยุคของการเล่นการเมืองมันหมดไปแล้วครับ ถึงเวลาที่เราต้องพัฒนาประเทศอย่างเอาจริงเอาจัง ประเทศเราเสียเวลาไปมากแล้ว ผมอยากขอให้คุณพ่อยุติบทบาททางการเมืองเสียที”

“แก…แก…” ธำรงพูดไม่ออก

ศิวัชสูดลมหายใจเต็มปอด ก่อนจะเดินออกไปอย่างมุ่งมั่นตามทางที่ตัวเองเลือกแล้ว ธำรงได้แต่มองตามลูกชายทั้งโมโห ทั้งแค้นใจ และเจ็บปวดอย่างที่สุด แต่ทำอะไรไม่ได้

เวลาต่อมา ศิวัชเข้ามานั่งรอเนติมาในห้องวีไอพีของสนามบิน จนกระทั่งถึงนาทีสุดท้าย ก็ยังไม่มีแม้เงาของเนติมา เขาตัดใจลุกขึ้นมองตัวเองในกระจกในฐานะนายกรัฐมนตรี ชายหนุ่มเรียกกำลังใจกลับคืนมา และบอกกับตัวเอง…

“ในฐานะนายกรัฐมนตรีของประเทศนี้ ต่อไป…ตัวเราจะไม่ใช่ของเรา แต่จะเป็นเครื่องมือที่คอยแก้ปัญหาและความทุกข์ยากของประชาชน หัวใจก็ไม่ใช่ของเราแต่จะเป็นเครื่องหลอมรวมใจของคนทั้งชาติเอาไว้ด้วยกัน พละกำลังก็จะไม่ใช้หาผลประโยชน์เข้าตัว แต่จะใช้ผลักดันให้ประเทศชาติข้ามผ่านนาวาแห่งความทุกข์ยาก และด้วยเวลาที่เหลือ ในฐานะนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าจะกี่เดือนกี่วัน เราจะใช้เวลาทั้งหมดเพื่อประชาชน…”

ooooooo

เนติมามาตามหาระบิลที่บ้านสวน แต่เขาไม่อยู่ที่นั่น เธอน้ำตาคลอรำพึงว่า “วันนี้ฉันเลือกนายแล้ว แต่ทำไมนายถึงไม่รอฉัน…ระบิล”

สาวแกร่งหมดหนทางไม่รู้ว่าจะไปตามหาระบิลได้ที่ไหน เธอหอบความผิดหวังกลับไปที่บ้านอิสราวัชร ทุกคนรอบตัวเฝ้ามองอาการเศร้าซึมของเนติมาด้วยความเป็นห่วง

วันเวลาผ่านไป ศิวัชกลับจากประชุมอาเซียน ซัมมิท เขานำผลประโยชน์กลับมาให้ประเทศอย่างมากมาย กันต์กับเจือจันทร์พากันชื่นชมเพราะรู้มาว่า ธำรงยอมวางมือจากการเมืองแล้ว และศิวัชไม่ต้องเป็นนายกฯ หุ่นเชิดให้ใครอีก จึงสามารถคิดอ่านทำประโยชน์ให้ประเทศได้เต็มที่ ดลบ่นว่าเสียดายที่อดมีพี่เขยเป็นนายกฯ

“พี่ดล ทำไมพูดแบบนั้น ไม่สงสารพี่เนติ์รึไง” อ้อหันมาดุ

“ก็ช่วยไม่ได้ อยากทำนายกฯหนุ่มขวัญใจสาวๆอกหัก ตัวเองก็เลยต้องมาอกหักเอง”

“แหม ก็ใครจะไปอารมณ์ดี รักสดชื่นสมหวังอย่างเราล่ะ” ขวัญชนกมองอ้อและดลอย่างล้อๆ

ทั้งสองเขินรีบสวนกลับเรื่องขวัญชนกออกไปดูหนังกับวิเชษฐ์ เพราะความสัมพันธ์ของทั้งสองพัฒนาไปมาก ดลหันมาแซวกันต์กับเจือจันทร์ที่นั่งยิ้มฟังหนุ่มสาวคุยกันว่า ให้เตรียมตัวเพื่อผู้กำกับจะยกขันหมากมาสู้ขอขวัญชนกในเร็ววันนี้

