ดูธรณีนี่นี้ใครครองย้อนหลัง (ตอนที่ 11) วันที่ 21 กรกฎาคม 2555

ธรณีนี่นี้ใครครอง — 21 กรกฎาคม 2012

ละคร ธรณีนี่นี้ใครครอง คลิปละครธรณีนี่นี้ใครครอง ละครช่อง 3 ธรณีนี่นี้ใครครอง วันที่ 29 มิถุนายน 2555 ตอนแรก ดูละครย้อนหลัง ช่อง3 เรื่องธรณีนี่นี้ใครครอง ธรณีนี่นี้ใครครอง ละครธรณีนี่นี้ใครครอง ละครช่อง3 ธรณีนี่นี้ใครครอง บทประพันธ์ : กาญจนา นาคนันทน์ ธรณีนี่นี้ใครครอง บทโทรทัศน์ : ปารดา กันตพัฒนกุล ธรณีนี่นี้ใครครอง กำกับการแสดง : ป้าแจ๋ว – ยุทธนา ล.พันธ์ไพบูลย์ ธรณีนี่นี้ใครครอง แนวละคร : โรแมนติค ดราม่า ธรณีนี่นี้ใครครอง ผลิต : บริษัทโนพรอบเล็มจำกัด โดย ธิติมา สังขพิทักษ์ ธรณีนี่นี้ใครครอง ออกอากาศ : *ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.30 น. ธรณีนี่นี้ใครครอง เริ่มตอนแรก ศุกร์ที่ 29 มิถุนายน นี้ ดูธรณีนี่นี้ใครครองย้อนหลัง เรื่องย่อ ธรณีนี่นี้ใครครอง วันที่ 21 กรกฎาคม 2555 ตอนที่ 11

