ดูละคร ปัญญาชนก้นครัว (ตอนที่11) วันที่ 10 พฤศจิกายน 2555 ย้อนหลัง

ปัญญาชนก้นครัว — 10 พฤศจิกายน 2012

“แอน ทองประสม” ขึ้นแท่นเป็นผู้จัดละครครั้งแรก ปัดฝุ่นละครเรื่อง ปัญญาชนก้นครัว ติดอกติดใจกับเรื่องราวน่ารัก ๆ แถมเป็นละครเบาสมอง มาให้ได้ชมกัน
โดยใน ปัญญาชนก้นครัว เวอร์ชั่นนี้ มีคู่ขวัญพระ-นาง อย่าง “หมาก ปริญ สุภารัตน์” และ “คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส” มาสร้างความหวาน ปนเสียงหัวเราะ ให้แฟน ๆ ได้ลุ้นรักกันอีกครั้ง อีกทั้งยังมีนักแสดงฮาขั้นเทพอีกหลายคนมาสร้างสีสันให้ละครเรื่องนี้น่าดู สุด ๆ ไปเลยล่ะ ไม่ว่าจะเป็น อ้น ศรีพรรณ (รับบทเป็นคนใช้มาดทอม) , มะปราง วิรากานต์ (รับบทเป็นคนใช้คู่ขาทอม ที่คิดว่าตัวเองสวยที่สุดในซอย), กุ๊บกิ๊บ สุมณทิพย์ (สาวจอมเหวี่ยง), โบ ธนากร (หนุ่มมาดเนี๊ยบ) ,ไก่ สมพล, ตั๊ก บริบูรณ์ ฯลฯ

ดูละคร ปัญญาชนก้นครัว (ตอนที่11) วันที่ 10 พฤศจิกายน 2555 ย้อนหลัง ช่วงที่ 1

ดูละคร ปัญญาชนก้นครัว (ตอนที่11) วันที่ 10 พฤศจิกายน 2555 ย้อนหลัง ช่วงที่ 2

ดูละคร ปัญญาชนก้นครัว (ตอนที่11) วันที่ 10 พฤศจิกายน 2555 ย้อนหลัง ช่วงที่ 3

ดูละคร ปัญญาชนก้นครัว (ตอนที่11) วันที่ 10 พฤศจิกายน 2555 ย้อนหลัง ช่วงที่ 4

ดูละคร ปัญญาชนก้นครัว (ตอนที่11) วันที่ 10 พฤศจิกายน 2555 ย้อนหลัง ช่วงที่ 5

ดูละคร ปัญญาชนก้นครัว (ตอนที่11) วันที่ 10 พฤศจิกายน 2555 ย้อนหลัง ช่วงที่ 6

ดูละคร ปัญญาชนก้นครัว (ตอนที่11) วันที่ 10 พฤศจิกายน 2555 ย้อนหลัง ช่วงที่ 7

ดูละคร ปัญญาชนก้นครัว (ตอนที่11) วันที่ 10 พฤศจิกายน 2555 ย้อนหลัง ช่วงที่ 8

ดูละคร ปัญญาชนก้นครัว (ตอนที่11) วันที่ 10 พฤศจิกายน 2555 ย้อนหลัง ช่วงที่ 9



ปัญญาชนก้นครัวออกอากาศ : ศุกร์ (20.30 น.) เสาร์ และ อาทิตย์ (20.15 น.) ทาง ช่อง 3 เริ่ม ศุกร์ 19 ตุลาคม 2555

เรื่องย่อประจำตอน ละครปัญญาชนก้นครัว

ตอนที่ 11

เหน่งกลับมาคุยโวที่วินมอเตอร์ไซค์ว่า ถ้าเมื่อเช้าพี่มดแดงไม่พาตนไปพบพี่ตี๋ใหญ่ตนก็คงไม่รู้หรอกว่าพี่ตี๋ใหญ่ ยังไม่ได้ถูกจับ ไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีคน หน้าตาเหมือนพี่ตี๋ใหญ่ขนาดนี้เอมิกากับนงลักษณ์มาด้อมๆ มองๆ เข้าไปถามว่ารู้จักพี่ตี๋ใหญ่ไหม ทำเอาวงแตกต่างแยกย้ายกันไป

อ่านต่อ

คนละทาง เหน่งก็ทำท่าจะขึ้นรถ เอมิกากับนงลักษณ์ไปยืนขวางถามว่ารู้จักพี่ตี๋ใหญ่หรือเปล่า เหน่งมองล่อกแล่กบอกว่าไม่รู้จัก

เมื่อ เซ้าซี้ถามอย่างไรเหน่งก็บอกแต่ว่าไม่รู้จัก ซ้ำยังทำโมโหใส่จะขับรถชน เอมิกาไม่ยอมถอยยอมตายตรงนี้ถ้าไม่ได้เจอพี่ตี๋ใหญ่ แล้วเริ่มคร่ำครวญชีวิตลำเค็ญที่ท้องแล้วถูกผัวทิ้ง

นงลักษณ์ทำเป็น บอกให้กลับกันเถอะ ส่งบทให้เอมิกาได้คร่ำครวญต่อ แล้วตัวเองก็ต่อว่าเหน่งว่าใจดำ เพื่อนต้องอุ้มท้องมาจากต่างจังหวัดหลายร้อยกิโล

แต่ต้องมาเจอคนใจร้ายทำได้แม้กระทั่งกับคนท้อง

“หยุดร้องไห้ได้แล้ว ฉันจะพาเธอไปหาพี่ตี๋เอง” เหน่งใจอ่อน สองสาวรีบขอบใจเหน่งไม่หยุดปาก แต่ตาแอบมองและยิ้มให้กันอย่างสมใจ

ดร.เพี้ยนกับวเรศอยู่ในรถตู้ เปิดสปีกเกอร์โฟนฟังสองสาวเล่นละคร ดร.ยิ้มแก้มแทบปริถามวเรศอย่างภูมิใจว่า

“ไง…ลูกศิษย์ผม ตีบทแตกกระจุย อึ้งไปเลยสิครับ” แล้วหัวเราะ ฮิๆ…ฮะๆ…

ooooooo

เหน่งให้สองสาวซ้อนมอเตอร์ไซค์พาไปที่บ้านตี๋ใหญ่ กำชับสองสาวอย่างตื่นกลัวว่าอย่าบอกใครเด็ดขาดว่าตนเป็นคนพามา แล้วบิดรถไปเลย

นงลักษณ์ถามว่ากดออดเลยไหม เอมิกาให้แอบดูก่อนเผื่อหมอนั่นหลอกเรา

“มาด้อมๆมองๆอะไรตรงนี้!!” เสียงติ๋มถามจากข้างหลัง สองสาวผงะอึ้ง “ว่าไง…ฉันถามว่ามาทำอะไร”

เอมิกาบอกว่าตนมาหาพี่ตี๋ใหญ่ นี่เป็นบ้านพี่ตี๋ใหญ่ ใช่ไหม ติ๋มบอกว่าใช่ มาหาพี่ตี๋ใหญ่ทำไม เป็นอะไรกับพี่ตี๋!?