ขาดคำวิเชษฐ์ก็เดินเข้ามาพอดี เขายกมือไหว้เจือจันทร์กับกันต์ แล้วชวนขวัญชนกไปช่วยปลูกต้นไม้ในสวนเพราะซื้อต้นพุดที่เจือจันทร์ชอบมา หนุ่มสาวเดินตามกันออกไป

เจือจันทร์มองตามอดบ่นหาระบิลไม่ได้ เพราะถ้าเขาอยู่คงครึกครื้นกว่าที่เป็น ดลพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนเปรยว่า ไม่รู้ตอนนี้ระบิลไปอยู่ที่ไหน

หลายเดือนผ่านไป เนติมาตัดสินใจลาออกจากงาน เพื่อหลบไปทำใจเรื่องระบิลที่ฝรั่งเศส เจือจันทร์กับกันต์เข้ามาอวยพรให้เธอกลับมาพร้อมกับความสุขที่แท้จริง และไม่ต้องห่วงเรื่องดลกับอ้อเพราะทั้งสองจะช่วยดูแลเป็นอย่างดี

“ค่ะ เนติ์จะกลับมาเป็นเนติมาที่เข้มแข็งเหมือนเดิม” เนติมาก้มลงกราบทั้งคู่ แล้วเดินออกมาลาขวัญ–ชนกกับวิเชษฐ์ที่หน้าบ้านพลางเร่งให้ผู้กำกับรีบขอเพื่อนเธอแต่งงานเพราะบ้านจะได้ไม่เหงา

“ไม่ต้องห่วงหรอกครับคุณเนติ์ ต่อไปผมจะชวนคุณขวัญแต่งงานทุกวัน ขอบ่อยๆผมมั่นใจว่าคุณขวัญต้องใจอ่อนแน่”

“นี่คุณจะบ้าเหรอ ขอแต่งงานเขาต้องขอครั้งเดียวแบบอลังการ ไม่ใช่ขอพร่ำเพรื่อ ขอทิ้งขอขว้างนะ”

วิเชษฐ์อมยิ้มมองหน้าเนติมาอย่างรู้กัน แล้วค่อยๆเดินไปที่รถ ก่อนจะเปิดกระโปรงหลัง พลันลูกโป่งมากมายลอยออกมา แต่ละใบเต็มไปด้วยดอกกุหลาบแดง พร้อมป้ายผ้าเขียนไว้ว่า “แต่งงานกับผมนะครับ” โดยมีตุ๊กตาหนุ่มรูปหล่อ ถือแหวนรอเตรียมพร้อม

ขวัญชนกเห็นถึงกับอึ้ง พูดไม่ออก หันมาถามเนติมาว่าเอาไงดี

“เธอก็ตอบรับไปซิ ฉันรู้ว่าเธอโอเค รีบๆแต่งจะได้ไปเยี่ยมฉันที่ฝรั่งเศส”

“ว่าไงครับคุณขวัญ” วิเชษฐ์ขอคำตอบ

“จัดเต็มมาซะขนาดนี้ ใครจะปฏิเสธได้ละคะ” ขวัญชนกยิ้มอายๆ

วิเชษฐ์ดีใจกระโดดกอดขวัญชนกอย่างมีความสุข เนติมามองภาพนั้นด้วยความซาบซึ้ง ก่อนจะค่อยๆ ถือกระเป๋าเดินออกมา หาดลกับอ้อที่ยืนรอจะไปส่งที่สนามบิน
เมื่อมาถึงสนามบิน เนติมาย้ำกับดลและอ้อเรื่องเรียนเพราะถ้าทั้งคู่สอบผ่านเธอจะทำเรื่องส่งไปเรียนต่อต่างประเทศทันทีและกำชับให้น้องทั้งสองช่วยดูแลกันและกัน