ดูธรณีนี่นี้ใครครองย้อนหลัง (ตอนที่ 11) 21 กรกฎาคม 2555 ช่วงที่ 1

ดูธรณีนี่นี้ใครครองย้อนหลัง (ตอนที่ 11) 21 กรกฎาคม 2555 ช่วงที่ 2

ดูธรณีนี่นี้ใครครองย้อนหลัง (ตอนที่ 11) 21 กรกฎาคม 2555 ช่วงที่ 3

ดูธรณีนี่นี้ใครครองย้อนหลัง (ตอนที่ 11) 21 กรกฎาคม 2555 ช่วงที่ 4

ดูธรณีนี่นี้ใครครองย้อนหลัง (ตอนที่ 11) 21 กรกฎาคม 2555 ช่วงที่ 5

ดูธรณีนี่นี้ใครครองย้อนหลัง (ตอนที่ 11) 21 กรกฎาคม 2555 ช่วงที่ 6

ดูธรณีนี่นี้ใครครองย้อนหลัง (ตอนที่ 11) 21 กรกฎาคม 2555 ช่วงที่ 7

ดูธรณีนี่นี้ใครครองย้อนหลัง (ตอนที่ 11) 21 กรกฎาคม 2555 ช่วงที่ 8

ดูธรณีนี่นี้ใครครองย้อนหลัง (ตอนที่ 11) 21 กรกฎาคม 2555 ช่วงที่ 9

วันนี้ ขณะที่อาทิจ ดรุณี และสามเกลอ กำลังเก็บข้าวโพดที่แปลง เวทางค์ก็ขับรถมาจอด ลงจากรถพร้อมวิไลลักษณ์ เวทางค์ตรงไปบอกดรุณีว่า พรุ่งนี้จะมารับกลับกรุงเทพฯแต่เช้า วิไลลักษณ์สั่งเวทางค์ให้พาดรุณีไปหาคุณย่าก่อน ตนจะคุยธุระกับอาทิจสักครู่เดี๋ยวตามไป เรื่องที่วิไลลักษณ์คุยกับอาทิจคือเตือนเขาให้รักษาระยะห่างกับดรุณีไว้ ตนเกรงคนอื่นจะเอาไปพูดในทางไม่ดีเพราะอาทิจเองก็มีเมียแล้ว พูดแล้วจะกลับเลย อาทิจยังมีแก่ใจจะขี่จักรยานไปส่งเพราะค่ำแล้ว วิไลลักษณ์ทำท่ารังเกียจว่ารถสกปรก แต่พออาทิจขู่ว่าค่ำๆแบบนี้งูจงอางชอบออกมาเลื้อยเล่นแถวนี้เท่านั้น วิไลลักษณ์ก็กระโดดซ้อนจักรยานอาทิจแทบไม่ทัน คืนนี้ คุณย่าแบ่งเงินปันผลให้อาทิจ เขาขออนุญาตไม่รับเพราะปีที่แล้วนาข้าวเสียหายหมด คุณย่าบอกว่า นาข้าวเสียหายแต่ผลผลิตอื่นยังดี กอปรกับดรุณีบอกให้รับไว้ อาทิจจึงไหว้ขอบคุณคุณย่าและรับซองไว้ แต่คืนนี้คุณย่าท่าทางเพลียๆ หลังจากดื่มนมอุ่นๆที่น้าแก้วเอามาให้แล้วก็ไปนอน อาทิจเองก็เตรียมกลับ ดรุณีบอกเขาว่าพรุ่งนี้ให้เขามาส่งด้วย เวทางค์จะมารับตนตอน 6 โมงเช้า อาทิจรับคำด้วยความรู้สึกตื้อๆ ยกนมดื่มหมดแก้วแก้เก้อ เผลอทำแก้วนมของดรุณีหกเลอะเทอะตัวเอง เลยยิ่งประหม่า ดรุณีบอกว่าอย่างนี้ต้องกลับไปอาบน้ำแล้ว อาทิจจึงกลับไป นึกโมโหตัวเองที่เขินจนเก็บอาการไม่อยู่ ooooooo เช้าวันที่ดรุณีจะเดินทางนี่เอง สามเกลอก็ วิ่งหน้าตื่นมาบอกอาทิจว่า เห็นทองประศรีนอนกับบรรยงที่บ้านพักของเขา อาทิจลิ่วไปจับได้คาหนังคาเขาว่าทั้งสองเป็นชู้กัน เขาประกาศทันทีว่า “เธอกับฉัน เราขาดกันตั้งแต่วินาทีนี้ ออกไปจากที่นี่แล้วอย่ากลับมาให้ฉันเห็นหน้าอีก!!!!” อาทิจอุ้มตะวันออกมา สามเกลอเดินตาม ทองประศรีวิ่งออกมาร้องไห้โฮๆ ซบอกบรรยงที่ออกมาปลอบที่หน้าบ้าน จนได้เวลาเดินทางของดรุณี อาทิจก็ยังไม่มา น้าแก้วถามจิ๋วแจ๋วจึงรู้ว่า “ไม่อยู่ค่ะ ลุงเกร็งบอกว่า…ว่า…เออะ…คุณอาทิจไปที่บ้านพักติดน้ำตกค่ะ” น้าแก้วตกใจถามว่าไปทำไม “คือ…พี่ต๊อด พี่อึ่ง พี่พัน มาบอกคุณอาทิจน่ะค่ะว่า… เออ…เห็น…เห็นแม่ทองประศรีนอนกับผู้ชายอื่นที่บ้านค่ะ” น้าแก้วตกใจ ส่วนดรุณียืนอึ้ง เวทางค์เร่งว่า “ไปกันเถอะ น้องณี อยู่นี่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ เรื่องมันเกิดขึ้นแล้วนี่” แต่พอรถเวทางค์พ้นไปไม่นาน อาทิจก็ปั่นจักรยานมาอย่างเร็ว