พอ เอมิกาบอกว่าเป็นเมีย ตนท้องกับพี่ตี๋ใหญ่เท่านั้น ติ๋มก็ปราดเข้าตบทันที นงลักษณ์ร้องบอกให้เอมิการีบหนีไปก่อน เอมิกาปักหลักไม่ยอมถอย ยังไงก็ต้องเจอพี่ตี๋ใหญ่ก่อน

ติ๋มเลือดขึ้นหน้าพุ่งเข้าตบเอมิกาอีก นงลักษณ์ขวางถูกผลักกระเด็นแล้วจิกผมเอมิกาไปตบ เธอหลบทัน ทำให้ติ๋มเสียหลักตัวหมุนคว้าง เอมิกาได้ทีกระโจนตบ ผลักติ๋มหัวทิ่มล้มฟาดพื้น

วเรศใจไม่ดีบอก ดร.เพี้ยนว่าสถานการณ์ไม่น่าไว้ใจ ชวนไปดูกันดีกว่า ด็อกเตอร์เห็นด้วยรีบพากัน ลงจากรถวิ่งไป ดร.เพี้ยนวิ่งจนเหนื่อยหอบ วเรศหยิบโทรศัพท์ออกมาบอกว่าตนโทร.แจ้งตำรวจก่อนดีกว่า

เอมิกาดัน ติ๋มไปจนติดรั้วบ้าน คว้าขันตักน้ำในตุ่มหน้าบ้านรดหัวติ๋มจนหายใจแทบไม่ออก ติ๋มจับแขนเอมิกาไว้เงื้อมือจะตบ ถูกนงลักษณ์จับแขนไว้กัดจมเขี้ยวเอมิกาได้ทีเลยกัดแขนติ๋มอีกข้าง ติ๋มร้องจ๊ากอย่างเจ็บปวด

“เฮ้ย! เอะอะโวยวายอะไรกันวะ!?” เสียงตี๋ใหญ่ตวาดถามออกมา

เอ มิกากับนงลักษณ์หันมอง พอเห็นหน้าตี๋ใหญ่ถึงกับตะลึงเหมือนโลกหยุดหมุนในฉับพลัน วเรศกับ ดร.เพี้ยนมาถึงพอดี เห็นตี๋ใหญ่แล้วช็อกไปทั้งคู่ ต่างอุทาน “ป่อง!!” “นายป่อง…”

ส่วนติ๋มพอเห็นหน้าตี๋ใหญ่ก็เข้าไปตัดพ้อต่อว่าที่ไปแอบซุกเมียไว้ ตี๋ใหญ่ทำหน้างง ติ๋มชี้ไปที่เอมิกาพูดเสียงสั่น

“นังนี่มันบอกว่าเป็นเมียพี่ แล้วมันก็ท้องด้วย”

ตี๋ ใหญ่หันมองเอมิกา เจ้ากรรม! หมอนที่ยัดท้องไว้ หลุดออกมาพอดี ทุกคนตกใจหน้าเสีย ตี๋ใหญ่ชี้หน้าถามว่าเป็นพวกตำรวจใช่ไหม แล้ววิ่งหนีไปทันที พอพวกเอมิกาได้สติก็วิ่งไล่ตาม ทิ้งติ๋มยืนงงเป็นไก่ตาแตกอยู่ตรงนั้น

ooooooo

ตี๋ใหญ่วิ่ง หนีวกวนไปตามสะพานเล็กๆในสลัม เอมิกา นงลักษณ์ และวเรศแม้จะทรงตัวลำบากแต่ก็วิ่งผ่านไปได้ แต่ดร.เพี้ยนเงอะงะตกสะพานลงไปในน้ำครำตัวดำเหม็นน่าสมเพช ส่วนนงลักษณ์ก็วิ่งชนบันไดที่คนถือมาจนเห็นดาวเต็มฟ้า

วเรศกับเอมิกา ไล่ตามตี๋ใหญ่ วเรศแยกไปดักอีกทาง ตี๋ใหญ่หันรีหันขวางเห็นเอมิกาวิ่งไล่มาก็พุ่งเข้าล็อกคอเอามีดพับออกมาจี้ เอวเธอ วเรศหว่านล้อมให้ใจเย็นๆ ค่อยๆพูดกันก็ได้ ตี๋ใหญ่ไม่พูดด้วยเพราะเชื่อว่าเขาเป็นตำรวจ จน ดร.เพี้ยนกับนงลักษณ์นำตำรวจมาถึง

“จับมันเลยครับคุณตำรวจ!” ดร.เพี้ยนตะโกน ตี๋ใหญ่ หันไปมอง วเรศพุ่งเข้าแย่งมีด ตะโกนให้เอมิการีบหนีไป ตี๋ใหญ่กับวเรศปล้ำแย่งมีดกันอย่างน่าหวาดเสียว แต่เพียงครู่เดียวมีดในมือตี๋ใหญ่ก็ชุ่มไปด้วยเลือด วเรศก้มมองใต้ราวนมของตัวเองเห็นเลือดชุ่มออกมา ทุกคนตกใจ ตี๋ใหญ่เองก็ทิ้งมีดหลุดมือ ตำรวจจึงพุ่งเข้ารวบตัวทันที

ตี๋ใหญ่ถูกตำรวจคุมตัวไป ส่วนวเรศถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในสภาพหมดสติ เอมิกาพร่ำเรียกเขาไปตลอดทาง…

เมื่อถึงโรงพยาบาล ดร.เพี้ยนขอไปช่วยปองเทพก่อน เอมิกาให้นงลักษณ์ไปกับอาจารย์ ตนอยู่เฝ้าวเรศเอง

ooooooo

ตี๋ ใหญ่ถูกนำตัวไปโรงพัก ทันทีที่เห็นหน้าชัดๆ ทั้งสารวัตร นงลักษณ์ และ ดร.เพี้ยนต่างอุทาน “โอ้โฮ” “อื้อฮือ” “มิน่าล่ะ” เพราะหน้าตี๋ใหญ่กับปองเทพเหมือนกันราวกับแกะ!

