ดูละคร หงส์สะบัดลาย (ตอนที่10) วันที่ 17 กันยายน 2555 ย้อนหลัง

หงส์สะบัดลาย — 18 กันยายน 2012

เมื่อทางเดินของหัวใจหนึ่งดวง มีหัวใจอีกสองดวงรออยู่ ดวงหนึ่ง…เพียบพร้อมทุกอย่างที่ผู้ชายในโลกน้อยคนพึงมี รักและผูกพันมาเนิ่นนาน ดวงหนึ่ง…ดีแสนดี มีรอยยิ้มและความอบอุ่นยามอยู่ใกล้ รักและพร้อมพลีชีวิตให้เธอได้ทุกวินาที เธอจะเลือกหัวใจดวงไหนให้เข้ามาสู่หัวใจของเธอ

ณัฐวุฒิ สกิดใจ รับบท ระบิล ใน ละคร หงส์สะบัดลาย
เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ์ รับบท เนติมา ใน ละคร หงส์สะบัดลาย
พศุตม์ บานแย้ม รับบท ศิวัช ใน ละคร หงส์สะบัดลาย
อเล็กซ์ เรนเดลล์ รับบท ยศวีร์ / ดล ใน ละคร หงส์สะบัดลาย
กฤติกา ซิงห์ รับบท อนงค์ ใน ละคร หงส์สะบัดลาย
มรกต หทัยวสีวงศ์ รับบท ขวัญชนก ใน ละคร หงส์สะบัดลาย
อภินันท์ ประเสริฐวัฒนกุล รับบท ผู้กำกับวิเชษฐ์ ใน ละคร หงส์สะบัดลาย
ภาณุเดช วัฒนสุชาติ รับบท ธำรง ใน ละคร หงส์สะบัดลาย
สันติสุข พรหมศิริ รับบท พงษ์เลิศ ใน ละคร หงส์สะบัดลาย
วริษฐ์ ทิพโกมุท รับบท อิทธิหาญ ใน ละคร หงส์สะบัดลาย
เบญจวรรณ อาร์ดเนอร์ รับบท ชลกร ใน ละคร หงส์สะบัดลาย
ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี รับบท กันต์ ใน ละคร หงส์สะบัดลาย
สรวงสุดา ลาวัณย์ประเสริฐ รับบท เจือจันทร์ ใน ละคร หงส์สะบัดลาย
ทนงศักดิ์ ศุภการ รับบท คำเที่ยง ใน ละคร หงส์สะบัดลาย
อนุสรณ์ เดชะปัญญา รับบท นายพลทวี ใน ละคร หงส์สะบัดลาย
กรกฏ ธนภัทร รับบท ปาน ใน ละคร หงส์สะบัดลาย
เพชรดา เทียมเพ็ชร รับบท เอมมิกา ใน ละคร หงส์สะบัดลาย
ภัทรินทร์ เจียรสุข รับบท ปฏิพร ใน ละคร หงส์สะบัดลาย

ดูละคร หงส์สะบัดลาย (ตอนที่10) วันที่ 17 กันยายน 2555 ย้อนหลัง ช่วงที่ 1

ดูละคร หงส์สะบัดลาย (ตอนที่10) วันที่ 17 กันยายน 2555 ย้อนหลัง ช่วงที่ 2

ดูละคร หงส์สะบัดลาย (ตอนที่10) วันที่ 17 กันยายน 2555 ย้อนหลัง ช่วงที่ 3

ดูละคร หงส์สะบัดลาย (ตอนที่10) วันที่ 17 กันยายน 2555 ย้อนหลัง ช่วงที่ 4

ดูละคร หงส์สะบัดลาย (ตอนที่10) วันที่ 17 กันยายน 2555 ย้อนหลัง ช่วงที่ 5

ดูละคร หงส์สะบัดลาย (ตอนที่10) วันที่ 17 กันยายน 2555 ย้อนหลัง ช่วงที่ 6

ดูละคร หงส์สะบัดลาย (ตอนที่10) วันที่ 17 กันยายน 2555 ย้อนหลัง ช่วงที่ 7

ดูละคร หงส์สะบัดลาย (ตอนที่10) วันที่ 17 กันยายน 2555 ย้อนหลัง ช่วงที่ 8

ดูละคร หงส์สะบัดลาย (ตอนที่10) วันที่ 17 กันยายน 2555 ย้อนหลัง ช่วงที่ 9



ละครหงส์สะบัดลาย ละครช่อง3 ออกอากาศทุกวันจันทร์ – อังคาร เวลา 20.25 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3

เรื่องย่อประจำตอน ละครหงส์สะบัดลาย

ตอนที่ 10

หลังเสร็จภารกิจในตอนเย็น ศิวัชรีบมาที่ลานจอดรถ หวังไปรับเนติมาตามสัญญา เขาถามหากุญแจรถกับบอดี้การ์ด พลางกำชับให้ขับรถตามไปห่างๆ เพราะต้องการความเป็นส่วนตัว บอดี้การ์ดรับคำพลางยื่นกุญแจรถให้ศิวัชรับไปไข แล้วต้องชะงักเมื่อพบปฏิพรนั่งส่งยิ้มรอยู่บนเบาะหลัง แถมตัดพ้อว่ามารอตั้งนาน นายกฯหนุ่มแปลกใจถามว่ามาได้อย่างไร ก่อนหันขวับไปมองทีม การ์ด ทุกคนรีบหลบตาด้วยความกลัว ชายหนุ่มจะเข้าไปต่อว่า แต่ปฏิพรรั้งแขนไว้ รีบอ้างว่าธำรงเป็นคนอนุญาตเอง

อ่านต่อ

“คือ คุณอาเห็นพี่ศิวัชเหนื่อย เลยให้ตี้ชวนพี่ศิวัชไปดินเนอร์ ทีนี้ตี้อยากเซอร์ไพรส์ให้พี่ศิวัช ตี้เลย…เอ้อ พี่ศิวัชโกรธตี้เหรอคะ” จอมมารยาแกล้งตีหน้าเศร้าอย่างรู้สึกผิด

ศิวัชถอนใจด้วยความอึดอัด พยายามอธิบายว่ามีนัดกับเนติมา แต่เธอชิงตัดบท “ดินเนอร์กับตี้แป๊บเดียวเอง ตี้จองเรือเพื่อนตี้ไว้แล้วด้วยนะคะ นะค้าคุณอาธำรงอนุญาตแล้วด้วย”

ศิวั ชได้ยินชื่อพ่อก็พูดอะไรไม่ออก จำใจต้องไปดินเนอร์กับปฏิพร แต่ก็แอบโทร.ไปสอบถามธำรงว่าทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย ทั้งๆ ที่รู้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดเนติมา

“ทำไมพ่อจะจำไม่ได้ เนติ์ก็เหมือนลูกพ่อเหมือนกันนะ แล้วพ่อก็รู้ด้วยว่าเนติ์ต้องเข้าใจ” ธำรงตอบกลับ

“เนติ์ เขาต้องทำใจ เข้าใจเรื่องนี้มานานแล้วนะครับคุณพ่อ แล้วที่สำคัญน้องตี้พาผมมาในที่ๆ ผมจัดเตรียมไว้สำหรับดินเนอร์กับเนติ์” ศิวัชมองไปรอบๆ บริเวณอย่างไม่สบายใจนัก เขาถามย้ำ “ทำไมน้องตี้รู้เรื่องนี้ แล้วทำไม…”

“เรื่องนั้นไม่ใช่ประเด็น แต่ทั้งแก ทั้งหนูเนติ์ยังทำเป้าหมายของตัวเองไม่สำเร็จ เรายังต้องการแรงสนับสนุนจากท่านทวีอยู่นะ แกก็รู้ว่าภาพลักษณ์ที่ดีของท่านช่วยงานเราได้มาก”

“เมื่อไหร่เกมจะจบครับคุณพ่อ บอกตรงๆว่าผมอยากแต่งงานกับเนติ์เต็มทีแล้วนะครับ เอาเนติ์มาแขวนไว้อย่างนี้ผมสงสารเขา”

“แล้วคิดเหรอว่าแต่งตอนนี้ทุกอย่างจะจบ ตั้งสติหน่อย อย่าให้ความรู้สึกชั่ววูบทำลายทุกสิ่งที่สร้างมาทั้งชีวิต”

“แต่ความรู้สึกผม ไม่ใช่ความรู้สึกชั่ววูบนะครับ”

“ไม่มี นักรบคนไหนฉลองชัยชนะทั้งๆที่สงครามยังไม่จบหรอกนะศิวัช เล่นตามบทบาทที่แกสวมหัวโขนให้ดี ถ้าไม่อยากให้ทุกอย่างพัง อย่าเล่นนอกบทเด็ดขาด” ธำรงพูดตัดบทด้วยน้ำเสียงหนักแน่นแล้วกดวางสาย จังหวะเดียวกันนายพลทวีขยับเข้ามาพูดกับธำรงด้วยความเป็นห่วง

“กระตุกบังเหียนแรงขนาดนี้ ม้าไม่พยศเอาเหรอคุณธำรง”