ถามจิ๋วแจ๋วที่ยังอยู่แถวนั้นว่าดรุณีไปนานแล้วหรือ พอจิ๋วแจ๋วบอกว่าเพิ่งไปเมื่อกี้นี้เอง อาทิจก็ปั่นจักรยานออกไปสุดแรงเกิด อาทิจปั่นจักรยานไปทางลัด อึดใจเดียวก็ทะลุถนนที่ดาดาษไปด้วยต้นนางพญาเสือโคร่งที่กำลังออกดอกสะพรั่ง แต่ใจเขาเวลานี้ไม่ได้สนใจความงามของดอกนางพญาเสือโคร่ง คิดแต่ว่าต้องตามไปดักส่งดรุณีให้ทันให้ได้ ooooooo ระหว่างทาง เวทางค์พยายามพูดให้เห็นว่า เรื่องทองประศรีคบชู้นี้ไม่น่าเป็นความผิดของฝ่ายหญิงเท่านั้น อาทิจเองก็คงสนใจเมียน้อยไป เลยทำให้ฝ่ายหญิงทนไม่ได้ พูดแล้วถามความเห็นดรุณี เธอตอบอย่างไม่อยากผสมโรงด้วยว่า “ไม่ทราบค่ะ มันเป็นเรื่องส่วนตัวของพี่อาทิจ” เวทางค์ถามอีกว่าแล้วเธอคิดยังไง “ไม่คิดค่ะ ถ้าจะคิดก็คิดแค่ว่าเมื่อไหร่พี่เวจะหยุดพูดเรื่องนี้สักที” พูดแล้วเบือนหน้ามองไปนอกรถ สายตามองตรงไปที่เนินแปลงกะหล่ำปลี พลันก็ร้องอย่างตื่นเต้น “หยุดค่ะ…หยุดดดดด จอดรถให้ณีแป๊บนึง” เวทางค์จอดรถงงๆ ดรุณีรีบเปิดประตูรถลงไปโบกมือให้อาทิจที่ปั่นจักรยานมาถึงเนินกะหล่ำปลีพอดี แม้จะอยู่ห่างกันมาก แต่เธอก็โบกมือสุดแขนให้เขา ส่วนอาทิจก็หยุดรถป้องปากตะโกนสุดเสียง “พี่มาส่งแล้วนะน้องณี…” แล้วต่างโบกมือให้กันอยู่อย่างนั้น จนเวทางค์ทนไม่ไหว บอกว่าจอดรถอย่างนี้อันตรายเร่งให้รีบไปดีกว่า พออาทิจเห็นดรุณีหันหลังขึ้นรถ เขาพึมพำ “โชคดีนะครับน้องณี…” แล้วยืนมองจนรถเวทางค์ขับลับเหลี่ยมเขาไป ooooooo 1 เดือนต่อมา อาทิจเริ่มปักดำกล้าข้าวกันอย่างมุ่งมั่นตั้งใจ โดยคุณย่ามาช่วยด้วย พอแดดเริ่มแรงขึ้น อาทิจเอาขันเงินตักน้ำฝนมาให้คุณย่าดื่ม บอกให้คุณย่าพักก่อน ไม่ต้องมาลงมือก็ได้ แค่มายืนเป็นกำลังใจตนก็ดีใจมากแล้ว คุณย่ายอมไปนั่งดูเพราะรู้สึกปวดหลังแล้ว น้าแก้วบอกว่าตนเองทำแค่นี้ก็ยังจะหน้ามืดเอาเหมือนกัน คุณย่าเลยสอนให้รู้ถึงวัฏจักรของชีวิตว่า “ทุกอย่างย่อมเสื่อมไปตามกาลเวลา สุดท้ายก็มอดไหม้เป็นเถ้าธุลีกลับสู่ผืนดิน จะเหลือก็แต่คุณงามความดีที่ทำเอาไว้ตอนมีชีวิตอยู่เท่านั้น” อาทิจปรารภว่า ไม่รู้ปีนี้น้ำจะมากเหมือนปีที่แล้วหรือเปล่า น้าแก้วพูดทันทีว่าถ้ามากอย่างปีที่แล้วก็ไม่ไหวแล้ว “ต้องไหว” คุณย่าสวนขึ้นเนิบๆ “อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด เราห้ามธรรมชาติไม่ได้ แต่เราห้ามใจเราได้ อย่ารู้สึกว่าเราสูญเสีย เพราะคนอื่นที่สูญเสียกว่าเราก็มีอีกเยอะ ที่สำคัญ…เราต้องรู้จักช่วยเหลือตัวเองก่อนที่จะเอ่ยปากขอความช่วยเหลือจากใคร เพราะถ้าเราลำบากคนอื่นก็ลำบากด้วยเหมือนกัน จำไว้นะลูก” “ครับ…ผมเคยบอกคุณย่าหรือยังครับว่า ผมโชคดีที่สุดที่ได้เกิดเป็นหลานคุณย่า” อาทิจเอ่ยอย่างซาบซึ้งแล้วโผเข้ากอดคุณย่า คุณย่าโอบหลานรักไว้น้ำตาคลอด้วยความรัก ooooooo หลังจากปักดำข้าวได้ 2 เดือน อาทิจนั่งเขียนจดหมายถึงดรุณีที่กระท่อมใช้แพ็กสตรอเบอร์รี่ เขียนเล่าอย่างภูมิใจว่า “ตอนนี้ ข้าวที่ปักดำไปแล้ว 2 เดือน กำลังโตวันโตคืน สตรอเบอร์รี่กับส้มก็แข่งกันออกลูกดก กะหล่ำปลีที่ลงไว้กำลังงาม ข้าวโพดที่ปลูกและเก็บไป 2 รอบแล้ว รอบนี้เป็นรอบที่ 3…ทุกอย่างที่นี่กำลังเติบโตงดงาม เพื่อรอวันที่น้องณีกลับมา ปีนี้พี่ทดลองปลูกบ๊วยกับ ลาเวนเดอร์ด้วย ไม่รู้จะได้ผลดีรึเปล่า…” อาทิจเป็นห่วงเธอ เตือนว่าฤดูหนาวกำลังใกล้เข้ามาแล้วให้รักษาสุขภาพ และควรหายาแก้หวัด แก้ปวดหัวตัวร้อนไว้ใกล้ตัวด้วย เวลาจะใช้จะได้หยิบใช้ได้เลย และลงท้ายว่า “ป.