เมื่อได้ตี๋ใหญ่ตัวจริงมาแล้ว ปองเทพจึงได้รับการปล่อยตัว เขาขอร้องสารวัตรว่าอย่าให้เรื่องนี้รู้ถึงพ่อตนเด็ดขาด

“น่า…รับรอง ตอนแรกถ้าคุณเอาบัตรประชาชนให้ผมดูเสียก็หมดเรื่อง ไม่รู้ว่าคุณจะขยักเอาไว้ทำไม” สารวัตรบ่น

“ผมไม่อยากให้พ่อรู้ว่าผมทำอะไรบ้าๆเอาไว้”

“ไอ้ ความจริง ฉันไม่เห็นว่ามันจะเป็นเรื่องน่าอับอายตรงไหน กับการไปเป็นคนใช้ ค่านิยมของพวกหนุ่มสาวอย่างพวกเธอนี่น่าวิตกมาก เธอเห็นการทำงานสุจริตเป็นเรื่องน่าอับอาย แย่จริงๆ” ดร.เพี้ยนส่ายหน้าเอือมๆ

ที่โรงพยาบาล เอมิกายังเดินกระวนกระวายใจอยู่หน้าห้องผ่าตัด พยาบาลออกมาถามว่าเธอเป็นญาติหรือเปล่า เธอบอกว่าไม่ใช่ แต่จดเบอร์ติดต่อญาติให้ ครู่เดียวหมอก็เดินออกมาบอกว่า วเรศปลอดภัยแล้ว เอมิกาถึงกับยิ้มออก

เมื่อเข้าไปในห้องไอซียู เอมิกาไปยืนข้างเตียง วเรศยังไม่รู้สึกตัวแต่เธอก็กุมมือเขาพูดด้วยความซึ้งใจว่า

“ขอบคุณมากนะคะคุณตั้ม ขอบคุณที่ช่วยฉัน… ขอบคุณจริงๆ”

ooooooo

เมื่อได้รับข่าววเรศ ทั้งพีรพล ชื่นฤทัย และอรวิลาสก็รีบมาที่โรงพยาบาล

ขณะเอมิกาเฝ้าวเรศอยู่ในห้องไอซียูนั้น นงลักษณ์โทร.เข้ามือถือ เธอลุกเดินออกไปคุยนอกห้อง

“เรื่อง ป่องเรียบร้อยแล้วใช่ไหม…ดีแล้ว…คุณตั้มก็ปลอดภัยแล้วเหมือนกัน แต่หมอยังให้ดูอาการอยู่ในห้องไอซียู…พวกแกกำลังมาที่โรงพยาบาลใช่ไหม ถ้างั้นเดี๋ยวเจอกัน”

ระหว่างที่เอมิกาออกไปคุยโทรศัพท์นั่นเอง พีรพลกับครอบครัวก็มาถึงและรีบเข้าไปเยี่ยมวเรศในห้อง

เมื่อเอมิกากลับมาอีกที เธอจึงหลบไปนั่งที่ด้านนอก ครู่เดียวนงลักษณ์ ปองเทพ และ ดร.เพี้ยนก็มาถึง ปอง– เทพถามว่า

“ทำไมเอมมานั่งอยู่ตรงนี้ แล้วคุณตั้มล่ะ”

“คุณ พีรพล คุณชื่นฤทัย คุณอรวิลาสมา ฉันยังไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับใครตอนนี้ ถ้ายังไงพวกเราค่อยมาเยี่ยมคุณตั้มวันหลังก็แล้วกัน ตอนนี้กลับกันเถอะ”

ทั้งหมด จึงพากันกลับ และจากนั้นไม่นาน พีรพลและครอบครัวก็กลับถึงบ้าน พีรพลโทรศัพท์ไปขอบคุณสารวัตรที่จับคนร้ายตัวจริงได้แล้ว วางสายแล้วหันมาคุยกับชื่นฤทัยและอรวิลาสว่า นึกไม่ถึงว่าจะมีคนหน้าเหมือนกันได้ถึงขนาดนี้ อรวิลาสเอ่ยอย่างโล่งใจว่า “และนายป่องก็ไม่ได้เป็นโจรตัวจริง” ส่วนชื่นฤทัยกังวลที่ยังจับโจรตัวจริงที่ปล้นบ้านไม่ได้

บรรจงแอบ ได้ยิน ตกใจมากรีบโทร.หามดแดง เดินหงุดหงิดงุ่นง่านที่มดแดงไม่รับสาย จนนากถามว่าเป็นอะไร ถูกตวาดว่า “ไม่ใช่เรื่องของพี่!” แล้วเดินงุดๆออกไป นากมองตามอย่างสงสัย แปลกใจ…

ooooooo

วันรุ่งขึ้น ทันทีที่วเรศรู้สึกตัวเขาเห็นเงาคนเดินเข้ามานึกว่าเป็นเอมิกา แต่พอเงานั้นเข้าใกล้กลายเป็นอรวิลาส เขาถามว่าเธอมาคนเดียวหรือ อดเสียใจอยู่ลึกๆไม่ได้ที่ไม่เห็นเอมิกามาเยี่ยม

เช้าวันเดียวกัน เอมิกาถือกระติกน้ำซุปจะไปเยี่ยมวเรศ ถูกนงลักษณ์แซวว่า ไม่นึกว่าคุณหนูอย่างเธอจะเข้าครัวทำน้ำซุปเอง แซวว่า คิดอะไรกับคุณเลขารึเปล่า…

เอมิกาแก้เกี้ยวว่าที่ทำเพราะอยาก ตอบแทนที่เขาช่วยชีวิตตนไว้ อย่าคิดอกุศล แล้วบอกเพื่อนว่าช่วงนี้อะไรมันยุ่งๆอยู่จะขอกบดานที่บ้านเธอก่อน เพราะไม่อยากให้คุณตั้มรู้ว่าตนเป็นลูกใคร นงลักษณ์ไม่มีปัญหาแต่เหล่มองเพื่อนอย่างสงสัย

ส่วนอรวิลาสมาเฝ้าวเร ศตามคำสั่งแม่เริ่มรู้สึกเบื่อ อ่านหนังสือก็แล้ว ดูทีวีก็แล้ว ก็ยังช่วยไม่ได้ จนวเรศรู้สึก บอกเธอว่าจะกลับบ้านก็ได้ ตนอยู่คนเดียวได้ อรวิลาสกลัวถูกแม่ดุเพราะแม่สั่งให้มาดูแลเขา

วเรศบอกว่าให้ไปช็อปปิ้งก่อน เมื่อได้เวลาค่อยกลับมาแล้วกลับบ้านเลย รับรองตนไม่ทำให้เธอถูกดุแน่

อร วิลาสดีใจมากหยิบกระเป๋าสะพายเดินตัวปลิวออกไปเลย อึดใจเดียวเอมิกาก็มาถึง วเรศขยับตัวด้วยความดีใจทำให้เจ็บแผล เอมิการีบวางกระติกซุปเข้ามาถามว่าเป็นอย่างไร เขายิ้มพูดอย่างตื่นเต้นดีใจว่า

“ฉันนึกว่าเธอจะไม่มาเยี่ยมฉันแล้ว”

“ต้อง มาสิคะ ก็คุณช่วยชีวิตฉันเอาไว้จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด ขอบคุณมากนะคะ ขอบคุณมากจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คงเป็นฉันที่นอนอยู่ตรงนี้”