“ถึง ม้าตัวนี้จะฉลาด เก่ง แต่สิ่งหนึ่งที่ม้าตัวนี้จะไม่กล้าทำ คือวิ่งออกนอกเส้นทางที่จ็อกกี้อย่างผมสั่งเด็ดขาด” ธำรงตอบอย่างใจเย็นพลางส่งยิ้มมั่นใจ

ด้านศิวัช เขาค่อยๆลดโทรศัพท์ในมือลงด้วยความเศร้าสร้อย ครุ่นคิดถึงชีวิตรักของตนกับเนติมาที่ถูกตีกรอบไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ปฏิพรหันมาเห็น เธอเข้ามาอ้อนชวนชายหนุ่มไปนั่งโต๊ะ เขาฝืนใจส่งยิ้มให้ก่อนเดินตามไปอย่างรักษามารยาท

ooooooo

ค่ำแล้ว เนติมาเดินวนไปมารอศิวัชอยู่ในสวนหย่อมหน้าบ้าน เธอหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาจะกดโทร.ออก แต่ต้องชะงักเพราะเสียงระบิลห้าม

“คุณพยายามเป็นสิบๆรอบแล้วนะครับ”

เนติมาลดโทรศัพท์ลงพลางหันมาบอกระบิลที่เดินเข้ามา “ฉันผิดเอง ฉันควรทำใจไว้ตั้งแต่แรกแล้ว”

“คุณศิวัชอาจทำภารกิจยังไม่เสร็จ คุณบอกเองไม่ใช่เหรอครับ ว่าวันนี้มีภารกิจที่คุณศิวัชต้องทำตั้งเยอะแยะ”

“ฉัน โทร.ถามที่พรรคแล้ว พี่ศิวัชเสร็จงานทุกอย่างตั้งแต่เย็นแล้ว” สาวเจ้าเสียงสั่นน้ำตาคลอ ก่อนจะตัดใจ ขยับเดินกลับเข้าในบ้าน แต่ระบิลเอื้อมมือไปจับแขนไว้บอกให้เข้มแข็ง เจ้าหล่อนหันมาสวนว่าที่ผ่านมายังไม่เข้มแข็งพออีกหรือ

“พอครับ แล้วก็เก่งมากๆ ด้วย ไม่เอาน่าใจเย็นๆ” บอดี้การ์ดเอื้อมมือไปจับไหล่นายสาว ค่อยประคองให้นั่งลงบนเก้าอี้ก่อนจะเอ่ยยิ้มๆอย่างใจเย็น “ผมว่ารอฟังเหตุผลของคุณศิวัชก่อนดีกว่านะครับ คุณศิวัชไม่ใช่คนเหลวไหล ที่สำคัญเขารักคุณนะครับ”

เนติมายอมรับฟังและอยู่รอศิวัชต่อไป ระบิลเบาใจเดินกลับเข้ามาในบ้าน วิเชษฐ์และขวัญชนกรออยู่ทั้งสองเข้ามาถามถึงเนติมาด้วยความเป็นห่วง บอดี้การ์ดว่าเธออยากอยู่คนเดียวสักพัก

“รู้งี้สั่งเค้กเตรียมไว้ให้ก็ดี จะได้ซื้อเวลาไว้ก่อน คุณเนติ์จะได้ไม่คิดมาก” วิเชษฐ์นึกโกรธตัวเอง

“เราไม่รู้นี่ครับว่าจะเป็นอย่างนี้ อีกอย่างผมว่า ตอนนี้เอาเค้กก้อนเท่าภูเขามาวางตรงหน้า คุณเนติ์ก็ไม่สนใจหรอกครับ”

ผู้กำกับหนุ่มคิดตาม ก่อนพยักหน้าอย่างเห็นด้วย ขณะที่ขวัญชนกชะเง้อมองเพื่อนรักก่อนหันมาถาม “แล้วถ้าวันนี้คุณศิวัชไม่มารับเนติ์ล่ะคะ”

ระบิลไม่รู้จะตอบอย่างไร มีเพียงสายตาที่บ่งบอกว่าเป็นห่วงเจ้านายเกินร้อย

เวลาเดียวกัน ศิวัชไม่อาจฝืนตัวเองต่อไปได้ เขาถามปฏิพรตรงๆ ว่า เธอรู้ใช่ไหมว่าวันนี้เป็นวันเกิดของเนติมา แม่จอมแอ๊บชะงักอึ้งไปนิดหนึ่ง ก่อนกลบเกลื่อนว่าเธอไม่รู้เรื่องเลย

“แล้วที่นี่ พี่เตรียมสถานที่ไว้สำหรับดินเนอร์กับเนติ์”

ปฏิพรทำตกใจทั้งๆที่รู้หมดทุกอย่าง เธอตีหน้าเหมือน สำนึกผิด “ตายจริงตี้ขอโทษนะคะตี้ไม่รู้จริงๆ ที่ตรงนี้ตี้ให้ลูกน้องคุณลุงจัดให้ สงสัยเขาต้องเข้าใจผิดอะไรแน่ๆ งั้นพี่ศิวัชรีบไปรับคุณเนติ์มาที่นี่เถอะนะคะ เดี๋ยวตี้อธิบายกับคุณอาธำรงเอง พี่ศิวัชรีบไปหาคุณเนติ์เถอะนะคะ”

ศิวัชยิ้มออกมาด้วยความดีใจ ไม่คิดว่าทุกอย่างจะง่ายดายอย่างนี้ เขารีบโทร.หาเนติมายืนยันว่าจะไปรับเธอออกมาดินเนอร์แน่นอน

เนติมาตอบรับเสียงใสก่อนหันมาบอกระบิล วิเชษฐ์และขวัญชนกที่ออกมายืนลุ้น ทุกคนยิ้มได้ พลอยดีใจไปกับเธอด้วย

เวลาเดียวกัน ศิวัชเดินนำปฏิพรมาที่รถเพื่อจะส่งเธอกลับบ้าน เจ้าหล่อนสวมบทรุกเอ่ยลอยๆ ว่า ที่ยอมทำแบบนี้ก็เพราะรักศิวัช เล่นเอาชายหนุ่มชะงักหันมามองอย่างไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน

“แหม…ก็รักแบบน้องสาวรักพี่ชายไงคะ” ปฏิพรส่งยิ้มอายๆ

“งั้น รีบไปกันเถอะครับ พี่ส่งตี้เสร็จแล้วจะได้รีบไปหาเนติ์” ศิวัชถอนใจโล่งอก ก่อนจะเดินนำออกไป แต่จังหวะเดียวกันปฏิพรแกล้งสะดุดล้มลงกับพื้น ทำที่เป็นว่าเจ็บข้อเท้ามากเหลือเกิน จนศิวัชต้องพาส่งโรงพยาบาล

ooooooo

เนติมายังคงรอศิวัชอยู่ในสวน เธอพยายามโทร.หาคนรัก แต่ติดต่อไม่ได้ สาวเจ้าถอนใจเซ็งหันมาบ่นกับระบิลและวิเชษฐ์ที่ออกมานั่งเป็นเพื่อน สองหนุ่มให้กำลังใจ ขวัญชนกเดินออกมาบอกว่า คุณพ่อคุณแม่ให้เข้าไปนั่งรอในบ้านเพราะดึกมากแล้ว

“ขอฉันอยู่คนเดียวสักพักนะขวัญ” เนติมาตอบเศร้าๆ ขวัญชนกขยับจะพูดต่อ แต่ระบิลยกมือห้ามพร้อมส่งสายตาบอกขวัญชนกเป็นเชิงขอร้อง

วิเชษฐ์รู้โดยนัย เขาชวนขวัญชนกเข้าไปนั่งในบ้านด้วยกันก่อน หนุ่มสาวเดินตามกันออกไป ระบิลมองนายสาวด้วยความเป็นห่วง แต่เนติมาพูดออกมาทั้งๆที่ไม่มองเขาด้วยน้ำเสียงเศร้า

“ไม่เข้าใจที่ฉันพูดเหรอ”

“ผมจะดูแลคุณ”

“นายดูแลความปลอดภัยร่างกายฉันได้ แต่นายดูแลหัวใจฉันไม่ได้หรอก”

“ที่ผ่านมาก็ดูแลมาหลายรอบแล้วนะ หรือคุณจะเถียง”

“ฉันไม่มีอารมณ์มาเถียงกับนายนะ” เนติมาน้ำตาคลอเบ้า

ระบิลขยับเข้าไปนั่งใกล้ๆ ก่อนเอ่ย “ถ้าคุณไม่หนักแน่น ก็ไม่ต่างอะไรกับคุณเอาความรักเป็นอาวุธมาทิ่มใจคุณเองเลยนะครับ”

“แล้วนายจะให้ฉันทำยังไง หัวเราะกับเรื่องที่เกิดขึ้นเหรอไม่มีใครทำให้เราเจ็บปวดได้เท่ากับคนที่เรารักหรอกนะ” เนติมาปล่อยโฮ