ล. นายตะวันของพี่ณีสบายดี และถามถึงพี่ณีของแกบ่อยมาก…แค่นี้นะครับ พี่อาทิจ” ดรุณีอ่านจดหมายเสร็จพับเก็บ ตุ่นเข้ามาพอดีถามว่าอ่านจดหมายพี่ชายที่แสนดีหรือ ดรุณีทำเสียงอื้อในลำคอ ถามว่าแล้วเธอไปไหนมา ตุ่นบอกว่าไปเหล่แถวๆสนามกีฬา เลยถูกดรุณีแซวว่าไปตามล่าหาชายในฝันหรือ ดูท่าจะอยู่แต่ในฝันจริงๆเสียแล้ว เพราะเห็นตามหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอสักที ถึงตามไม่เจอแต่ตุ่นก็ยังพรรณนาอย่างคลั่งไคล้ว่าเขาน่ารักจริงๆ หล่อมากด้วย ดรุณีมองเลยไปข้างหลังตุ่น ถามว่า “หล่อมากเท่าคนนี้รึเปล่า” ตุ่นหันขวับไป เจอเวทางค์ยืนเต๊ะเก๊กหล่ออยู่ เธอหันกลับทันทีทำหน้าพะอืดพะอมปากขมุบขมิบ จนดรุณีอดยิ้มขำๆไม่ได้ ooooooo ดรุณีเขียนจดหมายตอบอาทิจ เล่าถึงการเรียนของตนว่าอีก 2-3 วันจะสอบกลางภาคแล้ว สอบเสร็จจะขึ้นไปช่วยเขาทำงาน ป.ล.เตือนเขาว่าอากาศเย็นให้ระวังรักษาสุขภาพเช่นกัน แล้วตบท้ายด้วยข้อความที่ทำให้อาทิจอ่านแล้วอมยิ้มว่า “ฝากกราบเท้าคุณย่าด้วยนะคะ เรียนท่านด้วยว่า ณีคิดถึงท่านมากที่สุด คิดถึงพี่อาทิจรองลงมาค่ะ…รักและนับถือพี่อาทิจที่สุด…ดรุณี” เวลาผ่านไปจนข้าวออกรวง อาทิจเขียนบรรยายความงดงามของท้องทุ่งที่เกิดจากแรงกายแรงใจของพวกเราทุกคน บอกว่ารอวันที่เธอจะเรียนจบและกลับมาชมความงามของนาข้าวด้วยกัน แต่พอจะลงท้ายจดหมาย อาทิจคิดครู่หนึ่งจึงลงท้ายด้วยข้อความที่ต่างจากทุกครั้งว่า “เป็นห่วงน้องณีครับ…พี่อาทิจ” ดรุณีอ่านคำลงท้ายจดหมายฉบับนี้แล้วยิ้มปลื้มนึกในใจว่า “ลงท้ายแบบใหม่เสียด้วย” จนถูกตุ่นแซวว่า อ่านจดหมายจากพี่อาทิจอีกแล้วล่ะสิ เห็นเพื่อนรักปลื้มพี่ชายคนนี้มาก ตุ่นบอกว่าวันไหนจะต้องไปรู้จักหน่อยเสียแล้ว ดรุณีย้ำว่าจริงๆนะแล้วจะแนะนำให้รู้จักพี่อาทิจ…ถูกตุ่นดักคอว่า “หล่อที่ 1 ดีที่สุด” แล้วสองเพื่อนรักก็พากันหัวเราะที่ช่างรู้ใจ รู้ทันกันเสียหมด ooooooo วันนี้ ท้องฟ้าแจ่มใส อากาศเย็นสบาย…อาทิจประคองคุณย่าเดินไปตามคันนา บางช่วงคุณย่าหยุดมองดูท้องทุ่งนาที่กว้างไกลสุดสายตา ยิ้มปลื้มชมว่า “งาม…งามเหลือเกิน ขอบใจพ่อมากนะ ในที่สุดพ่อก็ทำให้ฝันของย่าเป็นจริง ทำให้ย่าได้เห็นข้าวออกรวงสะพรั่งบนที่ดินของตัวเองจนได้…อีกไม่กี่วันก็จะเปลี่ยนเป็นสีทอง งามไปอีกแบบนะพ่อ” สิ่งที่คุณย่าภูมิใจยิ่งกว่าคือ อาทิจที่เป็นคนรุ่นใหม่หันมาทำนาปลูกข้าว ผิดกับหลายคนในวัยเดียวกันที่ทิ้งผืนนาไปทำงานในเมืองกันหมด มีคนปลูกข้าวกินเป็นอย่างนี้แล้วไม่มีวันอดตายหรอก ค่ำนี้ มีเรื่องให้คุณย่าอิ่มใจอีก เมื่ออาทิจแกงหอง มาให้ชิม เป็นการหัดทำครั้งแรกแต่รสชาติกลมกล่อมจนคุณย่าชมว่าอร่อยจริงๆ ถามว่าอยู่ที่บ้านทำกับข้าวกินบ่อยใช่ไหม “ครับ คุณแม่ผมฝึกให้ทำงานบ้านเป็นทุกอย่าง เพราะมีน้องหลายคน ผมต้องช่วยท่านดูแลน้องๆครับ” “ดีแล้วล่ะลูก ยิ่งเราเป็นลูกที่ดี รู้จักกตัญญูต่อพ่อแม่มากเท่าไหร่ ก็จะมีคนเห็นความดีของเรา และสรรเสริญไปถึงพ่อแม่ของเรามากเท่านั้น เท่ากับเราได้แสดงกตเวทีต่อท่านด้วย…” คุณย่าจับมืออาทิจขึ้นมาลูบไปมาเอ่ยด้วยความรัก “ขอให้พ่อจำเริญๆยิ่งๆขึ้นไปนะพ่อนะ” หลังจากนั้น คุณย่าพูดอย่างสบายใจมากว่า “วันนี้ย่าอิ่มทั้งกายอิ่มทั้งใจ ไม่มีอะไรต้องห่วงต้องกังวลอีกแล้ว” อาทิจตักแกงหองให้คุณย่าอีก น้าแก้วยืนมองความรักของย่าหลานแล้วยิ้มอย่างมีความสุขไปด้วย ooooooo เช้าวันรุ่งขึ้น น้าแก้วไปเคาะประตูห้องคุณย่าบอกว่าอาหารใส่บาตรเสร็จเรียบร้อยแล้ว ไม่มีเสียงตอบรับจากคุณย่าอีก น้าแก้วจึงเปิดประตูเข้าไป เห็นคุณย่านอนนิ่งอยู่ จึงไปเปิดหน้าต่าง บอกคุณย่าว่า จวนได้เวลาพระมารับบาตรแล้ว เห็นคุณย่ายังนอนนิ่ง น้าแก้วเริ่มเอะใจ เดินไปแตะที่เท้าเพื่อปลุก พลันก็ชะงัก น้าแก้วรีบเอามือไปอังที่จมูก แล้วก็ร้องเรียกสุดเสียง… “คุณย่า!!!!” น้าแก้ววิ่งไปตามอาทิจที่สวนส้ม เมื่อเขาเข้ามาเห็นสภาพของคุณย่าที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง เขาเปลี้ยไปทั้งตัวจนแทบไม่มีแรงยืน ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ สมองอื้ออึง ดวงตาพร่าพราย ความรู้สึกสูญเสียประดังเข้ามาจนแทบหายใจไม่ออก… เมื่อได้สติ อาทิจก้มกราบแทบเท้าคุณย่า บอกน้าแก้วให้ช่วยโทรศัพท์บอกดรุณีด้วยว่ามีธุระด่วนให้รีบกลับมา แต่อย่าเพิ่งบอกเรื่องคุณย่าเสีย เมื่อน้าแก้วออกไปแล้ว อาทิจโผเข้ากอดเอาหน้าซุกแทบเท้าคุณย่า ร้องไห้ออกมาอย่างหนัก ร้องให้สาสมกับที่ใจอยากร้อง… น้าแก้วโทรศัพท์หาดรุณี โทร.เข้าโทรศัพท์บ้านไม่มีคนรับสาย โทร.เข้ามือถือก็ให้ฝากข้อความอีก น้าแก้วพยายามทำเสียงให้เป็นปกติ ฝากข้อความว่าให้กลับบ้านด่วนที่สุด คุณย่ามีธุระสำคัญจะคุยด้วย บอกให้ขึ้นเครื่องบินมาเลย น้าแก้วจะส่งคนไปรับที่สนามบินเอง กลับมาบอกอาทิจแล้ว ชายหนุ่มฝากน้าแก้วให้เฝ้าคุณย่าก่อน ตนจะไปจัดการเรื่องสถานที่กับโลงให้เรียบร้อยและให้น้าแก้วช่วยโทร.แจ้งญาติๆ ทุกคนด้วย อาทิจกับน้าแก้วจับมือมองหน้ากันน้ำตาไหลพราก ต่างรับรู้ถึงความเจ็บปวดของกันและกัน ได้แต่มองหน้าปลอบกันด้วยสายตา… ดรุณีกลับมาเปิดโทรศัพท์ดู เจอมิสคอลเป็นสิบเที่ยวจากน้าแก้วบอกว่าคุณย่ามีธุระด่วน ก็ไม่สบายใจรีบกลับทันที ooooooo โลงศพคุณย่าตั้งอยู่ท่ามกลางสวนสวย ประดับด้วยดอกเก็ตถะวาดอกไม้ที่คุณย่าชอบมากมาย ทุกคนทำงานไปเช็ดน้ำตาไปด้วยความโศกเศร้า ไม่นานนัก วิไลลักษณ์กับประเวทย์และลูกๆก็มาถึง วิไลลักษณ์วิ่งเซซังนำหน้าประเวทย์เข้ามา ถลาลงไปกับพื้นที่หน้าโลงศพร้องไห้ปิ่มว่าจะขาดใจ คร่ำครวญความหวังลึกๆ ที่ยังไม่สัมฤทธิ์ว่า “โธ่…คุณแม่ไม่น่าเลย เมื่อวันก่อนยังกินข้าวด้วยกัน ยังคุยกันว่าจะยกที่ดินในเวียงให้วิไลอยู่แท้ๆ ไม่น่ามาด่วนจากไปเลย” ประเวทย์ถามน้าแก้วว่าคุณแม่เป็นอะไร ทำไมถึงจากไปอย่างกะทันหันเช่นนี้ น้าแก้วบอกว่าท่านไม่ได้เป็นอะไร แต่หลังๆมานี่ท่านคงเหนื่อยและล้าไปตามวัย เพราะท่านทำงานไม่มีวันหยุดมาตลอด แถมตอนหลังๆยังอารมณ์ดี ชวนตนคุยอย่างยิ้มแย้มเหมือนท่านมีความสุขกับชีวิต ประเวทย์ขอบใจอาทิจที่จัดการดูแลงานทุกอย่างด้วยดี