“ไม่ ต้องขอบคุณ ฉันเต็มใจช่วยเธอ ฉันทนเจ็บได้ แต่ถ้าเธอเจ็บ…เออ…มันจะลำบากคนอื่นเขา…” พูดแล้วเห็นเธอทำหน้าไม่ถูก เขายิ้มกลบเกลื่อนเปลี่ยนเรื่อง “เอาอะไรมาด้วยล่ะ”

เอมิกาเอาซุปมา ให้เขา ซุปยังร้อนเธอเป่าและตักยื่นให้ เขาอ้าปากรับกลายเป็นเธอป้อนให้ แล้วเขาก็อ้อนว่าเจ็บแผลยกมือไม่ไหว เธอเลยต้องป้อนต่อไปทั้งที่รู้ทัน

พอ ปองเทพรู้จากนงลักษณ์ว่าเอมิกามาเยี่ยมวเรศก็บ่นว่าไม่บอกกันเลย แล้วก็หิ้วตะกร้าผลไม้ไปเยี่ยมบ้าง เจอภาพบาดตาที่เอมิกากำลังดูแผลให้วเรศอย่างใกล้ชิด แต่ก็เก็บอาการเดินเข้าไป ทำเอาทั้งวเรศและเอมิกาต่างผละจากกัน ทำหน้าไม่ถูก

พูดคุยเยี่ยมเยียนกันแล้ว ปองเทพชวนเอมิกา

กลับ อ้างว่าวเรศจะได้พักผ่อน เธอจำต้องกลับ พอลงมาข้างล่างปองเทพจะไปส่ง เธอบอกว่าเอารถนงลักษณ์มาและจะไปซื้อของใช้ส่วนตัว จึงแยกกันตรงนั้น

แต่ พอแยกกัน เธอก็ย้อนกลับขึ้นไปที่ห้องวเรศอีก อ้างว่าลืมเอากระติกมา พอดีวเรศจะเข้าห้องน้ำเธอจึงช่วยประคองไป ครู่เดียวพยาบาลจะมาเช็ดตัวให้ พยาบาลถามยิ้วแซวๆอย่างมีประสบการณ์ว่า

“หรือจะให้แฟนเช็ดให้ก็ได้นะคะ เพราะคนไข้หลายคนก็อยากให้แฟนเช็ดให้มากกว่าพยาบาล”

เอมิกาพยายามจะชี้แจงแต่ไม่มีโอกาสเพราะพยาบาลพูดจบก็ออกไปเลย วเรศยิ้มกริ่ม เธอถามเขินๆว่ายิ้มทำไม

“อ้าว…คน มีความสุข ไม่ให้ยิ้มแล้วจะให้ทำหน้าเศร้าเหรอ…เธอคงต้องเช็ดตัวให้ฉันแล้วล่ะ เพราะคุณพยาบาลคงไปทำให้ห้องอื่นแล้ว” วเรศรวบรัดจนเธอปฏิเสธไม่ได้ ต้องลงมือเช็ดตัวให้เขินๆ

เช็ดแขน เช็ดลำคอ จนต้องถอดเสื้อเช็ดตัว เอมิกาเขินมากเช็ดโดยไม่กล้ามอง จนโดนแผลเข้า เลยถือโอกาสบอกเขาว่า

“ขอโทษค่ะคุณตั้ม ฉันว่าฉันไปตามพยาบาลมาเช็ดตัวให้คุณดีกว่า” พูดแล้วรีบลุกไปเหมือนกลัวเขาจะทัดทาน

ooooooo

จัดการ ทุกอย่างให้เขาเรียบร้อยแล้ว เอมิกาเตรียมกลับ พลันก็ได้ยินเสียงชื่นฤทัยดุอรวิลาสที่ทำแก้วน้ำหกรดพื้นอยู่หน้าห้อง เธอตกใจหันกลับมาบอกวเรศว่า “คุณอร คุณชื่น คุณพีมา!”

แทนที่วเรศจะ ตกใจเขากลับบอกว่าดีแล้วจะได้บอกไปเลยว่าเธอเป็นใคร เธอตกใจห้ามเขาบอกเด็ดขาดเพราะตนยังไม่พร้อมที่จะเจอใครตอนนี้ และห้ามบอกด้วยว่าตนอยู่ที่นี่

ทันใดนั้น ชื่นฤทัยผลักประตูเข้ามา เอมิการีบหลบหลังประตู วเรศมองลุ้นอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี

“หลานตั้ม…วันนี้สีหน้าดูดีขึ้นกว่าวันแรกมากเลย สงสัยเป็นเพราะเมื่อวานน้องอรดูแลดีแน่ๆใช่ไหมเอ่ย…”

วเรศ ได้แต่ยิ้มๆ ใจลุ้นว่าเอมิกาจะออกไปอย่างไร พีรพลเห็นเขามองไปที่ประตูถามว่ามองอะไร พลางจะหันไปดู วเรศรีบบอกว่าตนหิวน้ำ พีรพลเลยต้องไปเอาน้ำให้ เปิดโอกาสให้เอมิกาคลานออกไปได้อย่างทุลักทุเล

วันต่อมา เมื่อเอมิกามาเยี่ยม วเรศถามอย่างข้องใจไม่หายว่าทำไมเธอจึงยังไม่ยอมให้ตนบอกความจริงกับทุกคน ว่าเธอเป็นใคร เอมิกาขอเวลาทำใจอีกสักพัก เขาบอกว่าเธอไม่ได้ทำเรื่องคอขาดบาดตายอะไร ทำไมถึงบอกใครไม่ได้

ทันใด นั้น วิยะดาเปิดประตูเข้ามาอย่างร้อนใจ วเรศตกใจที่จู่ๆแม่ก็มา วิยะดาบอกว่าพีรพลโทร.ไปบอกเลยจองเที่ยวบินที่เร็วที่สุดรีบมาเลย วเรศบอกว่าไม่ต้องห่วง ตนไม่เป็นอะไรมาก

“ไม่ห่วงไม่ได้หรอก แม่มีลูกคนเดียวนะ ถ้ายังไงแม่จะมาเฝ้าลูกเอง”

เพราะ มัวคุยกับวเรศ วิยะดาจึงยังไม่ทันเห็นเอมิกา พอหันไปเห็นก็ชะงักหน้าตึงเล็กน้อย เอมิการีบยกมือไหว้ เธอรับไหว้อย่างขอไปที แล้วหันถามวเรศว่า “ผู้หญิงคนนั้นเหรอ แม่บ้านบ้านคุณชื่น” เมื่อเขาบอกว่าใช่ วิยะดาก็อึ้งไป

เอมิการู้สึก ว่าตัวเองเป็นส่วนเกินจึงขอตัวกลับ แต่ออกไปยืนตรงประตู ก็ได้ยินวิยะดาถามวเรศว่าทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงมาอยู่ที่นี่ วเรศบอกว่าเธอมาช่วยดูแลตน วิยะดาเสียงเข้มขึ้นทันทีว่า