ระบิลสงสารนายสาวจับใจ เขาเอื้อมมือไปกุมมือเธออย่างให้กำลังใจ “ให้ผมอยู่ตรงนี้นะครับ ถึงจะช่วยอะไรคุณไม่ได้มาก แต่อย่างน้อย…” ระบิลพูดไม่ทันจบ เนติมาก็โผเข้ามากอดพลางร้องไห้ออกมาอย่างหนัก ชายหนุ่มกระชับกอดตอบเธอด้วยความรักและเข้าใจความรู้สึกเป็นอย่างมาก

วิเชษฐ์กับขวัญชนกยืนมองระบิลกอดปลอบเนติมาอยู่ในสวนหย่อมด้วยความรู้สึกสงสารเนติมา ก่อนขวัญชนก จะหันมาถามผู้กำกับหนุ่มว่า เรื่องนี้จะจบตรงไหน

“ถ้าเรื่องเอาคนชั่วมารับโทษที่มันก่อ ผมว่าอีกไม่นาน แต่ถ้าเรื่องคุณเนติ์ผมไม่รู้จริงๆครับ แต่ยังโชคดีอยู่บ้าง ที่คุณเนติ์ยังมีระบิลคอยดูแล ไม่อย่างนั้นสภาพจิตใจคุณเนติ์คงแย่กว่านี้นะครับ”

ขวัญชนกพยักหน้ารับคิดตามที่วิเชษฐ์พูด เธออดใจเสียไม่ได้ เพราะดูออกว่าทั้งคู่คิดอย่างไรต่อกัน

เวลาเดียวกัน ปฏิพรขอร้องแกมบังคับเพื่อนรักที่เป็นหมออยู่ในโรงพยาบาลให้ช่วยโกหกศิวัช

“น่า…ไหนๆ ก็ช่วยพันข้อเท้าให้ฉันแล้ว ช่วยยืนยันอาการให้น่าสงสารหน่อย แกเป็นหมอพูดมีน้ำหนักกว่าฉันเยอะ นะๆๆ”

“แต่มันผิดจรรยาบรรณ แถมคนที่แกโกหกน่ะ นายกฯนะ”

“นายกฯของแก แต่คนกันเองของฉัน”

“คนกันเองของแก มาโน่นแล้ว” แพทย์สาวสะกิดปฏิพรให้มองไปที่กระจกบานใหญ่ของโรงพยาบาล เห็นศิวัชกำลังเดินเข้ามาหาด้วยความเร่งรีบ

“พี่ศิวัช ทำไงดีล่ะแก” แม่จอมวางแผนรีบหาทางออก โดยเพื่อนสาวได้แต่ยืนมองอย่างทำอะไรไม่ถูก ปฏิพรหันไปเห็นรถเข็นคนไข้จอดอยู่ เธอปรี่เข้าไปคว้ามานั่งอย่างรวดเร็ว พอดีศิวัชเดินเลี้ยวเข้ามา

“น้องตี้เป็นอะไรมากรึเปล่าครับ”

“โอย…เจ็บจังเลยค่ะพี่ศิวัช” ปฏิพรแกล้งทำเป็นเจ็บขาทันที พลางมองไปที่เพื่อนรักเหมือนกับจะโยนลูกให้ แพทย์สาวตกใจ หันไปยิ้มให้ศิวัชด้วยสีหน้าเจื่อนๆ

ooooooo

“ป่านนี้พี่ศิวัชคงไม่มาแล้วล่ะ” เนติมาพูดพลางเช็ดน้ำตาไปพลาง ก่อนตัดใจจะเดินเข้าบ้าน

“ใจเย็นน่าคุณ พระเอกเขามาตอนจบทั้งนั้นแหละ” ระบิลหามุกมาเรียกรอยยิ้ม

“วันนี้ไม่มีพระเอกหรอก มีแต่คนเสียใจช่างมันเถอะ ก็แค่วันเกิดวันหนึ่งเท่านั้น”

“คนที่อยู่กับความเจ็บปวดได้ด้วยรอยยิ้มเนี่ยเก่งที่สุดเลยรู้ไหมครับ” บอดี้การ์ดให้กำลัง ก่อนจะนึกขึ้นได้ เขาบอกให้เนติมารอสักครู่แล้ววิ่งเข้าในบ้าน ทิ้งให้นายสาว มองตามด้วยความสงสัย

ระบิลเดินตรงไปที่ห้องครัวพบวิเชษฐ์เดินสวนมาพอดี เขาถามหาเนติมา ระบิลว่าเธอสงบลงแล้ว วิเชษฐ์ถอนใจบ่นว่าศิวัชจะมาหรือเปล่าก็ไม่รู้

ระบิลพยักหน้าด้วยความรู้สึกกังวลไม่แพ้กัน แต่พยายามมองโลกในแง่ดี “คงไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้แล้วล่ะครับ คนรักกันเดี๋ยวเขาก็เคลียร์กันได้ แล้วคุณขวัญล่ะครับ”

“เห็นบอกว่าไม่ค่อยสบายเลยขึ้นไปนอนแล้วล่ะ อ้อ…เดี๋ยวฉันไปก่อนนะ มีงานด่วนต้องทำ”

“ไม่เป็นไรครับพี่ เอางานไว้ก่อน ทางนี้ผมจัดการได้สบายมาก” ระบิลกับรุ่นพี่ยิ้มให้กันก่อนแยกย้ายไปทำหน้าที่

ระหว่างนั่งรอระบิล เนติมาพยายามชั่งใจว่าควรโทร.ตามศิวัชหรือไม่ แต่สุดท้ายเธอตัดสินใจปิดเครื่องนั่งร้องไห้

“ร้องไห้อีกแล้ว” ระบิลทัก

แสงจากเปลวเทียนเรืองมากระทบใบหน้า เนติมาค่อยๆหันไปมองแล้วต้องตะลึง เมื่อเห็นระบิลยิ้มอารมณ์ดีพร้อมถือเค้กก้อนหนึ่งที่ตกแต่งอย่างเรียบง่ายเดินเข้ามา

“สุขสันต์วันเกิดครับเจ้านาย”

“นี่นาย ไปซื้อมาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย”

“ซื้อที่ไหน ขี้มือผมล้วนๆเลยนะคุณ”

เนติมาก้มมองหน้าเค้กเนยสดที่แต่งอย่างง่ายๆ มีข้อความเขียนว่า “สุขสันต์วันเกิดครับเจ้านาย” แล้วอดยิ้มไม่ได้ ระบิลรีบดักคอ

“เอ้า เป่าสิคุณ ไม่ใช่เทียนพรรษานะจะได้อยู่เป็นเดือนๆ ที่สำคัญผมเมื่อยมือแล้ว”

“ไม่ร้องเพลงอวยพรวันเกิดให้หน่อยเหรอ”

“ได้คืบจะเอาศอกนะเนี่ย เป่า”

เนติมามองค้อนระบิลนิดหนึ่ง ก่อนเป่าเทียนบนเค้กจนดับหมด

“นับจากวินาทีนี้ ขอให้คุณมีแต่ความสุขนะครับ”

“ขอบคุณนายมากนะ” เนติมายิ้มมองระบิลด้วยความซึ้งใจ

ทั้งสองคนสบตากันนิ่งด้วยความรักที่มีอยู่ในใจ ก่อนระบิลจะพยายามรวบรวมสติพูดตัดบทออกมา “ชิมเค้กขี้มือผมกันไหมคุณ”

เนติมายิ้มรับเดินนำระบิลไปนั่งที่ม้าหินพลางตักขนมเค้กใส่ปากอย่างเอร็ดอร่อย

“อืม…อร่อยจัง ไม่นึกว่านอกจากอาหารแล้ว นายจะทำขนมเค้กเป็นด้วย”

“ก็ได้แต่ง่ายๆน่ะคุณ อย่างที่ทำวันนี้ก็หยิบของเหลือๆในครัวมาทำทั้งนั้น”

“ถึงจะเป็นของเหลือ แต่นายใช้ใจทำ ก็เลยอร่อยอย่างนี้ไง”

“แหม นานๆชมกันทีอย่างนี้ ค่อยชื่นใจหน่อย” ระบิลยิ้มอารมณ์ดีพลางมองขึ้นไปบนฟ้าที่มีดาวประปราย ขณะที่เนติมามองระบิลด้วยรอยยิ้มก่อนเปรยขึ้น

“นายอยู่กับฉันทุกครั้ง ที่ฉันมีอันตราย”

“มันเป็นหน้าที่ผมนี่ครับ”

“แล้วนายก็อยู่กับฉันทุกครั้งที่ฉันเศร้า”

“นั่นไม่ใช่หน้าที่ แต่ผมเต็มใจทำครับ” ระบิลพูดจากใจจริง

“ถ้าฉันจะขอบคุณนายอีกครั้ง นายจะแซวฉันไหม” เนติมาหันมามองบอดี้การ์ดเห็นเขาอมยิ้ม เธอเอ่ยต่ออย่างอายๆ” ก็ฉันไม่รู้จะตอบแทนนายยังไงได้ดีเท่าคำขอบคุณแล้วนี่”

“แค่คุณมีรอยยิ้ม เหมือนที่คุณยิ้มอยู่ตอนนี้ ก็แทนคำขอบคุณทั้งหมดแล้วล่ะครับ” ระบิลมองเนติมาอย่างอบอุ่น ขณะที่เนติมารู้สึกถึงความอบอุ่นเอาใจใส่ของระบิล เธอมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก

บอดี้การ์ดหนุ่มเอื้อมมือไปจับมือนายสาวมากระชับแน่น ขณะที่นายสาวเองก็กระชับมือเขาตอบเช่นกัน ทั้งคู่สบตากันนิ่งค้างด้วยความรักที่ซ่อนอยู่ข้างใน

ขวัญชนกมองผ่านหน้าต่างห้อง เห็นระบิลกับเนติมากุมมือสบตากันอยู่ในสวนหย่อม ก็ยิ่งมั่นใจในความรู้สึกของทั้งสองคนเป็นอย่างมาก เธอตัดใจเดินเลี่ยงออกไป

ooooooo

ขณะที่ระบิลกับเนติมายังคงกุมมือและสบตากันนิ่งค้างด้วยความรักอยู่ในสวนหย่อม ศิวัชถือดอกไม้ช่อโตเดินเข้ามาถึงพอดี เขาตะลึงกับภาพตรงหน้า ก่อนรวบรวมสติตัดสินใจเรียกเนติมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“เนติ์”

ระบิลกับเนติมาสะดุ้งด้วยความตกใจรีบขยับออกจากกัน เมื่อหันไปเห็นศิวัช ชายหนุ่มส่งยิ้มกลบเกลื่อนความรู้สึก ก่อนถือช่อดอกไม้เดินเข้ามาให้เนติมาพลางพูดอย่างเอาใจ

“สุขสันต์วันเกิดจ้ะเนติ์ พี่ขอโทษนะจ๊ะเนติ์ พี่ติดภารกิจด่วนจริงๆ”

“ภารกิจด่วนขนาดคนเป็นทั้งเลขา เป็นทั้งคนรักอย่างเนติ์ยังไม่ทราบแล้วก็ไม่สามารถติดต่อได้เลยงั้นเหรอคะ” เนติมาตัดพ้อ

ศิวัชอึกอักหันมาทางระบิล เป็นเชิงว่าขอเวลาส่วนตัว บอดี้การ์ดรู้ความหมายรีบเดินเลี่ยงออกไป ศิวัชมองตาม ก่อนหันมาสบตากับเนติมา แต่เธอเมินหน้าหนีเพราะยังเคืองไม่หาย ชายหนุ่มเข้างอนง้อ แต่เนติมายังหน้าง้ำ

ระบิลลอบมองนายสาวด้วยความเป็นห่วงอยู่ริม ระเบียง เพราะรู้ตัวว่าตกหลุมรักเธอเข้าแล้วอย่างเต็มหัวใจ เขาเมินหันหลังกลับมาพยายามต่อสู้กับความรู้สึกของตัวเองอย่างที่สุด แต่เมื่อหันกลับไปอีกครั้งเห็นศิวัชเอาผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาให้เนติมา ก่อนเธอจะยิ้มและยอมรับช่อดอกไม้

ศิวัชดึงเนติมาเข้ามากอดด้วยความรัก ขณะที่ระบิลรู้สึกหดหู่อย่างบอกไม่ถูก

บอดี้การ์ดตัดใจกลับเข้าไปนั่งคิดหนักอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ในห้อง เห็นหน้าจอมีรูปของเนติมาซึ่งเขาเป็นคนถ่ายให้ในท่าทางต่างๆ ระบิลนึกขึ้นได้กดไปดูภาพเนติมาบนหอไอเฟลที่ทำโฟโต้ช็อปเอารูปของตัวเองเข้าไปยืนข้างๆ เนติมาแทนที่เว้นไว้ให้ศิวัชอย่างแนบเนียน

ระบิลอมยิ้มเมื่อได้เห็นภาพนั้น แต่พลันสะดุ้งเพราะเนติมาเข้ามาทัก

“นายทำอะไรน่ะ”

บอดี้การ์ดรีบปิดรูปในคอมพิวเตอร์พร้อมหันไปยิ้มแก้เก้อให้นายสาวที่เดินถือช่อดอกไม้ยิ้มเข้ามา

“ทำไมต้องตกใจอย่างนั้นด้วย นายมีความลับอะไรกับฉันบอกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ”

“ผมจะมีอะไรปิดบังเจ้านายล่ะครับ จู่ๆโผล่มาอย่างนี้เป็นใครก็ตกใจครับ นึกว่าผี แล้วคุณศิวัชกลับไปแล้วเหรอครับ”

เนติมาไม่ตอบอะไรได้แต่ยิ้มอย่างมีความสุข ระบิล เอ่ยต่ออย่างเข้าใจ “เห็นไหมผมบอกแล้ว ว่าคุณศิวัชไม่ใช่คนเหลวไหล”

“ดินเนอร์คงต้องเลื่อนไปวันอื่น ป่านนี้ร้านคงปิดหมดแล้ว”

“คืนนี้ดินเนอร์มีสาระไม่เท่าคุณศิวัชพยายามที่จะมาตามสัญญาหรอกนะ หิวมั้ยล่ะครับ เดี๋ยวผมทำอะไรให้ทาน”

“ฉันอยากพักผ่อนมากกว่า” เนติมาพูดยิ้มมองระบิลอย่างขอบคุณ ทั้งสองสบตากันอีกครั้ง ก่อนจะตั้งสติได้ เนติมาขอตัวกลับห้อง ระบิลเดินออกมาส่ง หนุ่มสาวลอบถอนใจเพราะเหมือนมีกำแพงบางอย่างมากั้นความรู้สึกที่ไม่สามารถพูดออกไปได้

หลังส่งเนติมาขึ้นห้องเรียบร้อยแล้ว ระบิลเดินกลับมานั่งถอนใจต่อ เพราะความรู้สึกที่มีต่อนายสาวชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ จังหวะเดียวกันศิวัชโทร.เข้ามานัดให้เขาไปพบที่ที่ทำการพรรคในวันรุ่งขึ้นเพราะมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย ระบิลตอบรับ ใจนึกหวั่นว่า ศิวัชจะคุยเรื่องอะไรกันแน่

ooooooo

บ่ายวันต่อมา ระบิลขึ้นไปคุยกับศิวัชบนดาดฟ้าที่ทำการพรรคสยามพัฒนา นายกฯหนุ่มยืนอึดอัดอยู่พักใหญ่ก่อนเปรยขึ้น “ขอบคุณนะครับคุณระบิล ที่อุตส่าห์ มาพบผม”

“คุณศิวัชมีอะไรรึเปล่าครับ ทำไมถึงต้องนัดผมขึ้นมาบนนี้”

ศิวัชหันมามอง อดนึกถึงภาพของระบิลกับเนติมาเมื่อคืนไม่ได้ เขาเรียกสติกลับมาแล้วปรารภว่า “ผมกับเนติ์รักกันมานาน แล้วก็รักกันมากด้วย”

“ครับ ข้อมูลนี้ผมทราบดีครับ”

“เนติ์คือชีวิตของผม ผมถึงย้ำฝากคุณให้ดูแลเนติ์ด้วย”

“ครับ ผมทำตามที่รับปากทุกอย่างงานผมมีอะไรบกพร่องรึเปล่าครับ คุณศิวัช”

“งานคุณไม่มีอะไรบกพร่อง แต่…อาจมีอะไรเกินเลย”

“คุณศิวัช…”

“ผมรู้ว่าคุณเป็นคนดี คุณเองก็เคยมีคนรัก ผมมีคนรัก ก็ไม่อยากให้ใครมาขโมยหัวใจคนที่ผมรักไปเหมือนกัน”

“คุณศิวัชครับ คุณกำลังเข้าใจผิดนะครับ” ระบิลพยายามอธิบาย ทั้งๆที่ก็รู้ใจตัวเองดี ว่ารักนายสาวอย่างไม่รู้ตัว

“ดวงตาคุณกับเนติ์ซ่อนความรู้สึกไม่ได้หรอกครับ”

“คุณศิวัช!”