วิไลลักษณ์ติงว่าน่าจะจัดที่วัดใหญ่ๆในเมือง คนจะได้มางานกันเยอะๆ เพราะลูกชายท่านเป็นถึงผู้ว่าฯ “จัดที่นี่แหละเหมาะสมที่สุดแล้ว ท่านรักที่นี่ก็คงอยากอยู่อย่างสงบที่นี่” ประเวทย์ขัดขึ้น วิไลลักษณ์เลยแอบค้อนอย่างขัดใจ แล้ววิไลลักษณ์ก็เรียกอาทิจไปคุยส่วนตัว ถามว่าคุณย่าสั่งเสียเรื่องพินัยกรรมอะไรบ้างหรือเปล่า เมื่ออาทิจบอกว่าไม่ทราบ และยังไม่อยากคุยเรื่องนี้ วิไลลักษณ์ก็พูดกันท่าว่า “คุณย่าคงไม่อยากให้เราเสียใจ ท่านเคยพูดว่าจะยกสมบัติให้ตาเว ยายวิ แล้วก็ยายณีมากกว่าหลานคนอื่นๆ เพราะอยู่ใกล้ชิดท่านมานาน อาทิจคงไม่เสียใจนะ” เมื่ออาทิจบอกว่าไม่ วิไลลักษณ์ก็แบะท่าว่า อาทิจก็ยังทำงานอยู่ที่นี่ได้ ถึงแม้ว่าจะมีคนอื่นมาครอบครองที่นี่แทนคุณย่าคือเวทางค์และวิยะดา เพราะท่านเปรยหลายครั้งแล้วว่าอยากให้เวทางค์กับดรุณีแต่งงานกัน จ้องหน้าอาทิจถามว่า “เสียใจไหม” “ไม่ครับ” อาทิจเก็บอาการเต็มที่ บอกว่าเมื่อเป็นความต้องการของคุณย่าก็เป็นเรื่องที่ตนต้องยินดีไม่ใช่เสียใจ แล้วขอตัวไปทำงานต่อ เมื่ออาทิจแยกไปแล้ว วิไลลักษณ์โทรศัพท์ถามเวทางค์อย่างหงุดหงิดว่า “มาถึงเชียงใหม่รึยังตาเว ยายวิ ลูกหลานคนอื่นร้องไห้ตัดหน้าเราสองคนไปหมดแล้วนะ รีบมาไวๆเลย” ส่วนดรุณีมาถึงสนามบินเชียงใหม่แล้ว เกร็งเป็นคนไปรับ เธอบอกว่าคิดว่าอาทิจจะมา เกร็งบอกว่าเขากำลังยุ่งมาก เธอถามอีกว่าที่สวนคุณย่ามีอะไรหรือ เกร็งน้ำตาคลอ ตัดบทว่าให้รีบกลับไปถามท่านเองก็แล้วกัน ดรุณีจึงรีบขึ้นรถไปด้วยความร้อนใจอยากรู้ว่าคุณย่ามีธุระด่วนอะไร เมื่อดรุณีมาพบความจริงว่าคุณย่าไม่อยู่กันตนแล้ว เธอร้องไห้จนเป็นลม อาทิจถลาเข้าประคอง ถูกวิไลลักษณ์มากันท่า สั่งเวทางค์ให้อุ้มดรุณีกลับบ้านไปก่อน อาทิจจึงต้องหลีกทาง ได้แต่มองตามเวทางค์ที่อุ้มดรุณีไปด้วยความเป็นห่วง ooooooo
พาดรุณีมานอนพักที่ห้องรับแขกบ้านคุณย่าแล้ว วิไลลักษณ์พยายามจะให้เวทางค์เฝ้าดรุณีในคืนนี้ เวทางค์ไม่กล้าชวนวิยะดาเป็นเพื่อน น้องสาวยิ่งไม่กล้ากลัวคุณย่าจะมาหา แม้วิไลลักษณ์จะไม่พอใจแต่ก็บังคับลูกไม่ได้ จึงพากันกลับเมื่ออาทิจกลับมา น้าแก้วถามว่างานเรียบร้อยดีไหม อาทิจบอกว่าเก็บกวาดเรียบร้อยแล้ว และให้คนงานอยู่เป็นเพื่อนคุณย่าหลายสิบคน บอกว่า “ผมแวะมาดูน้องณี เป็นยังไงบ้างครับ”“ฟื้นแล้วก็เป็นลมพับไปหลายตลบแล้วค่ะ น้าแก้วให้จิ๋วแจ๋วเฝ้าไว้ ปิดบ้านเสร็จก็จะขึ้นไปเช็ดตัวให้ เอ่อ…น้าแก้วรบกวนคุณอาทิจช่วยเฝ้าคุณณีสักประเดี๋ยวนะคะ อยากให้จิ๋วแจ๋วลงไปหายาแก้ไข้ให้คุณณีน่ะค่ะ” ระหว่างอาทิจเฝ้าอยู่นั้น ดรุณีรู้สึกตัวขึ้นมาเพ้อหาคุณย่า ร้องไห้คร่ำครวญว่าคุณย่าทิ้งไปอย่างนี้ตนไม่เหลือใครแล้ว อาทิจสะเทือนใจกุมมือเธอบอกว่า “น้องณีไม่ได้อยู่คนเดียว น้องณียังมีพี่อีกคน” พอนึกได้อาทิจ รีบปล่อยมือจากเธอ ก็พอดีน้าแก้วยกน้ำอุ่นเข้ามาจะเช็ดตัวให้ เขาจึงขอตัวกลับไป ooooooo เย็นวันรุ่งขึ้น ดรุณีไปนั่งมองโลงศพคุณย่าน้ำตาเอ่อท้น เธอนั่งอยู่อย่างนั้นเป็นชั่วโมง จนเมื่อพวกวิไลลักษณ์มาถึง วิไลลักษณ์โผเข้าหาดรุณีทันที ตีหน้าเศร้าเข้าไปกอดแสดงความเสียใจ เห็นใจ และเป็นห่วง