“แม่เคยบอก ลูกแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าถ้าจะเลือกใครสักคนเป็นคู่ครอง ก็ต้องเลือกคนที่ถูกต้องและเหมาะสม ไม่ใช่คิดแค่ว่าเราพึงพอใจเขาอย่างเดียว มันต้องดูหลายๆอย่างประกอบกันด้วย”

วเรศเห็นแม่ไม่พอใจมาก เขากำลังจะบอกว่าความจริงเอมิกาเป็นนักศึกษา แต่ไม่ทันพูด เอมิการู้ทันรีบเปิดประตูเข้ามาขัดจังหวะ บอกว่าตนลืมกระติก แต่แอบขยิบตา ถลึงตาไม่ให้เขาพูด วิยะดาเห็นอากัปกิริยานั้นทั้งหมด จึงเรียกเอมิกาไปคุยกันข้างนอก พูดอย่างไม่ให้เอมิกาตั้งตัวได้ว่า “รู้สึกว่าเธอจะคุ้นเคยกับตาตั้มดีจังนะ”

“คุณตั้มเดือดร้อนเพราะดิฉันค่ะ ดิฉันก็เลยต้องหาโอกาสตอบแทนน้ำใจ”

“งั้น ก็อย่าให้เขาเดือดร้อนเพราะเธอไปมากกว่านี้ได้ไหม ตาตั้มยังมีอนาคตอีกไกล ถึงเขาจะไม่เลือกใครที่หน้าตา แต่คงจะต้องเลือกคนที่เป็นหน้าเป็นตาให้กับเขาได้ ฉันไม่อยากให้ตาตั้มต้องมีประวัติมัวหมองเพราะใคร และเขาก็มี ‘ตัวจริง’ ของเขาอยู่แล้ว ฉันหวังว่าเธอคงจะเข้าใจนะ”

พูดจบวิยะดาก็เดินกลับเข้าห้องไปเลย เอมิกายังคงยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น

เมื่อ กลับเข้าไปในห้อง วเรศถามว่าคุยอะไรกับเอมิกาหรือ วิยะดาตัดบทว่าให้เลิกพูดถึงผู้หญิงคนนั้นได้แล้ว ต่อไปนี้มีพยาบาลคนเดียวคือแม่เท่านั้น วเรศคิดหนัก นึกในใจว่า

“ฉันต้องรู้ให้ได้ว่า ทำไมเธอถึงไม่ยอมให้ฉันพูดความจริงว่าเธอเป็นใคร ชะเอม”

ooooooo

ส่วน ปองเทพก็ระแวงกลัวเอมิกาจะไม่เหมือนเดิม วันนี้ไปถามเธอที่บ้านนงลักษณ์ว่า ความรู้สึกต่อกันของเรายังเหมือนเดิมไหม เอมิกาบอกว่าเหมือนเดิม ถามชัดลงไปอีกว่าเรายังรักกันใช่ไหม พอเธอบอกว่าใช่ ก็ขอบคุณแล้วขอบคุณอีกที่ยังรักกันอยู่

เอมิกาตอบปองเทพไปเช่นนั้น แล้วก็รู้สึกผิดกับตัวเองมาก วเรศที่ไปหาเอมิกาที่บ้านนงลักษณ์พอดีได้เห็นได้ยินทั้งสองคุยกันก็เสียใจ หันหลังเดินกลับอย่างหมดอาลัย ไม่นานนักก็ได้รับโทรศัพท์จากเอมิกาถามว่าออกจากโรงพยาบาลหรือยัง เขาบอกว่าออกมาอยู่ที่บ้านแม่แล้ว ถามเธอว่า “ว่างรึเปล่าชะเอม ฉันมีเรื่องอยากคุยด้วย”

เมื่อเจอกัน เขาไม่ถามอีกว่าทำไมเธอจึงไม่ยอมให้เปิดเผยว่าตัวเองเป็นใคร พูดประชดว่าตนรู้เหตุผลของเธอแล้วว่า เพราะเธอต้องการไปจากตน เอมิกาตกใจบอกว่ามันไม่ใช่อย่างที่เขาคิด

“ฉันได้ยินที่เธอคุยกับ ป่องทุกอย่าง!! ฉันมันบ้าที่คิดไปเองว่าเธอรู้สึก…ช่างเถอะ ต่อไปนี้ฉันจะไม่ยุ่งกับชีวิตของเธออีกแล้ว” วเรศหยุดไปอย่างรู้สึกเจ็บจนพูดไม่ออก เอมิกาตกใจ เสียใจ พยายามบอกว่ามันไม่ใช่อย่างที่เขาคิด แต่วเรศก็หันหลังเดินจากไปแล้ว…

กลับมาเล่าให้นงลักษณ์ฟังที่บ้าน  นงลักษณ์บอกว่า

“แก ต้องไปอธิบายให้เขาฟังนะไอ้เอม  แกจะปล่อยให้เขาเข้าใจแกผิดๆแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นเรื่องมันจะบานปลายไปกันใหญ่ แล้วแกก็จะกลายเป็นคนผิดในสายตาของเขาไปตลอดชีวิต”

ฟังนงลักษณ์แล้วเอมิกายิ่งเครียด…

และ แล้ว ก็มีเรื่องที่ทำให้เอมิกาลืมเรื่องนี้ไปได้โดยปริยาย เมื่อนากนัดพบ เล่าว่ายังจับโจรที่ปล้นบ้านคุณชื่นไม่ได้เลย ส่วนที่ให้ตนสังเกตบรรจงนั้น เห็นบรรจงคุยโทรศัพท์ลับๆล่อๆกับใครก็ไม่รู้ และช่วงนี้ก็ดูขี้ตกใจ ขี้ตื่น ดูสติไม่อยู่กับตัวเลย

“ฉันคิดว่าฉันพอมีทางที่จะจับโจรปล้นบ้านคุณชื่นได้แล้วล่ะพี่นาก แต่พี่นากอย่าบอกใครนะว่าเจอฉันที่นี่”

พอ นงลักษณ์รู้ว่าเอมิกายังไม่ได้ปรับความเข้าใจกับวเรศก็บ่นเพื่อน เอมิกาบอกว่าตอนนี้ตนมีงานสำคัญกว่าที่จะต้องทำ คือจับโจรที่ปล้นบ้านคุณชื่น นงลักษณ์ทำท่าอยากจะบ้าตายที่เพื่อนหาเหาใส่หัวไม่ได้หยุดหย่อน คราวก่อนก็เรื่องจับตี๋ใหญ่จนเกือบเอาตัวไม่รอด คราวนี้ก็จะจับโจรอีก