“คุณกำลังบอกว่า ผมคิดมากไปเองใช่ไหม ผมคิดมากไปใช่ไหมคุณระบิล” ศิวัชเสียงดังขึ้นอย่างคาดคั้น ระบิลตะลึงพูดอะไรไม่ออก รู้สึกผิดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

สักพักใหญ่ สองหนุ่มลงลิฟต์กลับมาที่ห้องทำงาน เนติมากำลังเดินตามหาศิวัช เธอเห็นเขาออกมาจากลิฟต์พร้อมระบิลก็แปลกใจ ซักว่าไปไหนกันมา ศิวัชรีบออกตัวว่าบังเอิญเจอกันในลิฟต์ เนติมาไม่ติดใจเธอเร่งให้ศิวัชรีบไปที่ทำเนียบเพราะมีนัดท่านทูตบ่ายนี้

“พี่ไม่ลืมจ้ะ แล้วคืนนี้เราไปดินเนอร์ชดเชยวันเกิดเนติ์กันนะ” ศิวัชพูดยิ้มๆพลางเอื้อมมือไปโอบเนติมาเป็นเชิงแสดงความเป็นเจ้าของให้ระบิลรู้ แล้วหันมาสั่ง “คืนนี้คุณระบิลไม่ต้องตามไปนะครับ ผมใช้การ์ดชุดของผมได้”

“อ้าว ทำไมล่ะคะ ทุกทีคุณระบิลก็ตามไป”

“ให้คุณระบิลเขาพักบ้างสิจ๊ะเนติ์ จะใช้งานเขาตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงเลยเหรอไง ตามนี้นะครับ”

“ครับผม…” ระบิลยิ้มรับคำเจื่อนๆ รู้ความหมายที่ซ่อนอยู่ของศิวัชทุกอย่าง

“ไปจ้ะเนติ์ เดี๋ยวไม่ทันนัด” ศิวัชโอบคนรักออกไป

เนติมาชักสีหน้างงๆกับท่าทีของศิวัช จนอดหันมามองระบิลด้วยความสงสัยไม่ได้ แต่ระบิลกลับหลบตาก้มหน้าเดินตามไปส่งทั้งคู่ที่รถด้วยความรู้สึกเศร้าและอึดอัดใจ

ooooooo

ในตอนเย็น ระบิลเดินใจลอยเหมือนร่างไร้วิญญาณกลับเข้ามาในบ้านกันต์ เพราะคำพูดของศิวัชเมื่อตอนบ่ายยังก้องอยู่ในหู ขวัญชนกเดินสวนออกมาพอดี เธอชะงักไปนิด เพราะยังจำภาพระบิลกับเนติมาในคืนก่อนได้ หญิงสาวตัดใจเอ่ยทักชายหนุ่มพร้อมรอยยิ้ม

ระบิลฝืนยิ้มตอบแล้วจะเดินเลี่ยงเข้าห้อง แต่วิเชษฐ์เข้ามาดึงไว้ชวนไปทานข้าวด้วยกันก่อนเพราะซื้อกับข้าวจากร้านอร่อยมาฝากทุกคน

“เออ…” ระบิลอึกอักพูดอะไรไม่ออก แต่วิเชษฐ์พูดขัดขึ้นพลางเดินเข้ามาโอบไหล่อย่างกันเอง

“เอออะไรล่ะ เร็วไปช่วยชิมหน่อยว่าของที่ฉันซื้อมาอร่อยรึเปล่า เออ…แล้วคุณเนติ์ล่ะ” ผู้กำกับหนุ่มมองหา ขณะที่ขวัญชนกก็หันมามองระบิลด้วยความสงสัย

ระบิลไม่ตอบอะไร เขาจำใจตามขวัญชนกกับวิเชษฐ์เข้ามาทานข้าว พบกันต์กับเจือจันทร์นั่งรออยู่และทั้งสองก็ถามหาเนติมาเช่นกัน ระบิลว่า นายสาวออกไปดินเนอร์กับศิวัช

กันต์ชอบใจชมว่าศิวัชน่ารักมากขนาดมีงานการเมือง รัดตัวแทบแย่ ยังอุตส่าห์เจียดเวลาให้คนรักได้ เจือจันทร์รีบเสริมว่าคงถึงเวลาที่เนติมาจะพบช่วงเวลาที่ดีเสียที

“ครอบครัวของเราก็กำลังจะพบเวลานั้นเหมือนกันนะคุณ” กันต์พูดกับเจือจันทร์และขวัญชนกด้วยรอยยิ้มที่มีกำลังใจเต็มเปี่ยม

“ตอนนี้คุณศิวัชบีบนายพงษ์เลิศกับพวกจนหลังติดฝาแล้ว ส่วนเรื่องชั่วๆที่พวกนั้นทำไว้ รอหลักฐานครบก็เช็กบิลกินรวบเข้าตะรางได้เลย” วิเชษฐ์บอกข่าวดี

“คุณพ่อหายเร็วๆ นะคะ เราจะได้ไปเที่ยวกันอีก”

“ความสุขที่หลุดลอยไป กลับมาใกล้แค่เอื้อมแล้วนะ อีกนิดเดียว นิดเดียวเท่านั้น” กันต์ให้กำลังใจตัวเองและลูกเมีย

วิเชษฐ์มองครอบครัวของกันต์อย่างอดที่จะรู้สึกดีใจไปด้วยไม่ได้ แต่พลันสะดุด เมื่อเห็นระบิลนั่งเงียบเหมือนครุ่นคิดอะไรอยู่ เขาเอ่ยถามรุ่นน้อง

“ระบิล…เป็นอะไรไปไม่พูดไม่จา เป็นห่วงคุณเนติ์เหรอ”

ระบิลสะดุ้ง เรียกสติกลับคืนมา เห็นทุกคนมองมาด้วยความสงสัย จึงได้แต่ส่งยิ้มเจื่อนๆ พูดอะไรไม่ออก

หลังทานอาหารเย็นเรียบร้อย ระบิลขอตัวเข้าห้อง เขาเฝ้ามองภาพจากกล้องตัวที่อยู่หน้าประตูบ้านอย่างกังวล พลางถอนหายใจ ขวัญชนกตามมาสังเกตอาการพลางเอ่ยทัก

“คุณระบิลรอเนติ์อยู่เหรอคะ”

ระบิลอึกอักออกตัวว่า “ก็…เป็นห่วงน่ะครับ การห่วงคุณเนติ์ดูเหมือนเป็นมากกว่าหน้าที่ผมไปซะแล้ว ทั้งๆที่รู้ว่ามีการ์ดของคุณศิวัชตามไปอีกตั้งหลายคน”

“หมายถึง ถ้าคุณระบิลไม่มีหน้าที่เป็นบอดี้การ์ดให้กับเนติ์แล้ว คุณระบิลก็ยังเป็นห่วงเนติ์อยู่ใช่ไหมคะ” ระบิลชะงักรู้สึกแปลกๆกับคำพูดของขวัญชนกก่อนตอบกลับ “ก็…ไม่รู้เหมือนกันนะครับ คงต้องรอให้ถึงวันนั้นแต่ถ้าวันนั้นมาถึง คุณขวัญก็ต้องดูแลตัวเองดีๆนะครับ”

“คุณระบิลหมายถึงอะไรคะ” ขวัญชนกรู้สึกใจหาย

“ไม่มีใครรู้ ว่าวันพรุ่งนี้จะเป็นยังไงหรอกครับ คุณขวัญก็เหมือนน้องสาวผม…ผมเป็นห่วง”

“น้องสาว…” ขวัญชนกทวนคำ

ระบิลพยักหน้ายิ้มออกมาด้วยความอบอุ่น “แต่ถ้าคุณขวัญมีเรื่องเดือดร้อนอะไร ปรึกษาพี่เชษฐ์ได้นะครับ ผมรับรองว่าพี่เชษฐ์สามารถดูแลครอบครัวคุณขวัญได้ดีไม่แพ้ผม เผลอๆอาจดีกว่าผมก็ได้นะครับ”

ขวัญชนกได้แต่ยิ้มเจื่อนๆพูดไม่ออก เธอขอตัวกลับห้อง แล้วนั่งครุ่นคิดถึงคำพูดของระบิลด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ก่อนจะคิดได้บอกให้ตัวเองตัดใจ
จังหวะเดียวกัน แสงไฟจากหน้ารถก็สาดเข้ามา เจ้าหล่อนมองออกไปที่นอกหน้าต่าง เห็นรถของศิวัชพร้อมรถของบอดี้การ์ดที่ประกบหน้าหลัง วิ่งเข้ามาจอดหน้าบ้าน

ศิวัชลงมาส่งเนติมาหน้าประตูรั้ว ทั้งสองคนยิ้มให้กันอย่างอารมณ์ดี ขวัญชนกมองภาพตรงหน้าแล้วอดนึกถึงระบิลไม่ได้ เธอรำพึงออกมา “ถ้าขวัญอ่านใจคุณระบิลไม่ผิด คุณกำลังถลำเข้าไปหาความเสียใจนะคะ”

ด้านระบิล เขานั่งมองศิวัชกับเนติมาอยู่หน้าจอมอนิเตอร์ด้วยความไม่สบายใจ รู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกิน

สักพักศิวัชกับเหล่าบอดี้การ์ดขึ้นรถขับออกไป เนติมาไขกุญแจเปิดประตูเข้ามาในบ้าน ในมือถือถุงของกินหลายอย่างติดมือมาด้วย ระบิลรู้ว่าเธอต้องแวะมาหาแน่จึงกดล็อกห้องทำทีเป็นหลับแล้ว

เนติมาเคาะประตูเรียกระบิลบอกว่าซื้อของมาฝาก แต่ไม่มีเสียงตอบรับ เธอแปลกใจบ่นพึมพำว่าทำไมวันนี้ระบิลนอนเร็ว ก่อนจะเดินกลับไปอย่างไม่คิดอะไรมาก ผิดกับระบิลที่ยืนพิงบานประตูด้วยสีหน้าลำบากใจ

ooooooo

เช้าวันใหม่ เนติมาแต่งตัวเตรียมจะออกไปทำงานอยู่ในห้อง ขวัญชนกมาเคาะประตูเรียกสีหน้าไม่ดีนัก เธอบอกกับเพื่อนรักว่า ระบิลหายตัวไป