“ครับพี่เนติ์ ผมสัญญาว่าจะดูแลผู้หญิงคนนี้ ด้วยชีวิตของผม” ดลให้คำมั่น

เนติมายิ้ม ก่อนจะมองนาฬิกาเอ่ยว่า เธอต้องไปแล้ว สาวแกร่งโบกมือลาหิ้วกระเป๋าเดินเข้าไปด้านใน

อ้อหน้าเศร้าบ่นกับดลว่า สงสารพี่เนติ์

“พี่เนติ์ทำเพื่อคนอื่นมามากแล้ว พี่มั่นใจว่า ความสุขที่แท้จริงจะรอพี่เนติ์อยู่” ดลเอามือขึ้นโอบไหล่อ้อไว้ด้วยความรัก อ้อหันมองดลยิ้มๆ

เครื่องบินเหินฟ้าพาเนติมามาถึงประเทศฝรั่งเศส สาวแกร่งกลับมาด้วยความรู้สึกโหยหาความสุขเมื่อครั้งที่ได้รู้จักกับระบิล เธอเดินใจลอยมาจนถึงร้านขายของที่ระลึกที่เคยมากับบอดี้การ์ดรู้ใจ ภาพในวันนั้นผุดเข้าในหัว เธอตัดใจเลือกโปสต์การ์ดใบหนึ่งขึ้นมาเพื่อที่จะเขียนแบบที่ระบิลเคยเขียน แต่พลันชะงัก เพราะมีคนเขียนข้อความในโปสต์การ์ดแผ่นนั้นแล้ว

เนติมาอ่านข้อความนั้นด้วยความรู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก เพราะระบิลเขียนบอกความรู้สึกทุกอย่างที่มีต่อเธอ เมื่ออ่านข้อความจบ หล่อนก็รู้ทันทีว่าระบิลต้องมาที่นี่ แต่คิดไม่ออกว่าเขาอยู่ที่ไหน

ทันใดนั้น สายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นรูปหน้าโปสการ์ดเป็นรูป Etretat จึงรู้ได้ทันทีว่าระบิลอยู่ไหน

สาวแกร่งวิ่งมาที่ชายหาด Etretat เธอเรียกหาระบิลทั้งน้ำตา “ระบิลนายอยู่ที่ไหนนะ ไหนนายเคยบอกว่าอยากจะบอกรักกับคนที่นายรักที่นี่ไง ฉันมาแล้วไง ฉันอยู่ที่นี่แล้ว แล้วนายล่ะ หรือว่านายไม่ได้รักฉัน…คนบ้า คนใจร้าย”

เนติมาหันหลังกลับ ทันใดนั้นตัวเธอเกือบจะชนกับชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างหลัง หล่อนจะหันมาขอโทษ แต่ชายคนนั้นรีบพูดขึ้นมาก่อน

“ใครบอกว่าผมไม่รักคุณล่ะ…ขอบคุณนะที่มาตามหาผมถึงที่นี่”

“ฉันไม่ได้มาตามนายซะหน่อย…ฉัน…”

“ผมรักคุณนะ…เจ้านาย”

“ฉันก็รักนาย…ระบิล”

สองหนุ่มสาวโผเข้าสวมกอดกัน ด้วยดวงใจดื่มด่ำ วงแขนต่างโอบกระชับเรือนกาย เสมือนหนึ่งมิปรารถนาแยกจากกันตลอดกาล

ooooooo

 

–อวสาน–




ชอบเว็บนี้ กด Like เลย


ขอขอบคุณ Youtube Channel: TV3 Official, gmmchannel, GTHchannel, MCOT Official และ ช่อง one

ความคิดเห็น


เพื่อนๆที่ดูไม่ได้แนะนำให้ลองใช้โปรแกรม Chrome ในการดูนะครับ