เอ มิกาอ้างว่านี่เป็นการตอบแทนบุญคุณคนบ้านชื่นฤทัยที่ดีกับตนตลอดมา นงลักษณ์ติงว่าตอบแทนด้วยวิธีอื่นมีถมไป ทำไมต้องใช้วิธีนี้ เอมิการับรองว่าไม่ทำอะไรที่เป็นอันตราย และห้ามเธอบอกใครทั้งสิ้น ต้องเก็บเป็นความลับสุดยอด!

ooooooo

งานที่นากต้องทำคือขโมย เบอร์โทรศัพท์ของมดแดงมาให้ได้ นากเห็นบรรจงไปอาบน้ำจึงแอบเข้าไปในห้องขโมยโทรศัพท์ จุ่นมาเจอหาว่านากมาแอบดูบรรจงอาบน้ำเลยมีเรื่องกัน เมื่อได้เบอร์มดแดงแล้ว นากกดข้อความส่งออกทันที จากนั้นโทร.บอกเอมิกาว่า

“ทุกอย่างเป็นไปตามแผน”

เอมิกาบอกนงลักษณ์อย่างมั่นใจว่า “พี่นากทำทุกอย่างตามที่ฉันบอก ถ้าเป็นอย่างที่ฉันคิด คืนนี้บรรจงกับมดแดงจะออกมาเจอกัน”

ด้วย ความเป็นห่วงเพื่อน นงลักษณ์บอกเอมิกาว่าคืนนี้จะไปด้วย เอมิกาบอกไม่ต้อง เพราะไม่อยากให้เพื่อนเดือดร้อนอีก นงลักษณ์เลยแอบโทร.บอกวเรศว่าเอมิกากำลังทำอะไรอยู่และคืนนี้จะไปที่ไหน วเรศฟังแล้วตกใจมาก

คืนนี้ เอมิกาจับตาดูการเคลื่อนไหวของบรรจง เมื่อเห็นบรรจงแต่งตัวออกจากบ้านจึงสะกดรอยตาม ปรากฏว่าบรรจงโบกมอเตอร์ไซค์รับจ้างไป เอมิกาตกใจจะเรียกมอเตอร์ไซค์รับจ้างก็ไม่มี

ทันใดนั้น วเรศปาดรถเข้าเทียบเร่งให้รีบขึ้นรถเดี๋ยวจะตามบรรจงไม่ทัน เอมิกาไม่มีทางเลือก พอขึ้นรถก็ถามว่ารู้ได้ไงว่าตนอยู่ตรงนี้ วเรศบอกตามตรงว่านงลักษณ์โทร.ไปบอก ตนเป็นห่วงจึงตามมา

“ไหนบอกว่าจะ ไม่ยุ่งกับฉันแล้วไง แล้วมายุ่งอีกทำไม” วเรศฉุนบอกว่าตนไม่ได้อยากมา แต่เพราะเพื่อนเธอโทร.บอกให้มาช่วยถึงได้มา “ถ้างั้นก็จอดรถ ฉันจะไปเอง! จอดสิ!! ถ้าไม่จอดฉันจะโดดลงไปเดี๋ยวนี้!!”

เพราะมัวแต่โต้เถียงเล่น แง่เล่นงอนกัน มอเตอร์ไซค์ที่บรรจงนั่งเลยหลุดไปจากสายตา เธอโทษว่าเพราะเขาจอดรถเลยทำให้ตามไม่ทัน วเรศงงมากเพราะเธอสั่งให้เขาจอดรถแท้ๆ กลับมาโทษกัน ไม่ว่าตนจะทำอะไรก็ผิดไปหมด สุดท้ายเธอสั่งให้เขารีบขับรถตามหาบรรจงเพราะนี่เป็นโอกาสเดียวที่ตนจะจับ บรรจงกับมดแดงได้

วเรศถอนใจเฮือกใหญ่แล้วออกรถไป…แต่หาบรรจงไม่เจอ แล้ว พลันก็เห็นรถที่รับบรรจงซ้อนท้ายไปสวนมา วเรศรีบจอดขวางทาง แล้วลงไปถามคนขี่มอเตอร์ไซค์ว่า

“คุณพาผู้โดยสารคนเมื่อกี้ไปส่งที่ไหน!?”

ooooooo

เมื่อ รู้ที่แล้ว วเรศขับรถไปจอดหน้าปากซอยที่เล็กแคบจนมีแต่มอเตอร์ไซค์เท่านั้นที่เข้าได้ ทั้งสองตัดสินใจลงเดินไป วเรศกับเอมิกาต่างไม่ยอมให้อีกฝ่ายต้องไปเสี่ยง เมื่อตกลงกันไม่ได้เลยเข้าไปด้วยกัน

เดินเข้าไปเห็นบรรจงยืนคุยกับมดแดงอยู่ แต่ไม่ได้ยินเสียง จึงขยับเข้าใกล้ เอมิการีบเอามือถือบันทึกไว้ทันที

มดแดง กับบรรจงต่างถามว่านัดตนมาทำไม จึงรู้ว่าต่างไม่ได้นัด บรรจงหน้าซีดเผือดระแวงว่าจะเป็นฝีมือของตำรวจ โวยวายว่าตนไม่ยอมติดคุกเด็ดขาด มดแดงตวาดเบาๆ ว่าจะเสียงดังไปทำไม!

“ฉันกลัวนี่ พี่เป็นคนปล้นบ้านคุณชื่นไม่ใช่ฉันสักหน่อย”

“ทำไม แกจะไม่ใช่! แกเป็นสายให้ฉัน ก็เท่ากับว่าแกเป็นโจรด้วย!” มดแดงบอกว่าเราจะอยู่ตรงนี้ไม่ได้แล้วต้องรีบแยกย้ายกันไปเดี๋ยวตำรวจมาจะ ยุ่ง

“รีบไปก่อนที่พวกมันจะเห็นเรา” วเรศเร่ง เอมิกาเก็บมือถือพากันย่องออกไป บังเอิญเหยียบอะไรบางอย่างเกิดเสียงดัง ทำให้มดแดงกับบรรจงหันมอง เห็นเงาตะคุ่มของทั้งสอง มดแดงพุ่งมาทันที ส่วนบรรจงรีบหนีเอาตัวรอด

วเรศบอกให้เอมิกาแยกไปทางอื่นและเอาคลิป วีดิโอนี้ไปให้สารวัตรให้ได้ เอมิกาลังเลเพราะเป็นห่วงเขา จนวเรศเสียงเข้มใส่เธอจึงยอมแยกไป พอเอมิกาแยกไปเท่านั้น วเรศก็ตะโกนล่อมดแดงมาทางตน “แน่จริงก็ตามฉันมา!”