เนติมาแปลกใจรีบเข้าไปดูในห้องพักบอดี้การ์ด พบกันต์กับเจือจันทร์รออยู่ ทั้งสองว่า ระบิลหายตัวไปตั้งแต่เช้าแล้ว กันต์ลองโทร.เข้ามือถือก็ติดต่อไม่ได้เพราะปิดเครื่อง หญิงสาวถอนใจ หันไปสำรวจรอบๆห้องเห็นแผ่นกระดาษสอดอยู่ในหนังสืออาหารไทยของตัวเองก็ชะงัก เดินไปเปิดอ่าน

ขณะที่กันต์นึกได้ บอกให้ขวัญชนกไปเช็กภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อดูว่าระบิลออกไปตอนไหน

“ไม่ต้องหรอกค่ะอากันต์” เนติมาเสียงเข้ม ทุกคนหันมามองด้วยความสงสัย สาวเจ้าอ่านข้อความในกระดาษอีกครั้งก่อนบอกทุกคนว่า ระบิลลาออกแล้ว

“อะไรนะ ทำไมจู่ๆลาออก มีเรื่องอะไรกันรึเปล่า” ขวัญชนกกับเจือจันทร์แย่งกันถาม

เนติมาพยายามคิดด้วยความสับสน เพราะนึกไม่ออกจริงๆ ว่าทำไมระบิลถึงทำแบบนี้

ในตอนสาย เนติมานำจดหมายของระบิลไปให้ศิวัชดู เพราะอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ศิวัชกลับเอ่ยว่าจะจัดการการ์ดชุดหนึ่งไปดูแลเนติมาแทนระบิล แล้วแอบโล่งใจที่ระบิลอยู่ห่างจากคนรัก

“หมายความว่าพี่ศิวัชจะให้คุณระบิลเขาออกไปง่ายๆเหรอคะ” เนติมาพูดด้วยความร้อนใจ

“เนติ์…คุณระบิลเขาอาจมีเหตุผลส่วนตัวอะไรบางอย่างที่ทำให้เขาตัดสินใจลาออกก็ได้นะ”

“โดยไม่ร่ำลากันเลยเนี่ยนะคะ”

“ไม่มีใครรู้เหตุผลดีเท่าตัวคุณระบิลเองหรอกนะจ๊ะ”

“นั่นแหละค่ะ เนติ์ถึงอยากเจอเขามาก อยากถามจริงๆว่านึกบ้าอะไรขึ้นมา ตอบไม่เข้าหู จะเล่นงานให้หนักเลย”เนติมาบ่นอย่างหงุดหงิด และใจหายเมื่อนึกถึงระบิล ขณะที่ศิวัชลอบมองคนรักอย่างสังเกต เขารู้สึกหวั่นใจอย่างบอกไม่ถูก

เมื่อศิวัชไม่มีคำอธิบายเรื่องระบิลให้ เนติมาจึงขอตัว เธอว่าจะไปหาดลที่คอนโดฯ ศิวัชส่งการ์ดตามไปดูแล

ครู่ต่อมา เนติมาเข้าไปคุยกับ ดล อ้อและคำเที่ยงในห้อง เธอปรับทุกข์กับทั้งสามเรื่องระบิลลาออกโดยไม่มีเหตุผล พลางชี้ชวนให้ดูการ์ดชุดใหม่ของศิวัชที่ยืนเฝ้าอยู่ที่ลานจอดหน้าคอนโดฯพร้อมร่ายยาว

“ไม่อยากไปไหนมาไหนกับสองคนนี่เลย พี่พูดไปสิบคำตอบมาคำ เฮ้อ…ไม่รู้จะเข้มไปไหน”

“ก็เขาเป็นบอดี้การ์ดนี่ครับพี่เนติ์”

“คุณระบิลไม่เห็นต้องเข้มอย่างนี้เลย เฮ้อ…พูดแล้วก็หงุดหงิด ป่านนี้ยังไม่เปิดเครื่องอีก คอยดู…จะไล่ออกให้เข็ด” เนติมาพูดอย่างลืมตัว

ดลกับอ้อหันหน้ามามองกันนิดหนึ่งอย่างสังเกตอาการร้อนรนของเนติมา แล้วอดยิ้มออกมาไม่ได้ อ้อล้อว่า เนติมาคงไล่ระบิลออกไปไม่ได้เพราะเขาลาออกไปแล้ว

“เออ…จริงสิ พี่ลืมไป” เนติมายิ้มเจื่อนอย่างนึกขึ้นมาได้ ก่อนจะแอบถอนใจอย่างเศร้าๆ

“ถ้าเบื่อ วันนี้ก็นอนค้างที่นี่สักคืนไหมล่ะหนูเนติ์ จะได้มีเพื่อนคุย” คำเที่ยงชวน

“ขอบคุณค่ะคุณลุง แต่หนูอยากกลับไปนอนบ้านขวัญน่ะค่ะ ถึงผู้กำกับวิเชษฐ์จะส่งลูกน้องมาดูแลความปลอดภัยให้ แต่หนูก็ยังไม่ค่อยไว้ใจ”

คำเที่ยงพยักหน้าอย่างเข้าใจ ส่วนเนติมาหน้าสลดลง เมื่อเห็นบอดี้การ์ดของศิวัช เพราะคิดถึงระบิล

ooooooo

ด้านระบิล เขาหลบมาอยู่กับวิเชษฐ์ที่บ้านพักนายตำรวจ รุ่นพี่พอจะเดาใจรุ่นน้องได้ว่ากำลังหนีปัญหาหัวใจจึงแกล้งเปรยว่า แน่ใจแล้วหรือที่จะทำแบบนี้ แต่ไม่มีเสียงตอบรับ เพราะระบิลเอาแต่นอนก่ายหน้าผาก

“ทำแล้วไม่สบายใจแล้วทำทำไมวะ ตกลงนายรู้สึกยังไงกับคุณเนติ์กันแน่วะ”

“โธ่…ถามอะไรอย่างนั้นล่ะครับพี่เชษฐ์” ระบิลกลบเกลื่อนพิรุธ

ผู้กำกับหันมาจ้องอย่างจับผิด “แกลืมแล้วเหรอ ว่าฉันเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นพี่นายนะ”

ระบิลเหล่มองวิเชษฐ์อย่างอึกอัก ก่อนนึกขึ้นได้รีบเปลี่ยนประเด็นซักกลับเรื่องขวัญชนก

“ดูแลเทคแคร์ครอบครัวคุณขวัญเช้าถึงเย็นถึงขนาดนั้น มันเกินหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ไปหน่อยรึเปล่าครับ ผมว่าพี่เชษฐ์เติมเต็มสิ่งที่คุณขวัญขาดอยู่ได้นะครับ”

“เออ…นี่ฉันสอบสวนนายหรือนายสอบสวนฉันกันแน่วะ” ผู้กำกับหนุ่มเป็นฝ่ายอึกอักเสียเอง

“ผมแอบสังเกตพี่เชษฐ์มานานแล้วนะครับ แล้วผมก็คิดว่าผมมองไม่พลาดด้วย”

“โอเค ถ้าฉันเป็นอย่างที่นายคิด อย่างน้อยคุณขวัญก็ยังไม่มีใคร แต่คุณเนติ์…” ผู้กำกับพูดทิ้งไว้แค่นั้น พลางมองระบิลอย่างต้องการคำตอบ

ระบิลอึ้งไปนิดหนึ่ง เขาถอนใจออกมาด้วยความไม่สบายใจ ก่อนพูดเสียงอ่อย “เพราะอย่างนั้นแหละครับ ผมถึงต้องถอยออกมา ก่อนจะถลำใจมากไปกว่านี้”

“ไม่น่าเชื่อว่าคุณเนติ์จะทำให้นายลืมเอมได้”

“ผมไม่มีทางลบเอมไปจากใจผมได้หรอกครับพี่เชษฐ์ แต่เอมคงไม่มีความสุขแน่ ถ้าผมยังขังเอมไว้ในความทุกข์ของผม แต่ช่างมันเถอะครับพี่เชษฐ์ ยังไงมันก็เป็นไปไม่ได้”

“ไม่น่าเชื่อว่าบอดี้การ์ดมือดีอย่างนาย จะแพ้กฎเหล็กของหน้าที่นี้”

“กฎที่ห้ามมีความรักกับเจ้านายตัวเอง กฎเหล็กที่โดนหัวใจงัดกระเจิง” ระบิลแค่นหัวเราะ

ผู้กำกับหนุ่มพยักหน้าช้าๆ ก่อนตัดสินใจถาม “แล้ว…คุณเนติ์เขารู้ตัวไหม”

“ผม…ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ รู้แต่ว่าผมต้องรีบออกมาจากที่นั่น ไม่เป็นผลดีแน่ ถ้าผมจะรั้นอยู่ที่นั่นต่อไป”

“ไม่เป็นผลดี แม้แต่ความปลอดภัยของคุณเนติ์ งั้นเหรอ” วิเชษฐ์ติง

ระบิลชะงัก คิดหนักเพราะอดเป็นห่วงเนติมาไม่ได้

ooooooo

วันรุ่งขึ้น เนติมาพาดล อ้อและคำเที่ยงมาไหว้พ่อกับแม่ที่วัด เธอสั่งให้บอดี้การ์ดรอที่รถเพราะอยากอยู่กับคนในครอบครัว