ปลอบใจว่าอย่าคิดมาก… เวทางค์กับวิยะดาตามเข้าไปปลอบใจ เวทางค์โอบดรุณีไว้ ในมุมที่อาทิจยืนอยู่เห็นเหมือนดรุณีซบอกเวทางค์ เขารู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก จนต้องเดินเลี่ยงไปด้วยความรู้สึกว่าตัวเองเป็นเพียงส่วนเกินเท่านั้น… เย็นนี้เอง ประวิทย์ก็มาถึง อาทิจไปรับพ่อด้วยความเสียใจที่พ่อมาก็ไม่เจอคุณย่าแล้ว ไม่ต่างกับประวิทย์ที่ต้องมากราบศพท่านโดยที่ไม่มีโอกาสได้ตอบแทนคุณของท่าน ยังไม่ได้ขอโทษท่านกับการกระทำของตัวเองในอดีต เขาปักธูปก้มกราบน้ำตาคลอ… เมื่อดรุณีรู้ว่าประวิทย์คือพ่อของอาทิจ เธอลุกมาไหว้อย่างนอบน้อมด้วยความเคารพ บ่ายวันต่อมา บรรดาลูกหลานญาติมิตรและคนงาน พากันมางานเผาศพคุณย่าบนกองฟอนกลางแจ้ง ระหว่างที่ไฟลุกจากกองฟอนนั้น ทุกคนยืนสงบนิ่งน้ำตาคลอ ต่างระลึกถึงคำสอนของคุณย่าที่ว่า “…เราต้องไม่ลืมว่า มนุษย์กับธรรมชาติ คืออันหนึ่งอันเดียวกัน เราหว่านเมล็ดพันธุ์พืชจนออกดอกออกผลงดงามแล้ว เราต้องรู้จักหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความรัก ความเมตตาให้เจริญงอกงามในจิตใจของเราด้วย คนต้องพึ่งธรรมชาติฉันใดธรรมชาติก็ต้องพึ่งการดูแลเอาใจใส่จากคนฉันนั้น ทุกลมหายใจของสรรพสิ่งในโลกนี้ ต่างต้องพึ่งพาอาศัยกัน ทุกชีวิตจึงจะอยู่ได้อย่างมีความสุข” ooooooo เช้าวันรุ่งขึ้น อาทิจบอกประวิทย์ว่าอยากได้อัฐิกับเถ้าบางส่วนของคุณย่าไปฝังไว้บนเนินที่คุณย่าชอบ ถูกวิไลลักษณ์ท้วงติงว่านั่นเท่ากับแยกชิ้นส่วนของคุณย่าไปคนละทิศละทาง เราควรเอาใส่โกฏิไว้ที่บ้านตามประเพณีดีกว่า แม้อาทิจจะผิดหวัง แต่ก็ยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจนี้… คุณย่าเขียนพินัยกรรมไว้สองฉบับ วันนี้ทนายอ่านพินัยกรรมฉบับแรกโดยมีผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมานั่งฟังอย่างตั้งใจ “ลูกๆทุกคนจะได้รับมรดกส่วนแรกเป็นเงินสดในธนาคารคนละ 3 ล้านบาท ส่วนทรัพย์สินที่เป็นอสังหาริมทรัพย์อื่นๆทั้งหมด จะอยู่ในพินัยกรรมฉบับที่ 2 ซึ่งจะเปิดก็ต่อเมื่อ น.ส.ดรุณี เรียนจบมหาวิทยาลัยแล้ว ระหว่างที่ น.ส.ดรุณีศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัย ให้นายอาทิจเป็นผู้ปกครองของ น.ส.ดรุณีและเป็นผู้ดูแลกิจการทั้งหมดแทนคุณย่าจนกว่า น.ส.ดรุณีจะเรียนจบ” อ่านเสร็จทนายถามทุกคนว่า “ไม่ทราบมีท่านใดจะคัดค้านอะไรไหมครับ” ประวิทย์ยกมือค้านข้อแรก โดยขอสละสิทธิ์เงินส่วนแบ่ง 3 ล้าน ให้เอาไปเฉลี่ยให้น้องๆทุกคน เพราะที่ผ่านมาตนไม่ได้ดูแลน้องๆและช่วยเหลืองานคุณแม่เท่าที่ควร ยังความยินดีแก่ทุกคนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะวิไลลักษณ์ เมื่อทนายถามว่ามีท่านใดคัดค้านไหม เธอตอบเสียงใสเป็นคนแรกว่า “ไม่มีค่ะ” ทนายจึงอ่านพินัยกรรมที่เขียนถึงอาทิจว่า “สุดท้ายนี้ย่าขอให้อาทิจย้ายขึ้นมาอยู่ที่ห้องของย่าและช่วยเอากระดูกและเถ้าของย่าไปฝังไว้บนยอดภูที่ย่าชอบไป ซึ่งอาทิจรู้ดีว่าอยู่ที่ไหน” อาทิจขนลุกซู่ด้วยความดีใจ ในที่สุดเขาก็พาคุณย่าไปอยู่ในที่ที่ท่านรักจนได้ เมื่อทนายอ่านพินัยกรรมฉบับแรกจบแล้ว