“แกตายแน่!!” มดแดงคำราม วิ่งไล่ตามวเรศไป เอมิกาหันมองวเรศด้วยความเป็นห่วง มดแดงเห็นพอดีมันคำราม “นั่นมัน!! คนใช้บ้านนังคุณนายชื่น…ฝีมือแกเองเหรอ!!!” มันเปลี่ยนเป็นไล่ตามเอมิกาทันที

วเรศเห็นมดแดงไล่ตามเอมิกาไปก็เป็น ห่วงเธอมาก เขาวิ่งตามไปเจอมดแดงจับเอมิกาได้และพยายามแย่งมือถือที่ถ่ายคลิปไว้ เอมิกาไม่ยอมให้กัดแขนมันเต็มแรง ถูกมันตบจนเลือดกบปาก เธอไม่มีแม้แต่แรงที่จะรักษาโทรศัพท์ที่ถ่ายคลิปไว้

พริบตานั้น มดแดงถูกของแข็งตีท้ายทอยหงายผลึ่งหมดสติทันที เอมิกาเห็นวเรศถือไม้ยืนอยู่ เขาทิ้งไม้โผเข้ากอดเธอไว้ถามว่ามันทำร้ายเธอหรือ เอมิกาบอกว่าตนไม่เป็นไร เร่งเขาให้รีบโทร.บอกสารวัตรก่อนที่มดแดงจะฟื้นขึ้นมา

วเรศถามว่าแล้วบรรจงล่ะหายไปไหน “เรื่องบรรจงเดี๋ยวฉันจัดการเอง” เอมิกาบอกเมื่อนึกอะไรขึ้นมาได้

ooooooo

เอมิกาโทร.บอกนากทันทีว่าบรรจงเป็นสายโจรถามว่าบรรจงกลับมาหรือยัง นากบอกว่าเห็นไฟในห้องเปิดน่าจะกลับมาแล้ว แต่อึดใจเดียวก็เห็นบรรจงหอบกระเป๋าออกมา นากรีบบอกว่าตอนนี้บรรจงกำลังจะออกไปแล้ว

“บรรจงกำลังจะหนี” เอมิกาบอกวเรศแล้วบอกนาก “พี่นากอย่าปล่อยให้บรรจงหนีไปได้นะ”

นากวิ่งตามไปขวางบรรจงไม่ให้หนีไปไหน บอกว่าตนรู้หมดแล้วว่าบรรจงร่วมมือกับมดแดงปล้นบ้านคุณชื่น และตอนนี้ตำรวจก็กำลังตามมาลากคออยู่ บรรจงตกใจเอากระเป๋าฟาดนากพัลวัน นากบุกเข้าไปคว้าตัวไว้ บรรจงอ้อนวอนขอร้องให้ปล่อยตนไป

“ไม่มีทาง ยังไงแกก็หนีไปไหนไม่รอดหรอก!” เมื่อบรรจงดิ้น นากตะโกน “ป้าพิศ! ไอ้จุ่น! ช่วยด้วย!!!” แต่ไม่มีใครออกมาช่วย นากเลยใช้มุกเก่าๆตะโกน “ไฟไหม้… ไฟไหม้มมมม” แค่นั้นเองทุกคนก็วิ่งหน้าตื่นออกมา

นากบอกให้ช่วยกันจับบรรจงไว้ เพราะบรรจงเป็นสายโจรมาปล้นบ้านคุณชื่น ทุกคนเลยช่วยกันจับ

เมื่อตำรวจนำตัวไปโรงพัก บรรจงเจอมดแดงถูกจับมาเหมือนกัน เลยตะโกนด่าโทษว่าทำให้ตนถูกจับ มดแดงสวนไปว่า เพราะความโง่ความละโมบโลภมากของตัวเองต่างหาก แค่ตนเอาเงินมาล่อก็ติดกับแล้ว

ทั้งสองถูกเอาตัวเข้าห้องขัง ไม่นาน พีรพลกับชื่นฤทัยก็มาถึง บรรจงคุกเข่าสารภาพผิด

“คุณชื่น คุณพี จงขอโทษ จงขอโทษที่เนรคุณพวกคุณทั้งสอง ทั้งๆที่พวกคุณมีบุญคุณกับจงมาก แต่จงกลับอกตัญญู ทำให้พวกคุณต้องเดือดร้อน จงมันชั่ว จงมันเลว จงขอโทษ…”

“ที่เธอพูดคำว่าขอโทษ เพราะเธอสำนึกผิด หรือเพราะกลัวฉันจะเอาเรื่อง” ชื่นฤทัยถาม

“จงไม่กลัวคุณจะเอาเรื่องจงหรอกนะคะ เพราะจงผิดจริง สมควรแล้วที่จะได้รับการลงโทษ จงสำนึกผิดแล้วค่ะ ทุกสิ่งทุกอย่างที่จงทำไปเพราะจงอิจฉาที่คุณชื่นเอ็นดูชะเอมมากกว่า ทั้งๆที่จงอยู่มาก่อน จงก็เลยใส่ร้าย ว่าชะเอมเป็นสายโจร จงทำทุกอย่างลงไปโดยไม่คิด ทำให้คุณพีต้องได้รับบาดเจ็บ ทำให้คุณชื่นต้องสูญเงินไปเป็นจำนวนมาก ถ้าจงสามารถย้อนเวลากลับไปได้ จงจะไม่ทำแบบนี้อีก”

เห็นบรรจงสำนึกผิดและเสียใจกับการกระทำของตัวเอง ชื่นฤทัยจึงให้โอกาสแก้ตัว พีรพลบอกว่า ต่อไปนี้ให้เริ่มต้นชีวิตใหม่เสีย

บรรจงดีใจเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ คลานเข้าไปกอดขาชื่นฤทัย ยิ้มออกมาทั้งน้ำตา พีรพลกับชื่นฤทัยยิ้มให้กันอย่างสบายใจ ที่การให้อภัยทำให้บรรจงที่สำนึกผิดได้มีชีวิตใหม่

วเรศเล่าข่าวดีนี้แก่เอมิกาที่ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล เธอดีใจมาก เมื่อหมอตรวจแล้วไม่มีอะไรมาก เธอจึงขอตัวกลับ วเรศไม่ยอมให้กลับเองจะไปส่ง อ้างว่าตนรับปากกับเพื่อนเธอไว้แล้วว่าจะดูแลเธอ เพราะฉะนั้นต้องทำหน้าที่ให้ครบถ้วน เอมิกาเลยพูดไม่ออก เดินไปขึ้นรถเขาอย่างว่าง่าย

ระหว่างนั่งในรถ ต่างคนต่างเงียบ แต่เพราะเหนื่อยมากทำให้เอมิกาเริ่มหาวและหลับผล็อยไป วเรศจึงจอดรถเอื้อมมือมาปรับเบาะให้เธอนอนได้สบาย แต่เอื้อมสุดตัวเลยยั้งไม่อยู่ หน้าเกือบชนกับหน้าเธอ เขามองหน้าเธออย่างครุ่นคิดนิ่งนาน…พึมพำ… “ทำไมฉันถึงลืมเธอไม่ได้สักที…”