“ถ้าเรื่องทุกอย่างเรียบร้อย พี่จะเอาอัฐิคุณพ่อกับคุณแม่กลับไปที่บ้าน” เนติมาหันมาคุยกับน้องชาย

“พี่เนติ์จะกลับเข้าไปอยู่บ้านหลังนั้นอีกเหรอครับ” ดลถามด้วยความไม่แน่ใจ

เนติมาเอื้อมมือไปโอบไหล่น้องพลางเอ่ยด้วยความมั่นใจ “ถึงบ้านนั้นจะมีภาพความทรงจำร้ายๆของเราสองคนฝังอยู่ แต่ก็เป็นที่ๆครอบครัวของเรามีความทรงจำที่ดีอยู่มากกว่านะ”

“ผมจำได้ครับ คุณพ่อคุณแม่เคยบอกว่ารักบ้านหลังนั้นมาก” ดลยิ้มออกมา เมื่อนึกถึงความสุขในอดีต

“ปรับปรุง ทำบุญบ้านซะหน่อย แค่นี้ความสุขก็กลับคืนมาแล้วล่ะ”

ดลนิ่งคิดก่อนยิ้มรับอย่างเห็นด้วยกับเนติมา ทั้งสี่เดินมาถึงที่เก็บอัฐิวิเชียรกับพรรณศรี แล้วพลันชะงัก เมื่อเห็นข้างๆป้ายและรูปของวิเชียรกับพรรณศรี มีป้ายหินอ่อนเพิ่มเข้ามา ป้ายหนึ่งระบุ “เนติมา อิสราวัชร” ส่วนอีกป้ายหนึ่งระบุ “ยศวีร์ อิสราวัชร” โดยรูปของทั้งสองคนที่ติดหน้าป้ายเป็นรูปลักษณะของการแอบถ่าย

“ยศวีร์ ! พวกมันรู้ความจริงแล้ว” คำเที่ยงร้อง

เนติมามองไปรอบๆอย่างไม่ไว้วางใจ เธอพาทุกคนกลับมาที่รถ พบบอดี้การ์ดกลายเป็นศพไปเสียแล้ว ส่วนรถก็โดนเจาะยางทั้งสี่ล้อ

“โธ่เอ๊ย…แถวนี้ไม่มีคนซะด้วย” เนติมาหาทางออก

“อ้อว่าเรารีบออกไปจากที่นี่กันเถอะจ้ะ”

เนติมา ดล อ้อและคำเที่ยงวิ่งออกมาจากในวัด เธอพยายามมองหารถที่จะโดยสารไปต่อ จังหวะเดียวกับรถแท็กซี่คันหนึ่งวิ่งผ่านมา

“แท็กซี่มาพอดีเลยครับพี่เนติ์” ดลรีบโบกเรียก

รถแท็กซี่วิ่งเข้ามาจอดรับ เนติมาบอกจุดหมายไปที่พรรคสยามพัฒนา ครั้นรถเคลื่อนตัวออกมาพ้นเขตวัด เนติมารีบโทร.หาศิวัช เธอเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟังและบอกกับเขาว่ากำลังจะไปหาที่ที่ทำการพรรคฯ แต่ศิวัชว่าให้เปลี่ยนเส้นทางมาที่ทำเนียบแทน เพราะเขาทำงานอยู่ทำเนียบ

“ก็ได้ค่ะพี่ศิวัช งั้นแค่นี้ก่อนนะคะ” เนติมากดวางสายก่อนหันไปสั่งคนขับรถแท็กซี่

“เปลี่ยนไปทำเนียบรัฐบาลนะคะ”

“ครับ” คนขับรถแท็กซี่ตอบรับพลางส่งยิ้มร้ายเพราะมันคือลูกน้องที่อิทธิหาญส่งมา

คำเที่ยงมองไปรอบๆ ด้วยความระแวง ก่อนถอนใจออกมาด้วยความโล่งอก เพระไม่เห็นมีใครตามมา เนติมานึกอะไรขึ้นได้ รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดหาวิเชษฐ์ เพราะเป็นห่วงครอบครัวกันต์

วิเชษฐ์พร้อมลูกน้องสองคนรีบมาบ้านกันต์ แล้วผู้กำกับหนุ่มไปบอกเนติมาว่า ทุกอย่างเรียบร้อยดีไม่ต้องเป็นห่วง

“คุณเนติ์พาทุกคนไปอยู่ที่ทำเนียบก่อนดีแล้วล่ะครับ มันเป็นเรื่องปกติของคนพาลที่ใกล้จนมุมน่ะครับ เขาต้องทำทุกทางที่จะระเบิดทางตันเพื่อหาทางไปให้ได้ คุณเนติ์ไม่ต้องห่วงทางนี้นะครับ สวัสดีครับ” วิเชษฐ์วางสาย ขยับจะเดินต่อ แต่ต้องชะงักเมื่อเห็นขวัญชนกกำลังรดน้ำต้นไม้อยู่ในแปลงดอกไม้ที่ระบิลปลูกไว้

ผู้กำกับหนุ่มอมยิ้มเดินเข้าไปช่วย ขวัญชนกรดน้ำต้นไม้ หวังจะให้ดอกไม้ที่เห็นตรงหน้ากลายเป็นดอกรักในหัวใจเธอ

ด้านเนติมา เธอตัดสินใจโทร.หาระบิลเพราะอยากให้เขามาอยู่ด้วย แต่ระบิลกลับปิดเครื่องหนี หญิงสาวถอนใจ บ่นเบาๆกับตัวเอง “นายรู้ไหมว่าตอนนี้ฉันต้องการนายแค่ไหน”

“พี่เนติ์ว่าอะไรนะครับ” ดลหันมาถามเพราะได้ยินพี่สาวพึมพำ

“เออ…ไม่มีอะไรจ้ะ ไม่มีคนตามมาใช่ไหม” เนติมากลบเกลื่อน

ดลมองไปด้านหลังอีกครั้งก่อนตอบว่าไม่มีครับ เนติมาพยักหน้ารับพลางก้มมองโทรศัพท์มือถือ เธอเลื่อนดูในอัลบั้มรูป เห็นรูปของระบิลในสถานการณ์ต่างๆที่เขาทำทะเล้นใส่และเธอก็ถ่ายไว้ หญิงสาวอมยิ้มนึกถึงภาพในอดีต เมื่อตอนเขากระดกนิ้วก้อยเวลาเลือกซื้อของจึงล้อว่าเป็นเกย์

ระบิลทำงอนบ่นว่าเป็นทฤษฎีเพ้อเจ้อ แล้วเรียกให้เธอมาชิมแกงบวนฝีมือเขาแถมยังช่วยเป่าให้

“คิดถึงคุณระบิลเหรอครับพี่เนติ์” ดลถามอย่างเข้าใจ ความรู้สึก เมื่อเห็นพี่สาวเหม่อมองรูประบิลในโทรศัพท์

เนติมาสะดุ้งนิดหนึ่ง เธอรีบกดปิดรูป ก่อนทำเสียงเข้มกลบเกลื่อนความรู้สึก “คิดถึงทำไม เขาไม่อยากอยู่กับเราซะหน่อย ไม่งั้นจะลาออกทำไม”

“แต่ถ้าตอนนี้คุณระบิลอยู่ คงช่วยเราได้เยอะเลยนะครับ” ดลพูดตรงๆ เนติมาพูดอะไรไม่ออกได้แต่ถอนใจอย่างยอมรับความจริง

ขณะที่คำเที่ยงมองไปบนถนนที่รถวิ่งผ่านอย่างไม่คุ้นตานัก เขาสังหรณ์ใจร้องถามแท็กซี่ว่ามาผิดทางหรือเปล่า คนขับว่า พามาทางลัด

เนติมาเอะใจหันไปมองป้ายข้างทาง เห็นว่าคนขับ กำลังพาพวกเธอออกนอกเมืองจึงโวยลั่น แต่คนขับไม่สนเลี้ยวรถเข้าไปในถนนลาดยางเล็กๆที่เต็มไปด้วยความเปลี่ยวทันที

ooooooo

ศิวัชยืนกระวนกระวายรอเนติมาอยู่ในห้อง เพราะเธอควรจะมาถึงได้แล้ว เสียงเคาะประตูดังขึ้น ธำรงเดินเข้ามา พร้อมตั้งคำถาม

“ไม่ต้องถามว่าพวกไหนก่อเรื่อง แต่พ่ออยากรู้ ว่าจู่ๆทำไมคุณระบิลถึงลาออก”

“เออ…ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ” ศิวัชตอบอย่างอึกอัก

ธำรงมองลูกชายอย่างสังเกต ก่อนพูดด้วยความไม่สบายใจ “รู้ไหมว่าคุณระบิลมีฝีมือมากกว่าการ์ดสองคนที่แกส่งไปตายไม่รู้กี่เท่า”

ศิวัชครุ่นคิดตามที่ธำรงพูด ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจเพราะเป็นห่วงเนติมา เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้ง สองพ่อลูกหันไปมองเข้าใจว่าเป็นเนติมา แต่เจ้าหน้าที่หญิงเปิดประตูเข้ามารายงานว่า ชลกรกับพงษ์เลิศมาขอพบ