ประวิทย์ให้กำลังใจอาทิจให้ทำทุกอย่างที่คุณย่าฝากฝังไว้ให้สำเร็จและอย่าได้ตั้งความหวังว่าคุณย่าจะยกสมบัติเหล่านั้นให้เป็นอันขาด อาทิจบอกพ่ออย่างสบายใจว่าตนตั้งใจไว้แล้วว่าถึงคุณย่าจะไม่ให้อะไร ตนก็จะดูแลที่นี่ให้ท่าน จนกว่าเจ้าของตัวจริงจะมาดูแลแทน ถึงเวลานั้นตนก็จะไปบุกเบิกที่ดินทำกินของตัวเอง ประวิทย์กับประเวทย์ก็ปรับความเข้าใจกัน ประวิทย์บอกว่าถ้าย้อนเวลาได้ตนจะไม่ทำอย่างในอดีต ประเวทย์ย้อนถามว่า ถ้าพี่ไม่ทำอย่างนั้นแล้ว วันนี้จะมีอาทิจมาดูแลสวนให้คุณย่าหรือ สองพี่น้องกอดกันด้วยความรักความเข้าใจกัน ooooooo ในวันที่อาทิจและดรุณีเอาเถ้ากระดูกของคุณย่าไปฝังไว้ยอดเขาที่ปลูกต้นเก็ตถะวาที่คุณย่าชอบไว้รายรอบแล้ว อาทิจให้เอาจดหมายของคุณย่าที่ฝากน้าแก้วไว้นานแล้ว แต่สั่งให้มอบให้หลังท่านสิ้นมาอ่าน ดรุณีกลั้นน้ำตาอ่านฟังกัน คุณย่าเขียนถึงทั้งสองคน ฝากความหวังไว้ว่าจะช่วยกันสร้างชีวิตใหม่และปลูกฝังความรักในผืนดินให้ทุกชีวิตที่สวนคุณย่า คุณย่าบรรยายไว้จนดรุณีต้องกลั้นน้ำตาอ่านว่า… “ย่าโชคดีเหลือเกินที่ได้เห็นหลานเติบโตเป็นหนุ่มสาวที่งดงามทั้งกายและใจ อิ่มใจที่ได้เห็นที่ดินของตัวเองเต็มไปด้วยไม้ผลที่กำลังออกดอกออกผลงดงามในขณะที่ยังมีลมหายใจ และสุขใจที่สุดเพราะแน่ใจว่าหลานทั้งสองจะเป็นตัวแทนสานต่องานของย่าต่อไป เท่านี้ย่าก็นอนตายตาหลับแล้ว สำหรับพ่ออาทิจ ย่าขอให้พ่อช่วยดูแลน้องแทนย่าด้วย แม่ณีก็ต้องรักและเคารพพี่ ถ้าวันใดไม่มีย่าอยู่ด้วยแล้ว ย่าเชื่อเหลือเกินว่า พ่ออาทิจจะทำหน้าที่ดูแลแม่ณีแทนย่าได้เป็นอย่างดี…รักหลานทั้งสองสุดหัวใจ…ย่าแดง” “พี่จะอยู่กับน้องณี จะดูแลน้องสาวของพี่คนนี้จนกว่าจะมีใครมาดูแลแทน” ดรุณีโผเข้ากอดอาทิจไว้ร้องไห้โฮอย่างหมดความอดทน อาทิจกอดไว้ด้วยความรักและห่วงใย ooooooo เมื่อสิ้นคุณย่าแล้ว อาทิจทุ่มเททำงานแทนคุณย่า ใช้ทั้งพระเดชและพระคุณ ทั้งกระหนาบและกำราบพวกคนงานเกเรจนอยู่หมัด แม้ดรุณีจะเป็นห่วงเขาแต่เห็นการปกครองของเขาแล้วก็มั่นใจและให้กำลังใจ แต่ก็ไม่วายถูกเวทางค์มายุแยงตะแคงรั่วว่า อาทิจอาจยุ่งกับงานจนไม่มีเวลามาเป็นผู้ปกครองและดูแลเธอตามที่คุณย่าเขียนจดหมายฝากฝังไว้ ทั้งเหน็บแนมถากถางอาทิจว่า อย่าทำงานล้ำเส้นในฐานะผู้ปกครองดรุณีก็แล้วกัน แต่ไม่ว่าจะเจออุปสรรคอะไร อาทิจก็ยังคงหนักแน่น มั่นคง ดำเนินชีวิต และทำงานต่อไปอย่างไม่ย่อท้อด้วยความมุ่งมั่น วันนี้ถึงเวลาทานอาหารเย็น เมื่อน้าแก้วตั้งโต๊ะแล้วบอกให้จิ๋วแจ๋วไปตามอาทิจมากินข้าว ดรุณีขัดขึ้นว่า “ไม่ต้องหรอกจิ๋วแจ๋ว บางทีพี่อาทิจเขาคง…ไม่อยากมา เขาอาจจะเหนื่อยกับงาน จนไม่อยากมาดูแล “เด็กในปกครอง” คนนี้แล้วก็ได้” “พี่ไม่เหนื่อย ถ้าเด็กในปกครองจะยอมให้ผู้ปกครองคนนี้ดูแล” อาทิจเข้ามาพอดีพูดแทรกขึ้น เขายิ้มและมองเธอด้วยแววตาอ่อนโยน อาทร ลึกซึ้ง จนดรุณีต้องหลบสายตาคู่นั้น พยายามควบคุมความรู้สึกและกิริยาให้เป็นปกติอย่างที่สุด ooooooo



ชอบเว็บนี้ กด Like เลย


ขอขอบคุณ Youtube Channel: TV3 Official, gmmchannel, GTHchannel, MCOT Official และ ช่อง one

ความคิดเห็น


เพื่อนๆที่ดูไม่ได้แนะนำให้ลองใช้โปรแกรม Chrome ในการดูนะครับ