เอมิกาได้ยินแล้วอึ้ง แต่แกล้งทำเป็นหลับ จนเมื่อถึงบ้านนงลักษณ์ เขาปลุก เธอทำเป็นบ่นตัวเองว่าหลับไปเมื่อไรไม่รู้ตัวเลย ปลดเซฟตี้เบลต์แต่ปลดไม่ออก วเรศเอื้อมมาช่วยปลดทำให้หน้ากับหน้าใกล้ชิดกันอีกครั้ง เอมิการีบผละออก ขอบคุณเขาแล้วลงจากรถไป ใจเศร้าอย่างบอกไม่ถูก วเรศเองก็มองตามเธอไปอย่างอาลัย แต่ต้องตัดใจขับรถกลับไป

ooooooo

เมื่อสำนึกผิดได้รับอภัยแล้ว บรรจงกลับไปทำงานในครัวตามเดิม เห็นท่าทีเมินเฉยของสมพิศ จุ่น และนาก จึงเอ่ยขอโทษ บอกว่าตนสำนึกผิดแล้วจริงๆ ทั้งสามเห็นว่าเมื่อคุณชื่นยังอภัยให้จึงอภัยด้วยและปฏิบัติต่อบรรจงเหมือนเดิม

บรรจงขอบคุณทุกคนมาก แต่สมพิศมีข้อแม้ว่า บรรจงต้องทำงานรับใช้ตนกับนากหนึ่งเดือน ถามว่าตกลงไหม

“จะให้ฉันรับใช้ป้ากับพี่นากไปตลอดชีวิตก็ยังได้ เพราะฉันคงจะไม่ออกไปทำงานที่ไหนอีกแล้ว ถ้าจะตายก็ขอตายที่นี่แหละ”

ฝ่ายเอมิกา เมื่อปัญหาเก่าคลี่คลายแล้วกลับมีปัญหาใหม่เกิดขึ้น เมื่อปองเทพโทร.มาบอกว่าคุณพ่อเขารู้เรื่องหมดแล้ว และกำลังเดินทางมาที่บ้านชื่นฤทัย เธอบอกปองเทพให้ใจเย็นๆ เดี๋ยวตนจะไปด้วย หันบอกนงลักษณ์ว่า

“ถึงเวลาที่ฉันต้องเผชิญหน้ากับความจริงแล้ว”

ooooooo

ที่บ้านชื่นฤทัย ขณะทุกคนในบ้านรวมทั้งวเรศด้วยกำลังทานอาหารกันอยู่ ชื่นฤทัยเอ่ยอย่างปลื้มปีติว่า

“หลานตั้มนี่ช่างเป็นคนดีจริงๆ ถ้าใครได้หลานตั้มไปเป็นสามี” พูดแล้วปรายตาไปทางอรวิลาส “คงจะเป็นคนที่โชคดีที่สุดในโลก แต่เอ…แว่วๆว่าผู้โชคดีคนนั้นอาจจะอยู่แถวๆนี้”

พีรพลยิ้มฝืดๆกับมุกเฝื่อนๆของเมีย

ทันใดนั้น ทุกคนแปลกใจ ตกใจเมื่อมีเสียงรถหวอตำรวจดังขึ้น แล้วมีรถมอเตอร์ไซค์นำขบวนรถหรูเข้ามา

พ.ต.ท.เทพก้าวลงจากรถอย่างสง่าน่าเกรงขามในชุดตำรวจเต็มยศ ไว้ผมทรงเอลวิส จอนยาวใส่แว่นดำ ทันใดนั้น ที่ประตูรถอีกด้าน ปองเทพก้าวลงจากรถด้วยสีหน้าท่าทางจ๋องสุดๆ

บรรดาคนในบ้านยังไม่ทันหายงงกับขบวนรถที่มา ก็ต้องงงอีกเมื่อรถเอมิกาขับเข้ามา เธอลงจากรถยกมือไหว้ทุกคน นากอุทานตาโต “น้องชะเอม!!”

เมื่อเชิญ พ.ต.ท.เทพเข้าบ้าน ท่านแนะนำตัวเองแก่ทุกคนว่า

“ผม พ.ต.ท.เทพ ประทุษพาล เป็นพ่อแท้ๆของป่อง ที่ผมมาที่นี่ เพราะว่าผมจะมาขอโทษที่ลูกชายผมกับหนูเอมโกหกพวกคุณ ความจริงเด็กสองคนนี้เป็นนักศึกษา แต่ที่ต้องปลอมตัวเข้ามาเป็นคนใช้ เพราะต้องหาข้อมูลในการเขียนบทละครเพื่อส่งงานอาจารย์”

ปองเทพเอ่ยขอโทษชื่นฤทัยกับพีรพลและทุกคน เอมิกาเอ่ยขอโทษเช่นกัน ทุกคนนิ่งเงียบ พีรพลเอ่ยขึ้นว่า

“เออ…ความจริงเรื่องที่ป่องกับชะเอมโกหก มันก็ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายอะไรหรอกนะครับ”

“ถึงจะไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง เด็กสองคนนี้ ทำอะไรโดยไม่คิด ถ้าเกิดแต่งงานกันไป จะไว้ใจให้อยู่ด้วยกันสองคนได้ยังไง”

ปองเทพกับเอมิกามองหน้ากันอึ้ง ชื่นฤทัยถามว่าจะแต่งงานกันแล้วหรือ ยังเรียนไม่จบเลย

“สองคนนี้เขาเป็นคู่หมั้นคู่หมายกันอยู่ หมั้นกันตั้งแต่เด็ก ถ้าเรียนจบก็คงได้แต่งงานกันเลย ถ้าถึงวันแต่งงานของสองคนนี้เมื่อไร อย่าลืมมาด้วยนะครับ แล้วผมจะส่งการ์ดเชิญมาให้” แล้วหันไปทางวเรศ “เชิญคุณด้วยนะครับ”

พีรพลกับชื่นฤทัยตอบรับด้วยความยินดี แต่วเรศตอบหน้านิ่งๆว่า “ผมไม่แน่ใจนะครับว่าจะไปได้รึเปล่า ถ้ายังไง…” เขาหันไปมองเอมิกากับปองเทพ “ฉันขอแสดงความยินดีล่วงหน้าเลยก็แล้วกัน”

เอมิกาอึ้งรู้สึกโหวงเหวงแปลกๆ ส่วนวเรศยังคงหน้านิ่งเก็บความเสียใจไว้อย่างเจ็บปวด…

ooooooo




ชอบเว็บนี้ กด Like เลย

Tags:
ขอขอบคุณ Youtube Channel: TV3 Official, gmmchannel, GTHchannel, MCOT Official และ ช่อง one

ความคิดเห็น


เพื่อนๆที่ดูไม่ได้แนะนำให้ลองใช้โปรแกรม Chrome ในการดูนะครับ