ศิวัชกับธำรงมองหน้ากันเมื่อเห็นพงษ์เลิศกับชลกรเดินเข้ามา เพราะเดาไม่ถูกว่าทั้งสองจะมาไม้ไหน

เวลาเดียวกัน แท็กซี่พาพวกเนติมาเข้ามาในหมู่บ้านร้างแห่งหนึ่ง แต่คนขับยังคงเร่งความเร็วอย่างต่อเนื่อง คำเที่ยงกับดลตะคอกให้จอดรถ ขณะที่อ้อน้ำตาคลอด้วยความกลัว เนติมานึกขึ้นได้ หยิบปืนพกในกระเป๋าขึ้นมา เล็งไปที่คนขับรถแท็กซี่ สั่งให้จอดรถพร้อมกระชากลูกเลื่อนอย่างเอาจริง

คนขับรถแท็กซี่ชะงักหน้าเจื่อน รีบจอดรถแล้ววิ่งหายไป เนติมากับดลลงจากรถ ดลจะตาม แต่เนติมาห้ามไว้ อ้อสนับสนุน

“แต่เราคงออกไปด้วยรถคันนี้ไม่ได้แล้วล่ะ เพราะมันดับเครื่องแล้วเอากุญแจไปด้วย” คำเที่ยงลงมาสมทบ หลังเข้าไปสำรวจที่นั่งคนขับมาแล้ว

เนติมากระชับปืนแน่นพร้อมใช้ พลางมองไปรอบๆ อย่างระวังตัว ส่วนดลหันไปหยิบไม้ขนาดเหมาะมือมาเป็นอาวุธคู่กาย

ด้านศิวัช เขาก็กำลังเล่นงานพงษ์เลิศกับชลกร “ถ้าเนติ์เป็นอะไรไป ผมไม่ไว้พวกคุณแน่”

“ทุกวันนี้ก็ไม่ไว้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ” พงษ์เลิศพูดด้วยความขัดใจ

“ทุกอย่างว่ากันตามเนื้อผ้าอยู่แล้วคุณพงษ์เลิศ หลักฐานครบทุกอย่างเมื่อไหร่ กลไกของกรรมจะถูกขับเคลื่อน ด้วยกฎหมายทันที”ธำรงตอบกลับด้วยน้ำเสียงเอาจริง

“แต่เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ พวกเราไม่รู้เรื่องนะคะ”

“รึอาจเป็นความรู้ใหม่ในเกมการเมือง ที่คุณงัดขึ้นมา เล่นงานฝั่งตรงข้ามก็ได้” พงษ์เลิศพูดอย่างยิ้มเยาะ พลาง ชายตามองศิวัชกับธำรงอย่างรู้ทัน ทั้งๆ ที่สงสัยอยู่เหมือนกันว่าเป็นการกระทำของอิทธิหาญลูกชายตัวเอง

“อย่าคิดว่าคนอื่น จะทำอะไรได้ชั่วเหมือนตัวเองนะครับ”

“มึง !” พงษ์เลิศฉุนขาด ปรี่จะเข้าหาศิวัชแต่ชลกรรีบรั้งไว้

เสียงโทรศัพท์มือถือของศิวัชดังขึ้น เขารีบกดรับเพราะเห็นชื่อเนติมาขึ้นหน้าจอ

“เนติ์ ตอนนี้เนติ์อยู่ที่ไหนแล้วจ๊ะ”

ธำรง พงษ์เลิศ และชลกรชะงัก มองศิวัชที่รับสายเนติมาด้วยความสนใจขึ้นมาทันที

“ตอนนี้พวกเนติ์กำลังเดินออกจากหมู่บ้านร้างแถวชานเมืองค่ะ” เนติมาส่งเสียงมาพลางเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง

“แล้วหมู่บ้านที่เนติ์ว่าเนี่ย หมู่บ้านอะไร”

เนติมาหันไปมองไปรอบๆ บริเวณที่มีสภาพรกร้าง เห็นป้ายชื่อโครงการติดอยู่ แต่สภาพของป้ายผุพังจนแทบไม่เห็นอะไรที่ระบุชื่อได้เลย “ไม่รู้เลยค่ะพี่ศิวัช แต่เป็นโครงการที่ยังสร้างไม่เสร็จ ยังไงออกไปหน้าหมู่บ้านคงเจอคนที่พอถามได้ แล้วเนติ์จะติดต่อไปอีกครั้งนะคะ” ทันทีที่เนติมาพูดจบ ก็ได้ยินเสียงโครมครามดังออกมาจากมุมหนึ่ง เนติมา ดล อ้อ คำเที่ยงหันขวับไปมองด้วยความตกใจ

ศิวัชเห็นเนติมาเงียบไปก็ยิ่งกังวล เขาถามย้ำกับเธอว่าเกิดอะไรขึ้น

“เหมือนอะไรหล่นสักอย่างค่ะพี่ศิวัช อาจไม่มีอะไรก็ได้ค่ะ” เนติมาพูดให้ศิวัชสบายใจ แต่จังหวะเดียวกันก็มีเสียงโครมครามดังขึ้นมาจากอีกด้านหนึ่ง เนติมาวาดปืนเล็งไปยังต้นเสียงทันที ขณะที่ดลดึงอ้อกับคำเที่ยงเข้าไปอยู่ใกล้ๆด้วยความเป็นห่วง

“เนติ์ ! เกิดอะไรขึ้นกันแน่ เนติ์…เนติ์” ศิวัชพยายามเรียก แต่ไม่มีเสียงเนติมาตอบ ขณะที่ธำรง พงษ์เลิศ ชลกร มองศิวัชด้วยความสงสัย

ด้านเนติมาเธอกวาดสายตาพร้อมเล็งปืนไปรอบๆอย่างระวัง เห็นเงาของคนวิ่งวูบไปมาในบ้านร้างรอบตัวสองสามครั้ง จึงรีบตอบกลับศิวัช

“เดี๋ยวเนติ์โทร.กลับไปนะคะพี่ศิวัช” ขาดคำเสียงปืนดังขึ้น กระสุนปืนเฉี่ยวพวกเนติมาไปอย่างเฉียดฉิว

“ทุกคนหลบไปทางนั้นก่อนเร็ว” คำเที่ยงพาทุกคนวิ่งหลบไปหลังกองวัสดุก่อสร้างอย่างรวดเร็ว

ส่วนศิวัช เขาพยายามเรียกเนติมาผ่านโทรศัพท์แต่ไร้ผล ธำรงเข้ามาถามลูกชายว่าเกิดอะไรขึ้น ศิวัชหันขวับมองไปที่พงษ์เลิศกับชลกรด้วยความเดือดดาล

“เสียงปืนครับคุณพ่อ ออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้” แต่พงษ์เลิศกับชลกรยังจ้องหน้าศิวัชนิ่ง

“ไม่ออกใช่ไหม” ศิวัชปรี่เข้าไปจะชกพงษ์เลิศ แต่ธำรงรั้งไว้

“คุณพ่อไม่เห็นเหรอครับว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่มีใครทำเรื่องชั่วๆแบบนี้ได้เท่าพวกมันหรอกครับ”

“แต่ถ้าแกใจร้อน แกจะตกเป็นเหยื่อ อย่าลืมหัวโขนที่แกสวมอยู่สิ ใจเย็นๆ” ธำรงเตือนสติ

ศิวัชหายใจลึกพยายามสงบจิตใจ ก่อนชี้หน้าพงษ์เลิศด้วยความโมโห “ถ้าเนติ์เป็นอะไรไป พวกแกจะเป็นยิ่งกว่า ออกไป”

“วันนี้แกไล่ฉัน แต่วันหน้าพวกฉันจะกลับมานั่งที่ห้องนี้เหมือนที่เคยเป็น ส่วนพวกแก คิดดูก่อนนะ ว่าฉันจะมีที่ให้พวกแกอยู่บนแผ่นดินนี้รึเปล่า”

“และสิ่งที่คุณระเบิดอารมณ์ออกมาเมื่อกี้ มันแสดงให้เห็นว่าคุณไก่อ่อนสิ้นดี สู้พ่อคุณยังไม่ได้เลย” ชลกรยิ้มเยาะศิวัช พลางปรายตามองธำรงอย่างยั่วยวน แต่ธำรงกลับเบือนหน้าหนีอย่างไม่ใส่ใจ

สองมารร้ายชวนกันกลับออกไป พร้อมกับความสะใจ ศิวัชมองตามอย่างหงุดหงิดที่ช่วยอะไรคนรักไม่ได้

ธำรงลอบมองลูกชายที่ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่พลางถอนใจออกมา เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทร.สั่งวิเชษฐ์ให้ตามไปช่วยพวกเนติมา

ooooooo




ชอบเว็บนี้ กด Like เลย

Tags:
ขอขอบคุณ Youtube Channel: TV3 Official, gmmchannel, GTHchannel, MCOT Official และ ช่อง one

ความคิดเห็น


เพื่อนๆที่ดูไม่ได้แนะนำให้ลองใช้โปรแกรม Chrome ในการดูนะครับ